หน้าหนาวเป็นฤดูที่ใครๆ ก็โปรดปราน เพราะเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเหนอะหนะ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือความแห้ง ส่งผลให้หน้าหนาวทีไรปากแตกเลือดซึม ผิวแห้งแตกเป็นขุย ดูไม่สดใสเอาเสียเลย อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ดีแน่ มาดูกันกับวิธีรับมือผิวแห้ง และปากแตกหน้าหนาว ให้กลับมาชุ่มฉ่ำสุขภาพดี ให้คุณได้ออกมาลั้ลลาท้าลมหนาว อวดผิวสวยแบบไม่ต้องกลัวผิวเสีย
ง่ายกว่านี้มีอีกไหม? ถ้าอยากดูแลผิวหน้า ผิวกาย และริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้น ชนิดที่ว่าให้หนาวแค่ไหนก็ไม่หวั่น ก็เพียงแค่ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะการดื่มน้ำน้อย จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น แลดูหยาบกร้าน บวกกับสภาพอากาศที่แห้งและเย็น จึงทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง และปากแตกเป็นขุย ดังนั้น ใครอยากดูแลผิวช่วงหน้าหนาว ให้ผิวโกลว์ ปากนุ่มเด้ง อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยล่ะ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญของการดูแลผิวแห้งกร้านในช่วงหน้าหนาวให้กลับมาสดใสเปล่งปลั่ง เพราะในเวลากลางคืน ช่วงระหว่างเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาเพื่อซ่อมแซมร่างกายและผิว ทำให้แก่ช้า ผิวไม่แห้งเหี่ยว หน้าตาสดใส ใต้ตาไม่คล้ำเป็นหมีแพนด้าให้ต้องหาวิธีแก้ใต้ตาดำ
ใครที่อยากผิวสวย แต่ยังนอนดึก นอนน้อย หรือมีปัญหานอนไม่หลับ ควรปรับเวลานอน หรือหาวิธีทำให้นอนหลับง่าย เพื่อสุขภาพผิวและปากของคุณจะได้กลับมาสดใส ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก ในช่วงหน้าหนาว
ร่างกายขาดวิตามินเป็นเหตุผลหลักของปัญหาผิวหลายอย่าง รวมถึงปัญหาผิวแห้งและปากแตกหน้าหนาวอีกด้วย สำหรับใครที่อยากดูแลผิวพรรณ วิตามินบีถือเป็นวิตามินที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย ซึ่งประกอบไปด้วย วิตามิน B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9 และ B12
โดยคุณสามารถรับประทานอาหารที่มีวิตามินบีได้ง่ายๆ เช่น ไข่แดง นม โยเกิร์ต เนื้อสัตว์ ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต ธัญพืช น้ำส้ม หรือน้ำมะเขือเทศ เป็นต้น ใครที่อยากดูแลผิวช่วงหน้าหนาว ก็อาจเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินบีมาทานเพิ่มเติม แต่ก็อย่าลืมศึกษาวิธีกินวิตามินที่ถูกต้อง เพื่อการกินอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเลือกอาหารที่บำรุงผิวและริมฝีปากก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ผิวแตกปากแห้งในช่วงหน้าหนาวได้ ทริคในการเลือกอาหารก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณเลือกอาหารที่มี Probiotic (โพรไบโอติก) สูง เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และอาหารที่มีไขมันดี อย่างเช่น ถั่วเปลือกแข็ง อัลมอนด์ ปลาทะเล
นอกจากนี้ การทานอาหารจำพวกผักและผลไม้บำรุงผิวก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว ช่วยให้ผิวไม่ขาดน้ำ แถมยังสดใสอมชมพู แลดูสุขภาพดี ซึ่งผักผลไม้บำรุงผิวก็อย่างเช่น
นอกจากอาหารที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว หากอยากแก้ปัญหาผิวแห้งและริมฝีปากแตกหน้าหนาว และกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ก็พยายามหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะอาหารจำพวกนี้จะทำให้ร่างกายขับน้ำ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง
พฤติกรรมบางอย่างที่คุณทำอยู่เป็นประจำ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งและปากแตกได้ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอากาศแห้ง ยิ่งทวีความรุนแรง เพราะฉะนั้น มาเช็กพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ที่ควรลด ละ เลิก หากอยากให้ผิวที่แห้งเสีย และริมฝีปากที่แห้งกร้าน กลับมานุ่มชุ่มชื้นอีกครั้ง
สารเคมีบางครั้งก็เลี่ยงยาก เพราะมันแฝงมาอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราใช้กัน แต่ก็ใช่ว่าจะเลี่ยงไม่ได้ เพียงรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไม่ทำลายผิว อย่างการเลือกสบู่ ควรใช้สบู่ที่มีค่า pH อ่อนๆ ประมาณ 5 และหลีกเลี่ยงสบู่ที่มี SLS เพราะอาจทำผิวแห้งตึง
รวมถึงสิ่งใกล้ตัวอย่างยาสีฟันที่มีส่วนผสมของ SLS ก็ทำให้ริมฝีปากเกิดอาการแพ้ ปากแตกเป็นขุยได้ หรืออย่างการใช้ลิปสติก ก็ควรเลือกที่มีคุณภาพ และไม่มีสารเคมี อย่างลิปออแกนิค เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้ปากของคุณแห้งแตกมากไปกว่าเดิม
เพราะธรรมชาติจะเยียวยาทุกสิ่ง บางครั้งสิ่งใกล้ตัวและหาง่ายอย่างของจากธรรมชาติกลายเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม เมื่อผิวแห้งและปากแตกในช่วงหน้าหนาว ลองหันมาใช้สิ่งเหล่านี้คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวและริมฝีปาก ให้กลับมาเนียนนุ่ม น่าสัมผัส กันดีกว่า
คุณอาจจะคิดว่าการสครับผิวทำให้ผิวแห้ง หรือปากลอกมากกว่าเดิมได้ แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่รู้ว่ามีสูตรสครับผิวและริมฝีปาก ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละประเภท และปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป
แน่นอนว่าเมื่ออากาศเย็นลง หลายๆ คนก็ประสบปัญหาผิวแห้งแตก เป็นคราบขุยขาวๆ หรือปากแห้งลอกไม่น่ามอง ทริคมันก็อยู่ที่ส่วนผสมในการทำสครับนี่เอง เพียงเลือกส่วนผสมให้เหมาะกับผิวแห้ง เช่น น้ำมันผึ้ง น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ใบบัวบก หรือว่านหางจระเข้ มาใช้ในสครับก็ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะระคายเคือง หรือแห้งลอกไปมากกว่าเดิม แค่นี้ก็เตรียมอวดผิวใส เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน ท้าลมหนาวไปเลย!
ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น บอกเลยว่าเป็นไปได้ยากที่ผิวและริมฝีปากจะไม่แห้ง ดังนั้น ไม่ควรละเลยการบำรุงผิวบริเวณเหล่านี้ อย่างผิวหน้าและผิวกาย คุณสามารถเติมความสดชื่นให้ผิวด้วยโลชันดูแลผิวแห้งในช่วงหน้าหนาว โดยเน้นที่เนื้อครีมเข้มข้น คงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน หรือสามารถทาน้ำมันบำรุงผิวอย่าง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันโรสฮิป เป็นต้น
ส่วนริมฝีปากก็ต้องหมั่นขยันทาลิปบาล์ม เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก แต่ควรหลีกเลี่ยงลิปบาล์มที่มีส่วนผสมที่ให้ความเย็น Hyaluronic Acid และ Mineral Oil เพราะจะยิ่งทำให้ปากแห้งมากกว่าเดิมได้
อาการผิวแห้งบางครั้งดูเหมือนว่าไม่ใช่ปัญหาอะไรร้ายแรง เพียงแค่บำรุงผิว ประโคมมอยส์เจอไรเซอร์ก็หายแล้ว แต่อย่าลืมสังเกตความผิดปกติของผิวที่แห้งกร้านของคุณด้วย เพราะบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ ที่ไม่ใช่เพียงปัญหาผิวแห้งธรรมดาทั่วไป มาดูกันว่ามีอาการอะไรบ้างที่ไม่ควรปล่อยไว้ แต่ควรไปพบหมอผิวหนัง เผื่อวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที
อาการผิวแห้ง แสบร้อน ผิวแดง ที่ทาครีมหรือบำรุงผิวอย่างไรก็ไม่ดีขึัน ควรได้รับการรักษาและหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ บนผิวของคุณ เพราะอาการเหล่านี้สามารถเกิดจากการระคายเคืองหลังสัมผัสสารเคมี หรือสาเหตุอื่นๆ ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทาง ไม่ควรพยายามรักษาเอง เนื่องจากอาจทำให้ผิวอักเสบมากกว่าเดิมได้
ในช่วงหน้าหนาวนับว่าเป็นช่วงที่น่ารำคาญใจสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะนอกจากผิวที่อ่อนแอ แห้งและแพ้ง่ายเป็นทุนเดิม กลับยังต้องมาเจอสภาพอากาศที่แห้งและเย็น รังแต่จะทำให้ผิวแย่ไปกว่าเดิม ไม่ว่าผิวจะแห้งเป็นขุย คัน เป็นผื่นแดง หากพบว่าตนเองประสบกับปัญหาเหล่านี้ก็ควรจะได้รับการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าปัญหาผิวแห้งและปากแตกหน้าหนาวที่ใครหลายๆ คนเจอนั้นสามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่วิธีที่ทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ อย่างการดื่มน้ำ พักผ่อน เลือกทานอาหาร และเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง เสริมด้วยการใช้ธรรมชาติเข้ามาเป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิว หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและริมฝีปากก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ แน่นอนว่าผิวและริมฝีปากของแต่ละคนต่างมีความเฉพาะตัวอยู่ ใครที่อยากมั่นใจเรื่องสุขภาพผิวและความงามให้มากขึ้น ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center ก็มีคลินิกเสริมความงามพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวที่พร้อมช่วยให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น Degree Clinic, Ammata Clinic, Heayo Clinic หรือ HABC Clinic ซึ่งตั้งอยู่ใน โซน Activity Center / Shopping & Fashion ชั้น 2 และโซน Health & Wellness / Beauty Service ชั้น 3