บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ โดยมีจุดเริ่มต้นจาก Dr.James A.Naismith ครูสอนพลศึกษาของ The International Y.M.C.A. Training School ที่ต้องการให้นักเรียนได้เล่นกีฬาในช่วงฤดูหนาว จึงได้นำกีฬาอเมริกันฟุตบอลและเบสบอลดัดแปลงเข้าด้วยกัน จนได้เป็นกีฬาแบบทีมที่เล่นในร่ม โดยใช้ลูกฟุตบอล และตะกร้าลูกพีชติดอยู่บนกำแพงทั้งสองฝั่ง นับเป็นเกมที่มีความสนุกสนานและได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี
กีฬาบาสเกตบอลได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงประเทศไทย เพราะเป็นกีฬาที่มีกติกาไม่ซับซ้อนและมีอุปกรณ์ไม่มาก เพียงลูกบาสเกตบอล และห่วง พร้อมสถานที่ก็สามารถเล่นได้แล้ว นอกจากอุปกรณ์บาสเกตบอลแล้ว รองเท้าบาสก็มีความสำคัญในการเล่นเช่นกัน เพราะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดระหว่างการเล่นได้ บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเรื่องอุปกรณ์บาสเกตบอล และวิธีเลือกรองเท้าบาสที่มือใหม่ควรรู้มาให้อ่านกัน
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่มีอุปกรณ์ในการเล่นที่เริ่มจากลูกฟุตบอล และตะกร้าใส่ลูกพีชเท่านั้น ในเวลาต่อมาได้มีการพัฒนาอุปกรณ์บาสเกตบอลขึ้น ซึ่งมีอุปกรณ์ที่สำคัญ มีดังต่อไปนี้
กระดานหลัง และสิ่งยึดกระดานหลัง (Backboards and Backboard Supports) หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าแป้นบาส เป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีผิวหน้าเรียบ ทำด้วยวัสดุโปร่งใสที่ต้องเป็นแผ่นเดียวกัน หากไม่ใช้วัสดุโปร่งใสจะต้องทาพื้นด้วยสีขาว โดยมีขนาดความกว้าง 1.80 เมตร และยาวตามแนวตั้ง 1.50 เมตร เส้นที่เขียนบนแป้นบาสจะต้องหนา 5 เซนติเมตร หากเป็นวัสดุโปร่งใสให้ใช้สีขาวทำเป็นเส้น แต่หากเป็นวัสดุอื่นๆ ให้ใช้สีดำ ที่สำคัญกระดานหลังจะต้องยึดติดอย่างมั่นคง โดยติดตั้งสิ่งยึดกระดานให้ตั้งฉากกับพื้น และขนานกับเส้นหลัง
ห่วงประตูเป็นอุปกรณ์บาสเกตบอลที่ประกอบไปด้วยห่วงและตาข่าย
อีกหนึ่งอุปกรณ์บาสเกตบอลที่มีความสำคัญในการเล่น คงหนีไม่พ้นลูกบาส ซึ่งเป็นลูกบอลทรงกลมสีส้ม ผิวด้านนอกทำด้วยหนังที่มาจากวัสดุสังเคราะห์ หรือยาง มีทั้งหมด 8 ช่องกลีบ ที่สำคัญความกว้างแต่ละช่องกลีบที่เชื่อมกันต้องไม่มากกว่า 0.635 เซนติเมตร ทั้งนี้ต้องมีเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า 74.9-78 เซนติเมตร และต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 567-650 กรัม เมื่อสูบลมเข้าลูกแล้วปล่อยลงสู่พื้น จากความสูงประมาณ 1.80 เมตร ลูกบอลจะต้องกระดอนขึ้น โดยวัดจากส่วนบนสุดของลูกจะต้องอยู่ระหว่าง 1.20-1.40 เมตร
นาฬิกาจับเวลาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการแข่งขันมี 2 แบบ คือ นาฬิกาแข่งขัน และนาฬิกาจับเวลา สำหรับนาฬิกาแข่งขันนั้นใช้สำหรับการจับเวลาในการเล่น และช่วงพักการแข่งขัน โดยจะต้องติดไว้ในที่ที่ทุกคนและผู้เข้าชมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนนาฬิกาจับเวลานั้นใช้สำหรับการจับเวลาเมื่อทีมใดทีมหนึ่งขอเวลานอก
นอกจากอุปกรณ์บาสเกตบอลแล้ว เครื่องแต่งกายก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะช่วยให้เล่นบาสเกตบอลได้อย่างคล่องตัว และช่วยให้ทราบว่าผู้เล่นในแมตช์นั้นๆ เป็นสมาชิกของทีมได้บ้าง สำหรับมือใหม่อาจจะมีอุปกรณ์เสริมในการป้องกันการบาดเจ็บด้วย ดังนี้
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม ดังนั้น ชุดสำหรับการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง รวมถึงรองเท้าจึงมีกติกากำหนดไว้เล็กน้อย
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นบาสเกตบอล นอกจากเครื่องแต่งกายตามกติกาแล้ว ควรเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันอาการบาดเจ็บอย่างที่รัดข้อมือ ที่รัดหัวเข่า ปลอกแขนกระชับกล้ามเนื้อ หรืออุปกรณ์ป้องกันไหล่ แต่ในการแข่งขัน ทางสมาคมบาสเกตมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่อนุญาต และอุปกรณ์ใดบ้างที่ไม่อนุญาตให้สวมใส่ในลงแมตช์แข่งขัน ดังนี้
อุปกรณ์ที่อนุญาต
อุปกรณ์ที่ไม่อนุญาต
รองเท้าบาสเกตบอลเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเล่น เพราะสามารถช่วยปกป้องข้อเท้า และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บ ที่สำคัญรองเท้าบาสเกตบอลที่ดีจะช่วยส่งเสริมศักยภาพในการเล่นให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น วิธีเลือกรองเท้าบาสถือเป็นเรื่องสำคัญที่นักบาสควรศึกษาก่อนซื้อ
โดยปกติแล้วรองเท้าบาสแบบหุ้มข้อเท้านั้นแบ่งได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ หุ้มข้อแบบสูง (High–tops) แบบกลาง (Mid–tops) และแบบสั้น (Low–tops) ซึ่งแต่ละแบบก็มีลักษณะแตกต่างกัน โดยวิธีการเลือกรองเท้าบาส จำเป็นจะต้องเลือกให้เหมาะกับตำแหน่ง และสไตล์ในการเล่น เพื่อที่รองเท้าจะได้ส่งเสริมการเล่นให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดได้
รูปร่างเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถนำมาใช้สำหรับวิธีเลือกรองเท้าบาสได้ โดยทั่วไปแล้วรูปร่างของคนเราสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกัน ดังนี้
ฝ่าเท้าหรือรูปเท้าของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น วิธีเลือกรองเท้าบาสที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเล่น ควรเลือกที่เหมาะสมกับรูปเท้าของตนเอง ใส่แล้วรู้สึกสบาย สามารถซัพพอร์ตเท้าได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ ขณะสวมใส่ต้องไม่รู้สึกคับหรืออึดอัดจนเกินไป ซึ่งวิธีเลือกรองเท้าบาสตามรูปเท้าจะต้องพิจารณาจากความกว้างของเท้า ความกระชับ และเป็นรองเท้าที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
พื้นของสนามบาสเกตบอลในแต่ละที่จะใช้วัสดุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งพื้นไม้ และพื้นสังเคราะห์ ดังนั้น ควรเลือกรองเท้าให้มีความเหมาะสม เพื่อที่จะได้ใช้งานรองเท้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถยึดเกาะได้ดี และไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันได้ง่าย
ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา ศูนย์รวมพื้นที่ในการทำกิจกรรมและการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้ชีวิตมีความสะดวกสบายแบบครบวงจร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นบาสเกตบอล หรือต้องการฝึกปรือฝีมือการเล่นสตรีทบาสสามารถรวมกลุ่มกับแก๊งเพื่อนและมาได้ที่ The Street Arena ลานกีฬาทันสมัยใจกลางเมือง ที่มีสนามบาสเกตบอลไว้คอยให้บริการ
ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา มีสนามบาสเกตบอลในร่มขนาด 3 X 3 แบบแป้นเดียว ที่ The Street Arena ซึ่งมีไว้บริการทั้งหมด 2 สนาม โดยเปิดให้บริการเวลา 10:00-24:00 น.
อัตราค่าบริการอยู่ที่ชั่วโมงละ 300 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนคน สามารถรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่รักในการเล่นบาสเกตบอล และหารเฉลี่ยกันได้ ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ในการได้ออกกำลังกาย แถมยังได้พบปะเพื่อนๆ อีกด้วย
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ทีม เพื่อทำการแข่งขันกันนำลูกไปโยนลงห่วงของอีกฝ่าย เพื่อทำคะแนนให้ได้มากที่สุด โดยการส่งลูก ปัด เลี้ยงบอล รวมถึงการโยน ซึ่งอุปกรณ์บาสเกตบอลที่สำคัญๆ มีอยู่ด้วยกันไม่กี่อย่าง คือ ลูกบาสเกตบอล ห่วงบาส และพื้นที่สำหรับการแข่งขัน นอกจากอุปกรณ์เบื้องต้นแล้ว รองเท้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับนักบาส เพราะช่วยปกป้องข้อเท้า และลดอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นได้ ซึ่งวิธีเลือกรองเท้าบาสเกตบอลให้เหมาะสม สามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัย เช่น รูปร่างผู้สวมใส่ รูปเท้า รวมถึงตำแหน่งและสไตล์ในการเล่น สำหรับใครที่กำลังมองหาสนามบาสเกตบอล ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา มี The Street Arena ลานกีฬาที่ทันสมัยใจกลางเมือง สถานที่ออกกำลังกายเพื่อให้คุณได้พบปะกับเพื่อนๆ และฝึกฝีมือการเล่นบาสเกตบอลอีกด้วย