สำหรับใครที่กำลังฟิตหุ่นให้สวยเป๊ะ และกังวลว่าการดื่มกาแฟจะทำให้น้ำหนักขึ้น นั่นหมายความว่าคุณกำลังดื่มกาแฟแบบผิดวิธี เช่น การดื่มกาแฟที่ผสมนม น้ำตาล ครีม หรือวิปปิ้งครีม ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้น หากต้องการดื่มกาแฟในช่วงที่ควบคุมน้ำหนัก ควรดื่มเป็นกาแฟดำ เพราะจะช่วยให้ระบบเผาพลาญดีขึ้น ลดไขมัน ซึ่งบทความนี้ จะพาไปดูกันว่า กาแฟดำมีสรรพคุณอะไรบ้าง หรือการดื่มกาแฟดําที่ถูกต้องควรดื่มอย่างไร!
กาแฟดำ คือ เมล็ดกาแฟคั่วบด หรือกาแฟผงเพียวๆ สำเร็จรูป ที่นำไปผสมกับน้ำร้อน ซึ่งจะไม่ใส่ส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม น้ำตาลหรือครีมลงไป โดยสามารถนำกาแฟดำไปปรับสูตรเพื่อทำเมนูกาแฟอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สูตรการทำกาแฟแบบ Slow Bar หรือจะเป็นสูตรการทำกาแฟสดอื่นๆ ทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับวิธีการทำและรสชาติที่อร่อยของกาแฟได้ โดยปกติหากเป็นกาแฟดำ 1 ถ้วย ในปริมาณ 240 มิลลิลิตร จะให้พลังงานและสารอาหารที่สำคัญดังนี้
นอกจากนี้ ในกาแฟยังมีโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้ง วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น กรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic Acid: CGA) ที่จะช่วยในการรักษาอาการอักเสบ และระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ จะเห็นได้ว่ากาแฟเพียง 1 ถ้วยนั้นให้พลังงานที่น้อยแต่มีคุณประโยชน์ที่มาก ซึ่งการดื่มกาแฟดำที่ถูกต้องนอกจากจะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแล้ว กาแฟดำช่วยเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย ถือเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตของกลุ่มคนที่ลดน้ำหนัก ช่วยให้หุ่นสวยเป๊ะได้เร็วขึ้น
หลายคนที่สงสัยว่าทำไมกาแฟดำช่วยเผาผลาญและลดน้ำหนักได้ดี? สาเหตุหลักมาจากการดื่มกาแฟดำโดยไม่ทำการผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม ครีม น้ำตาล วิปปิ้งครีม เป็นต้น ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้อาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ หากได้รับในทุกๆ วันหรือในปริมาณที่มากเกินไป และการดื่มกาแฟดําที่ถูกต้องนอกจากจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้นแล้ว ยังได้รับประโยชน์อื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้
คาเฟอีนในกาแฟเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญเมตาบอลิซึม (Metabolism) ในร่างกายถึง 3-11% และหากดื่มกาแฟดำก่อนการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมัน เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อของร่างกาย ส่งผลให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น
นอกจากกาแฟดำหรือคาเฟอีนจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญแล้ว ยังสามารถลดความอยากอาหารได้อีกด้วย เพราะเมื่อร่างกายได้รับคาเฟอีนจะทำให้ลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความหิว อีกทั้งยังกระตุ้นฮอร์โมนเปปไทด์ YY (Peptide YY: PYY) ของความอิ่ม ส่งผลให้อาการหิวหรือความอยากอาหารลดน้อยลง แน่นอนว่าเมื่อไม่กินอาหารเกินความต้องการ ก็จะทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงานที่มากเกินความจำเป็นและไม่เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน
คาเฟอีนในกาแฟดำนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) ให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้แตกตัว และสลายไขมันได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในกาแฟยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ซึ่งสารนี้ลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายจึงเป็นการลดการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และช่วยให้กระบวนการใช้น้ำตาลและไขมันทำงานได้ดีขึ้น
การดื่มกาแฟดำที่ถูกต้องจะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งสรรพคุณกาแฟดำนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังส่งผลดีต่อร่างกายส่วนอื่นๆ อีกด้วย โดยการดื่มกาแฟดำให้มีประโยชน์ และไม่เป็นโทษต่อร่างกาย สามารถทำตามได้ดังนี้
กาแฟดํากินเวลาไหนดี? ตามทฤษฎีแล้วการดื่มกาแฟดำสามารถดื่มได้ทุกช่วงเวลา แต่ช่วงเวลาที่ดื่มแล้วส่งผลดีต่อสุขภาพคือ ช่วงเช้าถึงสายๆ เช่น หากคุณตื่น 6.30 น. สามารถดื่มกาแฟในช่วง 9.30-11.30 ได้ และไม่ควรดื่มกาแฟช่วงท้องว่าง
ไม่ควรดื่มกาแฟเกินวันละ 4 แก้วต่อวัน หรือรับคาเฟอีนไม่เกิน 400 มก. ต่อวัน
หลีกเลี่ยงการใส่น้ำตาล นมข้น ครีม หรือหากต้องการความหวาน สามารถใส่สารให้ความหวานจากพืชทดแทน เช่น หญ้าหวาน น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย หรือน้ำตาลดอกมะพร้าว เป็นต้น
ควรดื่มกาแฟแก้วสุดท้ายอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อตารางการนอนหลับได้ เช่น หากเข้านอนเวลา 10.00 น. กาแฟแก้วสุดท้ายที่สามารถดื่มได้คือช่วงเวลา 16.00 น.
ทั้งนี้ แม้ว่าการดื่มกาแฟดำจะช่วยให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น ช่วยลดไขมัน แต่หากดื่มมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่างๆ ได้ เช่น ส่งผลให้เกิดภาวะกรดเกิน ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุจากอาหารประจำวันได้ยาก ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบประสาท มีอาการกระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว วิตกกังวล และกระตุ้นให้ตื่นตัวทำให้นอนไม่หลับได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องดื่มกาแฟได้รับความนิยมในการบริโภคจากผู้คนทั่วโลกอย่างแพร่หลาย ซึ่งประเภทกาแฟที่มีคุณประโยชน์มากที่สุดก็คือ กาแฟดำ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากการดื่มกาแฟดำที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายดีขึ้นแล้ว กาแฟดำยังมีสรรพคุณอื่นๆ ที่ดีต่อร่างกายจนต้องร้องว้าว!
คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้เพิ่มระดับอะดรีนาลีนในเลือด ช่วยให้ร่างกายได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตในแต่ละวัน หรือทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่านั่นเอง
หลายคนอาจคิดว่าการดื่มกาแฟสามารถทำให้อ้วน และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้ แต่การดื่มกาแฟดำที่ไม่ผสมน้ำตาล หรือเติมความหวานใดๆ ลงไป อย่างกาแฟดำจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน เพราะการดื่มกาแฟดำจะช่วยเพิ่มการผลิตอินซูลินในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
นอกจากการดื่มกาแฟดำจะช่วยให้ร่างกายเผาเผลาญได้ดีแล้ว ยังดีต่อสุขภาพตับอีกด้วย เพราะคาเฟอีนจะช่วยลดระดับเอนไซม์ในเลือดให้ลดลง อีกทั้งยังกระตุ้นตับอ่อนให้สามารถผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นได้ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งตับ โรคตับอักเสบ โรคไขมันพอกตับ
สรรพคุณของกาแฟดำที่นอกจากทำให้ร่างกายตื่นตัว หรือช่วยเผาผลาญแล้ว การดื่มกาแฟดำในตอนเช้ายังช่วยกระตุ้นและปรับปรุงการทำงานของระบบประสาท รวมทั้งส่วนสมอง ทำให้สมองแข็งแรง ความจำดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์และต่อต้านการทำงานที่ผิดปกติของสมองได้
การดื่มกาแฟดำที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด ว่ากันว่าเพียงแค่กาแฟ 1 แก้วก็สามารถช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากคาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นสารสื่อประสาท เช่น โดปามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้จะช่วยให้ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ความเครียดลดน้อยลง แต่ต้องดื่มอย่างพอเหมาะไม่มากจนเกินไป เพราะการรับคาเฟอีนมากเกินไปจะทำให้เกิดความวิตกกังวล เกิดความเครียดที่มากกว่าเดิมได้
การแฟดำ คือ กาแฟสดที่ได้จากการชงด้วยกาแฟคั่วบดที่ไม่ได้ผสมน้ำตาลหรือนมลงไป หลายๆ คนมักจะดื่มเพื่อกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว เพื่อพร้อมเริ่มต้นเช้าวันใหม่ นอกจากนี้ สำหรับใครที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก การดื่มกาแฟดำช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ซึ่งการดื่มกาแฟดำที่ถูกต้องคือไม่ควรผสมน้ำตาล หรือนมลงไป ที่สำคัญไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 400 มล. และแก้วสุดท้ายของวันควรดื่ม 6 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อไม่ให้คาเฟอีนในกาแฟส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ สำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นดื่มกาแฟดำเพื่อลดน้ำหนัก ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Food Destination เป็นอีกแหล่งที่จำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์ทำกาแฟให้เลือกซื้ออย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดกาแฟสดที่ร้าน Hollys Coffee, เจ้าถิ่น ชั้น B, Starbucks, SO asean cafe & restaurant ชั้น 1, Cafe Amazon ชั้น 4 หรืออุปกรณ์ทำกาแฟที่ร้าน Miniso, Moshi Moshi ชั้น 1, MR.DIY ชั้น 2 แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาชงเอง ก็สามารถมาได้ที่ร้านกาแฟและคาเฟ่นั่งทำงานตอนกลางคืน ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในใจกลางย่านรัชดา