สาเหตุที่ทำให้ใต้ตาดำนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เพราะว่าในบริเวณใต้ตานั้นเป็นส่วนที่มีความบอบบางกว่าผิวบริเวณอื่นบนใบหน้าเป็นอย่างมาก ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ใช้วิธีลดขอบตาดำก็จะทำให้เห็นความหมองคล้ำได้ชัด และทำให้หน้าดูโทรมกว่าปกติ โดยสาเหตุที่ทำให้ตาดำนั้นมีทั้งหมด 6 สาเหตุ ดังนี้
ปัญหานอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือนอนดึก เป็นสาเหตุที่พบเจอได้ทั้งในวัยเรียน และวัยทำงาน เพราะว่าจะต้องอ่านหนังสือ หรือทำงานจนดึกดื่น ทำให้อดนอน หรือพักผ่อนไม่เพียงพอสะสมเป็นเวลานาน ส่งผลให้ผิวใต้ตาซีดลง และมีสารน้ำคั่งบริเวณใต้ตา จึงทำให้เห็นเส้นเลือดใต้ตาเป็นรอยคล้ำได้ชัดเจนขึ้น
โรคภูมิแพ้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาดำได้ เพราะว่าร่างกายจะสร้างสารฮีสทามีน (Histamine) ขึ้นมา เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้บริเวณใต้ตาเกิดการระคายเคือง และเส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายตัว ทำให้เห็นรอยคล้ำใต้ขอบตาชัดเจนมากยิ่งขึ้น และถ้าหากผู้ที่เป็นภูมิแพ้ขยี้ตาบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบ หรือเส้นเลือดแตก จนทำให้เกิดรอยคล้ำได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
การเล่นมือถือเป็นเวลานาน สามารถทำให้ใต้ตาคล้ำได้ เพราะว่าทุกคนจะต้องใช้สายตาในการเพ่งหน้าจอเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดอาการตาล้า และเส้นเลือดใต้ตาขยายตัว จนทำให้เห็นรอยคล้ำไดัชัดเจน นอกจากนั้น ยังมีแสงสีฟ้า (Blue Light) จากจอมือถือที่มีพลังงานสูงใกล้เคียงกับรังสียูวี (UV) ซึ่งสามารถทะลุไปยังจอประสาทตาได้ แถมยังเป็นแสงที่ไปยับยั้งการทำงานของสารเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ทำหน้าที่ควบคุมนาฬิกาชีวิตและตารางการนอนหลับ รวมถึง ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติได้อีกด้วย จึงส่งผลให้บริเวณใต้ตามีความหมองคล้ำ และส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ได้ ดังนี้
การดื่มน้ำน้อย ทำให้ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ สามารถส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาขาดความชุ่มชื้น เหี่ยวได้ง่าย และดูตอบลง ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูโทรม ไม่สดใส และสามารถเกิดรอยคล้ำได้ง่ายกว่าปกติ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวบริเวณรอบดวงตาบางลง และขาดความยืดหยุ่น ทำให้สามารถมองเห็นเส้นเลือดบริเวณใต้ตาชัดขึ้น รวมถึง การยุบตัวของกระดูกโหนกแก้มส่วนบนที่ทำให้เกิดเป็นเงาใต้ตา จนดูเหมือนขอบตาคล้ำ และมองเห็นว่าขอบใต้ตาดำมากกว่าปกติ
พันธุกรรม เป็นสาเหตุที่สามารถลดขอบตาดำได้ยากมากที่สุด เพราะว่าเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น บริเวณใต้ตาผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป โครงสร้างกระดูกใต้ตายุบตัว ทำให้เบ้าตาดูลึก และเกิดเป็นเงาจนดูเหมือนขอบตาคล้ำ หรืออาจจะเป็นโรคทางพันธุกรรมอื่นๆ เช่น โรคไทรอยด์ เป็นต้น
เมื่อหลายๆ คนเริ่มรู้สึกว่าใต้ตาของตัวเองนั้นมีความหมองคล้ำ และไม่สดใสเหมือนเดิม ก็จะมองหาวิธีแก้ใต้ตาดำที่สามารถช่วยกู้ให้ขอบตากลับมาสดใสแบบเดิมได้ โดยวิธีแก้ใต้ตาดำ 5 วิธีดังต่อไปนี้ เป็นวิธีลดขอบตาดำแบบธรรมชาติที่สามารถทำด้วยตัวเองแบบง่ายๆ และจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง? ไปดูกันเลย!
วิธีแก้ใต้ตาดำที่ดีที่สุด คือ การแก้ปัญหาที่สาเหตุ โดยการปรับเปลี่ยน หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สามารถส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา หรือทำให้เกิดขอบตาดำได้ง่าย เช่น
เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดขอบตาดำจากสาเหตุได้แล้ว
การหมั่นดูแลตัวเองอยู่เสมอ เป็นวิธีแก้ใต้ตาดำที่สามารถส่งผลให้สุขภาพร่างกาย และผิวพรรณนั้นมีสุขภาพดีขึ้นได้ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่หมองคล้ำสามารถกลับมาสดใสพร้อมกับสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
การทาครีมบำรุงใต้ตาทุกวัน เป็นวิธีแก้ใต้ตาดำที่หลายๆ คนนิยมกันมากที่สุด โดยใช้ครีมบำรุงใต้ตาที่มีส่วนผสมอย่าง Whitening, Hyaluronic Acid และ Vitamin C เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ปลอดภัย และทำให้รอยหมองคล้ำใต้ตาดูจางลง และกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แต่ว่าผิวบริเวณรอบดวงตานั้นเป็นผิวที่มีความบอบบางมาก ดังนั้น จึงควรใช้ครีมที่มีอย. และเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับผิวรอบดวงตาเท่านั้น
วิธีมาส์กใต้ตา เป็นวิธีแก้ขอบตาดำธรรมชาติที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้พืชผัก หรือผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น หรือมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น และช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวบริเวณนั้นสว่างกระจ่างใสขึ้น นอกจากจะเป็นวิธีแก้ใต้ตาดำที่ง่ายแล้ว ยังสามารถช่วยลดการบวมของใต้ตา และยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย โดยสูตรมาส์กใต้ตายอดนิยม ที่สามารถช่วยลดขอบตาดำได้มีทั้งหมด 3 สูตร คื
สูตรแตงกวา เป็นสูตรที่ใช้แตงกวาเป็นส่วนผสมหลัก เพราะว่าเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น และมีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า ลดอาการบวมใต้ตา และลดริ้วรอย แถมยังช่วยบำรุง และเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิวบริเวณรอบดวงตาได้อีกด้วย
โดยวิธีใช้มาส์กใต้ตาสูตรนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำแตงกวาหั่นเป็นแว่น และนำมาวางไว้บริเวณรอบดวงตา พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งสูตรนี้สามารถทำได้ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือตามความสะดวกของตัวเองก็ได้เช่นกัน
สูตรมะเขือเทศ เป็นสูตรที่ใช้มะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลักเช่นกัน เพราะว่ามะเขือเทศมีคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล และผิว พร้อมกับช่วยขจัดความหมองคล้ำบนในหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น และกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้นได้
โดยวิธีใช้มาส์กใต้ตาสูตรนี้สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน ด้วยการนำมะเขือเทศหั่นเป็นแผ่นบางๆ และนำมาวางไว้บริเวณรอบดวงตา พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จึงค่อยล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น ซึ่งสูตรนี้ควรทำประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทำวันเว้นวันก็ได้เช่นกัน
ว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติในการช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิว กระชับรูขุมขน และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสีย ทำให้ใต้ตามีความชุ่มชื้น และดูกระจ่างใสมากขึ้น
โดยสูตรนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก และใช้เฉพาะส่วนที่เป็นวุ้นเท่านั้น และค่อยนำมาทารอบๆ ดวงตา และโปะบริเวณใต้ตา พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที และนวดบริเวณหัวตาไปจนถึงหางตาเบาๆ ประมาณ 2 นาที จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งสูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน หรือทำประมาณ 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้เช่นกัน
วิธีแก้ใต้ตาดำอย่างการประคบใต้ตา เป็นการลดขอบตาดำด้วยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยจะทำการประคบใต้ตาแบบเย็น เพื่อทำให้หลอดเลือดหดตัว ช่วยลดอาการบวม และลดขอบตาดำได้ แต่ถ้าเป็นการประคบแบบอุ่น จะเป็นการเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ซึ่งวิธีการประคบที่นิยมนั้นมีทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้
ถุงชา มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบดวงตาได้ดี เพราะว่ามีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ สามารถช่วยลดขอบตาดำ และลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้ โดยใช้ถุงชาแช่น้ำร้อนเป็นระยะเวลา 5 นาที จากนั้นรอให้อุ่น จึงค่อยนำมาประคบบนเปลือกตาทั้ง 2 ข้าง และทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นให้ล้า
งหน้าทำความสะอาดด้วยน้ำเย็น ซึ่งสูตรนี้สามารถทำได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
น้ำอุ่น เป็นวิธีแก้ขอบตาดำธรรมชาติที่ช่วยทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตาดีขึ้น หลังจากทำแล้วจะรู้สึกสดชื่น ชุ่มชื้น และรู้สึกโล่งขึ้น โดยนำผ้าขนหนูมาชุบน้ำอุ่น และบิดให้หมาด จึงค่อยนำมาประคบบริเวณเปลือกตาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที และล้างหน้าทำความสะอาดด้วยน้ำเย็น ซึ่งสูตรนี้สามารถทำได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ
เจลเย็น เป็นอุปกรณ์ลดขอบตาดำที่ช่วยให้กล้ามเนื้อตาคลายตัว ลดอาการบวม และลดการขยายตัวของหลอดเลือดใต้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เห็นรอยคล้ำบริเวณรอบดวงตาชัดเจนขึ้น โดยนำแผ่นเจลแช่เย็นมาวางไว้บริเวณดวงตา และทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จึงค่อยล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเย็น และสามารถทำได้ทุกวัน
การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใต้ตาหมองคล้ำนั้นง่ายกว่าการที่จะต้องมานั่งรักษา แถมยังช่วยประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย แถมยังได้สุขภาพที่ดีคืนมาอีกด้วย โดยวิธีป้องกันไม่ให้ใต้ตาดำจนสายเกินแก้นั้นมีทั้งหมด ดังนี้
ถ้าหากขอบตาดำที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม หรือว่าขอบตาดำจนไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง ควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาวิธีการลดขอบตาดำ พร้อมกับรับคำแนะนำในการป้องกันขอบตาดำว่าควรทำอย่างไร เช่น การเลือกใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาสารประกอบในตัวยาควรเลือกผลิตภัณฑ์ไหน ควรฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ หรือการทำทรีตเม้นท์ ว่าควรเลือกใช้ตัวไหน
รวมถึง การทำเลเซอร์ที่มีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ เลเซอร์ลดเม็ดสีเมลานิน หรือเลเซอร์ลดการขยายตัวของเส้นเลือดบริเวณใต้ตา เพื่อช่วยให้ขอบตาดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษารอยหมองคล้ำรอบดวงตาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ผิวรอบดวงตาเป็นผิวที่มีความบอบบางมาก จึงไม่ควรที่จะสัมผัส หรือจับบ่อยๆ รวมถึง การขยี้ตา หรือใช้สารที่ก่อให้เกิดอาหารแพ้รอบดวงตา เช่น ครีม หรืออายแชโดว์ ที่สามารถส่งผลให้ใต้ตาหมองคล้ำยิ่งขึ้น
ดังนั้น ทุกคนควรสัมผัสใต้ตาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และต้องสัมผัสด้วยความแผ่วเบา โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีการล้างเครื่องสำอางด้วยการเช็ดที่รุนแรง ก็ควรหาผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ล้างออกง่าย และไม่รุนแรงต่อผิวบริเวณรอบดวงตาด้วย
การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ตาดำ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำที่สามารถส่งผลเสียต่อดวงตา และผิวบริเวณดวงตา เช่น ลดการเล่นมือถือ แบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น เป็นต้น
วิธีแก้ใต้ตาดำนั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่ว่าก็ควรหาสาเหตุที่ทำให้ขอบตาดำ และแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างกัน จึงทำให้วิธีการรักษาต่างกันไปด้วย โดยวิธีลดขอบตาดำแบบง่ายๆ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดขึ้น เช่น ลดเวลาการเล่นมือถือ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เยอะ และดูแลตัวเองอยู่เสมอ พร้อมกับใช้วิธีมาส์กใต้ตาที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ว่าควรมาส์กตากี่นาที และมีสูตรไหนที่ช่วยลดขอบตาดำได้บ้าง รวมถึงการใช้ครีมบำรุงใต้ตา และการประคบดวงตาที่ช่วยให้ใต้ตาดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ เช่น ไม่ขยี้ตา หรือสัมผัสอย่างรุนแรง หรือการเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยแก้ขอบตาดำอย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณกำลังมองหาพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย และเสริมความงามให้กับตัวเอง ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center แหล่งรวมกิจกรรมของคนรักสุขภาพ และรักความสวยงาม ที่มีทั้งฟิตเนส สปา และคลินิกเสริมความงามที่พร้อมบริการทุกคนตลอด 24 ชั่วโมง
-01.jpg)
-01.jpg)
-01.jpg)
-01.jpg)
