บางคนอาจเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการร้องเพลง แต่บางคนก็ไม่ใช่แบบนั้น การร้องเพลงเสียงเพี้ยนอาจจะเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งคงทำให้เกิดความสงสัยกันขึ้นว่าทำไมเราถึงร้องเพลงเพี้ยนกันนะ มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ แล้วถ้าอยากจะแก้ไขการร้องเพลงเสียงเพี้ยนจะสามารถทำได้หรือเปล่า หรือมีวิธีแก้ยังไงบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปดูสาเหตุของการที่คนเราร้องเพลงเสียงเพี้ยน พร้อมกับแนะนำเทคนิควิธีการแก้ปัญหาจากนักร้องเสียงเพี้ยนให้กลายเป็นนักร้องเสียงเพราะกันไปเลย
การที่เราร้องเพลงเสียงเพี้ยนนั้นมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง อาจจะมาจากความบกพร่องของการรับเสียง หรือความบกพร่องของเส้นเสียงของแต่ละคนที่ทำให้ร้องเพลงเพี้ยนได้ หรือบางทีอาจจะมาจากการที่บางคนไม่ทราบถึงเทคนิควิธีการร้องเพลงที่ถูกต้องเหมาะสมกับตัวเอง ทำให้กลายเป็นคนร้องเพลงเพี้ยนไปได้นั่นเอง
ความบกพร่องของการรับเสียงเกิดจากความสามารถในการรับรู้เสียงนั้นผิดปกติ ทำให้เสียงที่รับรู้นั้นไม่ตรงกับเสียงที่ได้ยิน และทำให้ไม่สามารถแยกคีย์เสียงดนตรีได้ หรืออาจจะเกิดความสับสนทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นเสียงสูงหรือเสียงต่ำ เสียงแหลมหรือเสียงทุ้ม ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากการที่คนๆ นั้นไม่ได้มีความใกล้ชิดกับดนตรี ไม่ค่อยได้ฟังเพลงหรือร้องเพลง ทำให้ยากที่จะแยกเสียงของดนตรีซึ่งก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร้องเพลงเสียงเพี้ยนได้ แต่ก็ยังสามารถแก้ไขได้จากการฝึกฟังโน้ตดนตรีเพื่อฝึกแยกคีย์บ่อยๆ ก็จะช่วยให้การรับเสียงของหูเราดีขึ้น
นอกจากปัจจัยเรื่องความบกพร่องของการรับเสียงที่ทำให้ร้องเพลงเสียงเพี้ยนแล้ว ต่อมาเป็นปัจจัยเรื่องของการเปล่งเสียงออกมาให้ตรงกับสิ่งที่ได้ยิน บางคนอาจจะมีปัญหาความบกพร่องของเส้นเสียง คือไม่สามารถควบคุมเส้นเสียงได้ หรือกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเปล่งเสียงยังทำงานได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เราร้องเพลงเสียงเพี้ยนได้
แต่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการฝึกฝนอยู่เสมอ โดยฝึกการออกเสียงหรือเปล่งเสียงออกมาให้มีความสัมพันธ์กับเสียงที่เราได้ยิน จะทำให้ควบคุมการออกเสียงได้ตรงคีย์ที่ถูกต้องมากขึ้นและร้องเพลงได้ไพเราะขึ้นแน่นอน
สาเหตุของการร้องเพลงเสียงเพี้ยนนอกจากจะมาจากปัญหาเรื่องการรับเสียงและการเปล่งเสียงแล้ว หลายๆ คนอาจจะร้องเพลงเพี้ยนเพราะว่าขาดเทคนิคการร้องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการควบคุมลมหายใจ การขึ้นเสียงสูงแล้วเสียงเพี้ยนเพราะเสียงไม่ถึง ก็สามารถแก้ไขได้โดยการเรียนและฝึกฝนวิธีการร้องเพลงที่ถูกต้อง
รวมถึงควรที่จะเรียนรู้วิธีในการหาวิธีใช้เสียงที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะแต่ละคนอาจจะมีพื้นเสียงที่ต่างกัน บางคนเป็นคนเสียงสูง ก็เหมาะกับการร้องเพลงในคีย์สูงๆ แต่อาจจะร้องเพลงเสียงต่ำไม่ถนัด หากเลือกใช้เสียงในระดับที่เหมาะสมกับเสียงของตัวเองก็จะทำให้สามารถร้องเพลงให้ดีขึ้นได้นั่นเอง
หลังจากได้รู้กันไปบ้างแล้วว่าการร้องเพลงเพี้ยนนั้นเกิดจากอะไร ต่อไปจะขอแนะนำถึงวิธีในการแก้ไขปัญหาการร้องเพลงเสียงเพี้ยน สำหรับใครที่อยากจะร้องเพลงให้เพราะยิ่งขึ้น และอยากรู้ว่าร้องเพลงเพี้ยนจะแก้ยังไง ไปดูกันเลย
ในการร้องเพลงนั้นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดเลยคือเรื่องของการฝึกฝน หากอยากแก้ไขเรื่องร้องเพลงเสียงเพี้ยน อยากที่จะร้องเพลงได้ดีขึ้นควรที่จะฝึกตามสิ่งเหล่านี้
อาจจะสงสัยว่าการนับเลขจะช่วยในการฝึกร้องเพลงอย่างไร การนับเลขในที่นี้หมายถึงการฝึกนับจังหวะนั่นเอง เพราะดนตรีหรือเพลงทุกเพลงก็ล้วนต้องมีจังหวะ เพราะฉะนั้นอันดับแรกในการฝึกร้องเพลงก็ควรที่จะฝึกในเรื่องของการนับจังหวะดนตรีก่อนเพื่อช่วยให้การร้องเพลงมีความไพเราะลื่นไหลมากขึ้น อาจจะฝึกโดยการฟังเพลงที่มีจังหวะต่างๆ แล้วลองจับจังหวะเสียงดนตรี หรือเสียงเพลงดู
หากอยากจะแก้เสียงเพี้ยนอาจจะเริ่มฝึกการออกเสียงโดยการฝึกร้องโน้ตทีละตัวดูก่อน โดยฝึกกับเสียงเครื่องดนตรีอย่างเปียโน กีตาร์ หรือคีย์บอร์ด โดยเล่นโน้ตทีละตัวแล้วฝึกเปล่งเสียงออกมาให้ตรงกับเสียงโน้ตนั้นๆ หากคุณมีเครื่องดนตรีอยู่แล้วก็สามารถเล่นเครื่องดนตรีแล้วใช้ฝึกร้องโน้ตได้เลย แต่ถ้าใครไม่มีเครื่องดนตรีอาจจะใช้การเปิดคลิปวิดีโอเสียงโน้ตเพื่อช่วยในการฝึกร้องโน้ตแทนได้ แล้วควรจะมีการอัดเสียงร้องของตัวเองไว้ฟังว่ามีการออกเสียงได้ถูกต้องตามโน้ตแต่ละโน้ตหรือไม่ เมื่อออกเสียงโน้ตได้แม่นยำขึ้นแล้วก็จะช่วยให้ร้องเพลงเพราะขึ้นได้
หลังจากฝึกร้องโน้ตทีละตัวได้แล้ว ต่อมาก็เป็นการฝึกร้องสเกลและทรัยแอด สเกล (Scale) หรือบันไดเสียง คือ กลุ่มของโน้ตที่เรียงกันเป็นลำดับขั้นไล่กันไป มีการจัดเรียงระดับของเสียงอย่างมีรูปแบบ มีเสียงห่างกันแน่นอน หรือที่รู้จักกันว่าเป็นการไล่เสียงนั่นเอง โดยสเกลถือเป็นโครงสร้างหลักของเพลง ส่วนทรัยแอด (Triad) คือ คอร์ดพื้นฐานอย่างหนึ่งที่ประกอบด้วยโน้ต 3 ตัว คือ โน้ตขั้นที่ 1 (Tonic) โน้ตขั้นที่ 3 (Third) และโน้ตขั้นที่ 5 (Fifth) ของบันไดเสียง
การฝึกร้องไล่เสียงตามสเกลและทรัยแอดซึ่งเป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐานของเพลงและการเล่นดนตรีให้ได้คล่องมีความถูกต้องแม่นยำแล้ว ก็จะทำให้ร้องเพลงได้ดีขึ้นและแก้ปัญหาเรื่องการร้องเพลงเสียงเพี้ยนได้ ซึ่งก็สามารถฝึกการร้องได้จากการเปิดคลิปวิดีโอแบบฝึกหัดการร้องได้เลย
นอกจากฝึกเรื่องการร้องการเปล่งเสียงให้ถูกต้องแล้ว อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าปัญหาของการร้องเพลงเสียงเพี้ยนก็อาจจะมาจากปัจจัยเรื่องการฟังและการรับเสียงของแต่ละคนด้วย เพื่อแก้ปัญหานี้จึงต้องมีการฝึกโสตทักษะหรือฝึกหูของเราให้ฟังและแยกเสียงได้ดี ซึ่งโสตทักษะ (Ear Training) คือ การรับรู้ด้วยเสียง การใช้หูในการฟัง ทั้งเรื่องของจังหวะ ทำนอง ระดับเสียง ความดังเบา ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเรียนดนตรีและการร้องเพลง เพราะการได้ยินถือเป็นพื้นฐานของดนตรี การฝึกทักษะการฟังให้ดี และสามารถแยกแยะเสียงต่างๆ ได้นั้น จะช่วยให้ร้องเพลงและเล่นดนตรีได้ดีขึ้นด้วย สามารถฝึกได้โดยการฟังเสียงจากแบบฝึกหัดและลองฝึกแยกเสียงดูว่าเป็นเสียงโน้ตใด
การฝึกเล่นเครื่องดนตรีแน่นอนว่ามีส่วนช่วยในการร้องเพลงเพราะสามารถนำมาใช้ประกอบทั้งในการฝึกการร้องเพลง การออกเสียงตามโน้ต สเกล รวมถึงการฟังเสียงไปพร้อมๆ กับการฝึกซ้อมดนตรีได้ เพราะสามารถใช้เทียบเสียงในการฝึกรวมถึงช่วยเพิ่มทักษะทางดนตรีของเราควบคู่กันไป โดยเครื่องดนตรีที่เหมาะกับการนำมาฝึกช่วยในการร้องเพลง เช่น เปียโน คีย์บอร์ด กีตาร์ อูคูเลเล่ เป็นต้น
นอกจากการฝึกฝนทักษะในการร้องการฟังเพลงตามวิธีที่บอกไปข้างต้นแล้ว การเลือกเพลงที่จะร้องก็มีส่วนอย่างมากเหมือนกันในการที่เราจะร้องเพลงให้ไพเราะ ไม่เพี้ยน โดยควรจะเลือกเพลงที่มีช่วง Range เสียงตรงหรือใกล้เคียงกับระดับเสียงของตัวเอง เพราะหากเป็นเพลงที่ไม่เหมาะกับเสียงของตัวเองการฝึกร้องเพลงนั้นก็อาจจะเป็นการฝืนตัวเองได้ เพราะไม่สามารถร้องออกมาได้ตรงตามเพลงที่อาจจะเป็นเพลงที่เสียงสูงเกินไป หรือเสียงต่ำเกินไป
วิธีการเลือกเพลงที่ระดับเสียงเหมาะกับตัวเองคือให้เลือกเพลงที่ชอบหรือสนใจมาแล้วลองร้องดูว่าสามารถร้องถึงหรือไม่ ถ้าร้องไม่ไหวอาจจะเปลี่ยนเพลงหรืออาจจะลองหาคาราโอเกะที่เป็นคีย์อื่นที่ใกล้เคียงกับเสียงตัวเองมากกว่ามาฝึกร้องดูก็จะช่วยได้ และถ้าสำหรับใครที่สามารถเล่นเครื่องดนตรีอย่างเปียโน กีตาร์ได้ จะยิ่งสะดวกเลย เพราะคุณสามารถเลือกเปลี่ยนคีย์ให้สูงขึ้นหรือต่ำลงให้ตรงตามคีย์ของแต่ละคนได้เลย ก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องการร้องเพลงเสียงเพี้ยนไปได้นั่นเอง
อีกหนึ่งเทคนิคที่จำเป็นสำหรับใช้ในการร้องเพลงนั่นคือการควบคุมลมหายใจ แน่นอนว่าในการร้องเพลงการเปล่งเสียงออกมานั้นก็ต้องมีการใช้ลมช่วยในการเปล่งเสียงออกมา เพราะฉะนั้นคนที่สามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้ดีก็จะสามารถร้องเพลงได้ดีขึ้น หรือบางครั้งอาจจะร้องเพลงเสียงไม่ถึงเพราะลมไม่พอ จึงควรฝึกในเรื่องของการผ่อนและการเก็บลมหายใจ
การใช้ลมจากช่องท้อง สามารถฝึกการหายใจด้วยการพยายามหายใจเข้าช้าๆ และคิดว่าค่อยๆ เก็บลมไว้ภายในช่องท้องและกะบังลม ฝึกการหายใจออกช้าๆ อย่างต่อเนื่อง ฝึกการหายใจเข้าออกเป็นจังหวะให้มีความสม่ำเสมอเพื่อที่จะร้องเพลงได้สมูทมากขึ้น เช่น หายใจเข้า 4 จังหวะ หายใจออก 4 จังหวะ แล้วค่อยๆ เพิ่มจังหวะให้ยาวนานขึ้น จากนั้นค่อยๆ ปรับเป็นหายใจเข้า 6 จังหวะ หายใจออก 10 จังหวะ เป็นต้น โดยเพิ่มระยะเวลาในการหายใจออกเป็นการฝึกให้สามารถเก็บลมหายใจได้นานขึ้น นอกจากนี้ควรมีการออกกำลังกายเพื่อบริหารปอดให้เราสามารถหายใจได้ยาวและควบคุมลมหายใจได้ดีขึ้น
การวอร์มเสียงก็คล้ายๆ กับการที่เราต้องมีการวอร์มเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกาย การวอร์มเสียงก่อนร้องเพลงก็เพื่อให้ออกเสียงได้ถูกต้องแม่นยำ ทำให้สามารถเปล่งเสียงออกมาได้แข็งแรงขึ้น และเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเสียงเพื่อลดอาการบาดเจ็บได้ โดยฝึกได้จากแบบฝึกหัดการวอร์มเสียงที่หลายๆ คนน่าจะเคยเห็นกัน ซึ่งควรจะฝึกอย่างระมัดระวังค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้เสียงคลายตัวก่อนที่จะร้องเพลง รับรองว่าการวอร์มเสียงที่ดีจะช่วยเรื่องการร้องเพลงให้สามารถร้องเพลงได้เต็มที่มากขึ้นอย่างแน่นอน
วิธีสุดท้ายสำหรับการแก้ไขปัญหาร้องเพลงเสียงเพี้ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากการฝึกร้องเพลงเป็นประจำ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณสามารถร้องเพลงได้ดีขึ้น ลองฝึกร้องเพลงให้ตรงตามที่ฝึกเรื่องโน้ต และระดับเสียงต่างๆ แล้วลองอัดเสียงร้องของตัวเองเพื่อนำมาฟังว่ามีจุดตรงไหนที่ควรปรับแก้ไขหรือไม่ การฝึกร้องเพลงเป็นประจำจะช่วยเรื่องการร้องเพลงแก้เสียงเพี้ยนให้เพราะขึ้นได้
การร้องเพลงเสียงเพี้ยนนั้นสามารถเกิดได้กับใครหลายๆ คน อาจจะเกิดจากการขาดทักษะในเรื่องของการรับรู้การฟังเสียง การเปล่งเสียงออกมาให้ตรงกับสิ่งที่ได้ยิน หรืออาจเพราะไม่รู้เทคนิคในการร้องเพลงที่ถูกต้องเหมาะสม แต่ไม่ต้องห่วงเพราะการร้องเพลงเพี้ยนนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ตามเทคนิคที่นำมาฝากในบทความนี้ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเรื่องการฟังและการร้องโน้ต สเกล การเลือกเพลงให้เหมาะกับตัวเอง การฝึกการควบคุมลมหายใจ รวมถึงการวอร์มเสียงก่อนร้องเพลง ที่สำคัญคือต้องฝึกร้องเพลงเป็นประจำ ใครที่สนใจอยากหาพื้นที่ในการร้องเพลงเล่นดนตรีก็สามารถแวะมาได้ที่ Activity Center ซึ่งเป็นแหล่งรวมกิจกรรมหลากหลายให้คุณได้ผ่อนคลายและสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ภายในศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา นอกจากนี้ยังมีร้านคาราโอเกะ Manekineko อยู่ชั้น 4 ไว้สำหรับใครที่อยากฝึกร้องและใช้พลังเสียงกันอย่างเต็มที่ไปเลย