เล็บมือ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยความงาม ที่สำคัญสำหรับสาว ๆ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่า เทรนด์การเพ้นท์เล็บ หรือการทำเล็บ มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอารยธรรมเมโสโปเตเมีย โดยเริ่มในกลุ่มชนชั้นสูงและนักรบชายของอาณาจักรบาบิโลน ต่อมาในอาณาจักรอียิปต์โบราณ พระนางเนเฟอร์ติตีเป็นผู้บุกเบิกการทาเล็บในหมู่สตรีชนชั้นสูง โดยวิธีเพ้นท์เล็บในยุคเริ่มแรกเลือกใช้วัสดุและสีที่หาได้ตามธรรมชาติ เช่น การใช้โคห์ล (Kohl) หรือยาทาเล็บสีดำและเขียวที่ได้จากการบดรวมแร่กาลีนา (Galena) และสติบไนต์ (Stibnite) ของชาวบาบิโลน การใช้เฮนน่า (Henna) หรือสีน้ำตาลเข้มอมแดงจากยางไม้ของชาวอียิปต์โบราณ และการใช้สีจากดอกไม้สดของชาวจีนโบราณ เป็นต้น นอกจากนี้ บางยุคสมัยอาจใช้ความสวยงามของเล็บมือเป็นการบ่งบอกสถานะทางสังคมอีกด้วย อย่างเช่น สตรีสูงศักดิ์ในยุคราชวงศ์หมิงจะทาสีแดงหรือสีดำเพื่อบอกศักดินาของตน จนกระทั่งปัจจุบันที่การเพ้นท์เล็บนับว่าเป็นสิ่งที่หลายคนใช้เพื่อสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และแสดงตัวตนของตนเองให้ผู้อื่นรับรู้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดลุคแมทช์เก๋ ๆ ที่ใช่ ในสไตล์ของคุณ ในบทความนี้เราจึงมาแชร์วิธีเพ้นท์เล็บลายน่ารัก ๆ ง่าย ๆ จะมีสไตล์ไหนบ้าง ไปดูกันเลย
ก่อนที่เราจะเรียนรู้วิธีการเพ้นท์เล็บแต่ละแบบ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า การเพ้นท์เล็บนั้นมีกี่วิธี แต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับสไตล์ไหน และมีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไรบ้าง
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักกับการเพ้นท์เล็บเจลเป็นอย่างดี และยังเป็นตัวเลือกที่สาว ๆ ส่วนใหญ่นิยมทำอีกด้วย เพราะว่า การเพ้นท์เล็บเจลนั้นทำให้สีทาเล็บสามารถติดทนได้นานมากกว่า 2 สัปดาห์และสำหรับบางคนที่ดูแลเล็บเป็นอย่างดี ยิ่งทำให้สีทาเล็บสามารถติดทนได้นานเป็นเดือน ๆ โดยวิธีการเพ้นท์เล็บเจลนั้นจะต่างกับการทาสีเล็บธรรมดาคือ เล็บจะมีความแวววาวสวยงาม และดูมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ทั้งยังสามารถตกแต่งลวดลายได้หลายแบบ แต่ข้อเสียคือ เล็บจะฉีกขาดง่าย เพราะก่อนการเพ้นท์เล็บเจลนั้นจำเป็นต้องตะไบหน้าเล็บออก เพื่อให้สีติดทนกับเนื้อเล็บมากขึ้น และอีกหนึ่งปัญหากวนใจก็คือ เมื่อเล็บยาวขึ้น แต่สีทาเล็บเจลและลวดลายยังคงอยู่ ทำให้เล็บดูไม่สวยงามเหมือนเดิมจึงทำให้สาว ๆ ต้องเสียเวลาไปล้างเล็บเจลที่ร้านหรือทำเล็บใหม่อยู่บ่อย ๆ นั่นเอง
การเพ้นท์เล็บแบบเชลแลค เป็นการเพ้นท์เล็บที่เหมาะสมกับวัยผู้ใหญ่ หรือคนที่ต้องการลุคที่มีความเป็นทางการ โดยโทนสีที่ใช้และสไตล์ในการเพ้นท์จะเป็นแบบเรียบ ๆ และเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้ลุคที่ดูน่าเชื่อถือและดูแพง รวมถึงสาว ๆ ที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ ก็นิยมเพ้นท์เล็บแบบเชลแลคกันเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยวิธีการเพ้นท์จะเหมือนกันกับวิธีการเพ้นท์เล็บเจล แต่ต่างกันที่สีทาเล็บ ซึ่งการเพ้นท์แบบเชลแลคจะต้องเลือกสีทาเล็บของ CND เพราะเป็นยี่ห้อที่ทำขึ้นมาเพื่อการทาเล็บแบบเชลแลคโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติแห้งเร็ว มีความเงา เล็บไม่เป็นรอยง่าย และติดทนนาน
ใครที่ชอบการเพ้นท์เล็บแบบแฟนซี ที่ประกอบด้วยลวดลาย ตัวการ์ตูน ดอกไม้ หรือรูปทรงต่าง ๆ ต้องไม่พลาดกับการเพ้นท์เล็บอะคริลิก ที่มีขั้นตอนการทำที่แตกต่างจากการเพ้นท์เล็บเจลและการเพ้นท์เล็บเชลแลคอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ต้องตะไบหน้าเล็บให้เล็บบาง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เล็บฉีกขาดได้ง่าย นอกจากนั้น การเพ้นท์เล็บอะคริลิกมีเทคนิคการเพิ่มแป้งเปียกลงบนเล็บซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเป็นฐานในการแต่งเล็บ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าเล็บจะฉีกขาดหากแต่งเล็บด้วยเครื่องประดับหรือดอกไม้ในแบบที่ชอบ
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงจะเข้าร้านทำเล็บประมาณเดือนละ 2 ครั้ง และในแต่ละครั้งจะเสียเงินไม่ต่ำกว่าหลักร้อย นอกจากนี้ สำหรับบางคนที่เล็บยาวเร็วแต่ไม่มีเวลาเข้าร้านทำเล็บ ก็อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ เพราะสีเล็บเดิมที่เพ้นท์เอาไว้กับเล็บที่งอกมาใหม่ช่างตัดกันจนไม่น่ามอง หากใครไม่อยากเสียเวลาไปร้านทำเล็บบ่อย ๆ หรืออยากเรียนรู้วิธีการเพ้นท์เล็บเจลง่าย ๆ ด้วยตนเอง วันนี้เราจะมาแนะนำไอเดียเพ้นท์เล็บโทนสีพาสเทลง่าย ๆ ที่แม้แต่มือใหม่หัดทาเล็บสามารถเริ่มต้นทำตามได้ไม่ยาก
จริง ๆ แล้ว การพิจารณาเลือกสีทาเล็บเจลมีหลักการไม่ต่างกับการเลือกสีทาเล็บแบบอื่น ๆ เลย เพราะหลัก ๆ แล้วสามารถเลือกสีได้ตามความชื่นชอบและสไตล์ของแต่ละคนได้เลย โดยส่วนใหญ่ สีทาเล็บเจลจะมีความมันวาวเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ราคาอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างในแต่ละแบรนด์ นอกจากจะเลือกสีตามชอบแล้ว เราขอแนะนำให้สังเกตด้วยว่าสีทาเล็บนั้นไม่มีส่วนผสมที่ทำให้คุณแพ้หรืออันตราย รวมถึงต้องเลือกสีทาเล็บให้เหมาะกับเครื่องอบที่จะนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอบแบบ LED หรือ แบบ UV เพื่อให้การทำเล็บเจลมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ของตกแต่งเล็บที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เข้ากับการเพ้นท์เล็บแบบเจลได้มีอยู่มากมาย เช่น ลูกปัด เพชร คริสตัล สติกเกอร์ติดเล็บ และกลิตเตอร์ ซึ่งการเลือกอุปกรณ์ตกแต่งเล็บควรคำนึงถึงลักษณะและความแข็งแรงของเล็บเป็นสำคัญ โดยควรเลือกอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป นอกจากนั้น แนะนำให้เลือกโทนสีและสไตล์ของตกแต่งให้เป็นไปในแนวเดียวกันกับสีทาเล็บ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบที่สวยงาม และลงตัว
นอกจากสีทาเล็บและของตกแต่งแล้ว อุปกรณ์ที่สาว ๆ นักเพ้นท์เล็บมือใหม่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ
เป็นพู่กันที่มีปลายเรียวกว่าพู่กันระบายสี ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ หลายราคา ตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักร้อย โดยที่ราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาทำพู่กัน ดังนั้นสาว ๆ สามารถเลือกซื้อพู่กันเพ้นท์เล็บได้ตามใจชอบโดยหมดกังวลเรื่องราคาไปได้เลย
แนะนำให้เลือกใช้สีอะคริลิก เพราะมีความทนทานและยืดหยุ่นมากกว่าสีแบบอื่น ๆ ทำให้สีไม่แตกง่าย และไม่ละลายน้ำอีกด้วย
ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้สีเล็บติดทนนานขึ้น โดยมีวิธีเลือกง่าย ๆ แค่เลือกชนิดของน้ำยาเคลือบเล็บให้เหมาะสมกับสไตล์เล็บที่ต้องการเพ้นท์
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ โดยที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ คือแบบ LED ซึ่งจะใช้เวลาในการอบน้อยกว่า โดยใช้เวลาเพียง 30 – 60 วินาที เท่านั้น เหมาะกับคนที่กลัวมือดำและต้องการความรวดเร็วทันใจ และอีกแบบคือไฟแบบ UV ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการต่อเล็บ จะใช้เวลาในการอบ 2 – 3 นาที แต่การใช้ไฟประเภทนี้ สาว ๆ หลายคนมักบ่นว่าทำให้มือดำ เพราะใช้ไฟตัวเดียวกันกับรังสี UV จากแสงอาทิตย์นั่นเอง
นอกจากนี้อุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่ จานสี สำหรับเอาไว้ผสมหรือเกลี่ยสี, น้ำยาล้างเล็บ, กรรไกร, ตะไบและที่ตัดเล็บ ที่ควรเตรียมไว้ ให้พร้อมหยิบใช้งานได้อย่างสะดวกอีกด้วย
เมื่อได้รู้จักประเภทและวิธีการเพ้นท์เล็บในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงทริคการเลือกอุปกรณ์ในการเพ้นท์เล็บกันไปแล้ว ต่อจากนี้เราก็จะมาแชร์วิธีเพ้นท์เล็บลายน่ารัก ๆ ง่าย ๆ ที่กำลังฮิตในกลุ่มสาว ๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน
.jpg)
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยการนำเอาความเรียบง่ายมามิกซ์กันอย่างลงตัว ซึ่งเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย รวมถึงวัยเรียน หรือผู้ที่ชื่นชอบสไตล์แบบเรียบ ๆ ถือว่าเป็นวิธีเพ้นท์เล็บที่ทำได้ง่ายและใช้อุปกรณ์น้อยที่สุด แม้คนที่ไม่มีพื้นฐานในการทำเล็บก็สามารถทำตามได้
- ตะไบ
- น้ำยาเคลือบเล็บ
- น้ำยาทาเล็บเจลสีพาสเทลที่ชื่นชอบ
- พู่กันเพ้นท์เล็บ
- เครื่องอบเล็บ
1. ตะไบหน้าเล็บออกบาง ๆ เพื่อให้สีทาเล็บติดทนขึ้น
2. ใช้น้ำยาเคลือบเล็บทาบาง ๆ ลงบนเล็บ
3. รอให้สีรองพื้นหรือน้ำยาเคลือบเล็บแห้ง หลังจากนั้นทาทับด้วยน้ำยาทาเล็บเจล 1 รอบ ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
4. ทาน้ำยาทาเล็บเจลอีกครั้งเพื่อให้สีชัดขึ้น
5. หลังจากนั้นเข้าเครื่องอบเล็บอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาที
6.ตกแต่งลายตามต้องการ เมื่อสีเริ่มแห้งดี จึงทาน้ำยาเคลือบเล็บตามอีกรอบ โดยทาให้เคลือบถึงปลายเล็บ เพื่อให้สีติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นให้อบเล็บอีกครั้ง ประมาณ 60 วินาที
ดอกไม้กับผู้หญิงเรียกว่าเกิดมาเพื่อคู่กันจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่การเพ้นท์เล็บ ที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ก็นิยมและชื่นชอบไม่แพ้ลายอื่น ๆ เลย สำหรับลายดอกไม้เล็ก ๆ สไตล์คุณหนูนั้นเหมาะกับสาว ๆ ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานเลย
- ตะไบ
- น้ำยาเคลือบเล็บ
- น้ำยาทาเล็บเจลสีพาสเทลที่ชื่นชอบ
- เครื่องอบเล็บ
- สติกเกอร์ลายดอกไม้ที่ชื่นชอบ
1. ตะไบหน้าเล็บออกบาง ๆ เพื่อให้สีทาเล็บติดทนนาน
2. ใช้น้ำยาเคลือบเล็บทาบาง ๆ ลงบนเล็บ
3. รอให้สีรองพื้นหรือน้ำยาเคลือบเล็บแห้ง หลังจากนั้นทาน้ำยาทาเล็บเจลสีพื้น 1 รอบ ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
4. หลังจากนั้นทาน้ำยาทาเล็บเจลแบบสีอีกครั้ง เพื่อให้สีทาเล็บเรียบเนียนและสม่ำเสมอขึ้น และเข้าเครื่องอบเล็บอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาที
5. ทำการติดสติกเกอร์ลายดอกไม้ลงไปบนเล็บ เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทาน้ำยาเคลือบเล็บอีกรอบ โดยทาให้เคลือบถึงปลายเล็บเพื่อให้สีติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นอบเล็บอีกครั้ง ประมาณ 60 วินาที
การเพ้นท์เล็บเจลสไตล์นี้เหมาะกับสาว ๆ วัยทำงานที่ต้องการความเรียบหรูและดูน่าเชื่อถือ โดยควรเลือกใช้โทนสีสุภาพหรือสีพาสเทล และไม่ตกแต่งลวดลายเพิ่มเติม ซึ่งมีวิธีการทำเพียงไม่กี่ขั้นตอนดังนี้
- ตะไบ
- น้ำยาเคลือบเล็บ
- น้ำยาทาเล็บเจลโทนสีสุภาพหรือสีพาสเทล
- เครื่องอบเล็บ
1. ตะไบหน้าเล็บออกบาง ๆ เพื่อให้สีทาเล็บติดทนนาน
2. ใช้น้ำยาเคลือบเล็บทาบาง ๆ ลงบนเล็บ
3. รอให้สีรองพื้นหรือน้ำยาเคลือบเล็บแห้ง หลังจากนั้นทายาน้ำยาทาเล็บเจลแบบสีพื้น 1 รอบ ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
4. ทาน้ำยาทาเล็บเจลแบบสีอีกครั้ง เพื่อให้สีชัดขึ้น และเข้าเครื่องอบเล็บอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาที
5. เมื่อสีแห้งดี ให้ทาน้ำยาเคลือบเล็บอีกรอบ โดยทาให้เคลือบถึงปลายเล็บเพื่อให้สีติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นอบเล็บอีกครั้ง ประมาณ 60 วินาที
.jpg)
วิธีเพ้นท์เล็บลายน่ารัก ๆ ง่าย ๆ ด้วยสติกเกอร์ลายการ์ตูน เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่นิยมและให้ความเป็น Unisex เพราะหลายคนล้วนมีการ์ตูนโปรดที่ตัวเองชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น โดราเอมอน โทโทโร่ สติทช์ หรือหมีพูห์และผองเพื่อน เป็นต้น การนำตัวการ์ตูนในดวงใจมาเพ้นท์บนเล็บจึงช่วยเพิ่มความน่ารักให้กับนิ้วมือ
- ตะไบ
- น้ำยาเคลือบเล็บ
- น้ำยาทาเล็บเจลโทนสีอ่อน
- จานสี
- สีอะคริลิก
- เครื่องอบเล็บ
- สติกเกอร์ธีมต่าง ๆ ตามชอบ
1. ตะไบหน้าเล็บออกบาง ๆ เพื่อให้สีทาเล็บติดทนนาน
2. ใช้น้ำยาเคลือบเล็บทาบาง ๆ ลงบนเล็บ
3. รอให้สีรองพื้นหรือน้ำยาเคลือบเล็บแห้ง หลังจากนั้นทาน้ำยาทาเล็บเจลแบบสีพื้น 1 รอบ เพื่อเป็นสีรองพื้นก่อนทำการติดสติกเกอร์ลายการ์ตูน ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
4. ทาน้ำยาทาเล็บเจลแบบโทนสีอ่อนอีกครั้ง เพื่อดึงจุดเด่นของสติกเกอร์ให้ชัดขึ้น และสามารถเพ้นท์ปลายเล็บด้วยสีอะคริลิกสีทองอ่อนตามใจชอบ โดยอาจเลือกใช้ยาทาเล็บและสีอะคริลิกเป็นโทนสีตามตัวการ์ตูนนั้น ๆ หลังจากนั้น เข้าเครื่องอบเล็บ โดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาที ก่อนติดสติกเกอร์ลายการ์ตูนที่ชื่นชอบ
5. เมื่อตกแต่งสติกเกอร์การ์ตูนที่ต้องการเสร็จแล้ว ให้ทาน้ำยาเคลือบเล็บอีกรอบ โดยทาให้เคลือบถึงปลายเล็บเพื่อให้สีติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นอบเล็บอีกครั้ง ประมาณ 60 วินาที
การเพ้นท์เล็บสไตล์ Ombre เป็นการเพ้นท์เล็บโดยการไล่สี ดูเรียบง่ายแต่มีมิติ นับเป็นเทรนด์การเพ้นท์เล็บแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
- น้ำยาเคลือบเล็บ
- ฟองน้ำแต่งหน้า
- น้ำยาทาเล็บเจลแบบสีพื้น (โทนสีพาสเทลประมาณ 3 - 4 สี)
- เครื่องอบเล็บ
- วาสลีน (เจลปิโตเลียม)
1. ตะไบหน้าเล็บออกบาง ๆ เพื่อให้สีติดทนนาน
2. ใช้น้ำยาเคลือบเล็บ ทางบาง ๆ ลงบนเล็บ
3. รอให้สีรองพื้นหรือน้ำยาเคลือบเล็บแห้ง หลังจากนั้นทาน้ำยาทาเล็บเจลแบบสีพื้น 1 รอบ ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที
4. ทาน้ำยาทาเล็บไล่โทนสีลงบนฟองน้ำ โดยทาไล่สีจากเข้มไปอ่อนหรืออ่อนไปเข้มก็ได้ แต่ต้องทาน้ำยาทาเล็บลงไปให้เยอะพอสมควร เพราะต้องนำฟองน้ำไปแตะบนเล็บ
5. ทาวาสลีนลงบนขอบเล็บหรือผิวรอบ ๆ เล็บก่อน เพื่อช่วยให้ลบสีทาเล็บส่วนที่เลอะได้ง่ายขึ้น
6. นำฟองน้ำที่เตรียมไว้แตะลงไปที่เล็บเบา ๆ ถ้าหากสีไม่ชัดก็สามารถลงเพิ่มอีกรอบได้ โดยพยายามเติมสีลงใกล้ ๆ รอยเดิม เพื่อให้สีสวยคมชัดยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เครื่องอบเล็บได้ โดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาทีได้
7. หลังจากสีทาเล็บแห้งแล้ว ให้ทาน้ำยาเคลือบเล็บอีกรอบ โดยทาให้เคลือบถึงปลายเล็บเพื่อให้สีติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นอบเล็บอีกครั้ง ประมาณ 60 วินาที
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีเพ้นท์เล็บลายน่ารัก ๆ ง่าย ๆ ที่นำมาฝากกัน หากใครสนใจและอยากลองทำตามเองที่บ้าน สามารถหาซื้ออุปกรณ์ในการทำเล็บได้ที่ ร้าน Nailfie Studio แหล่งรวมวัสดุและอุปกรณ์ทำเล็บขายส่งสุดครบครันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center ที่รวมทุกกิจกรรมหลากหลาย เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสนุกได้อย่างเต็มที่ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีเล็บสวย ๆ ไว้อวดคนอื่นได้ทุกวันแล้ว
-01.jpg)
-01.jpg)
-01.jpg)
-01.jpg)
