Cheese Lover ห้ามพลาด! รวม 10 เมนูชีสยืดสุดฟิน ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน
ไม่มีกำหนดอายุ

Cheese Lover ห้ามพลาด! รวม 10 เมนูชีสยืดสุดฟิน ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

ชีสสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ส่วนใหญ่เมนูที่ทำจากชีสมีรสชาติที่อร่อยและเป็นเมนูที่ถูกใจใครหลายๆ คน ซึ่งเมนูชีสแบบง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ เช่น ขนมปังแฮมชีส หมูทอดห่อชีส พิซซ่าดับเบิ้ลชีส และอีกหลายเมนู

โดยบทความนี้ได้รวบรวม 10 เมนูชีสยืดสุดฟิน เอาใจคนที่รักการกินชีสเป็นชีวิตจิตใจ พร้อมกับสูตรที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ว่าเป็นมือใหม่ที่เริ่มทำอาหาร หรือเหล่าแม่ศรีเรือนก็สามารถทำตามได้   


สารบัญ รวม 10 เมนูชีสยืดสุดฟิน ทำได้ง่ายๆ


เมนูผักโขมอบชีส

1. ผักโขมอบชีส

ผักโขมอบชีสเป็นอาหารสัญชาติอิตาลีและเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้คนฝั่งตะวันตก โดยผักโขมอบชีสเป็นเมนูชีสที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งสารอาหารของผักโขมนั้นอุดมไปด้วย วิตามินต่างๆ โปรตีน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ ช่วยชะลอวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายไม่มีสารพิษตกค้าง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย  

นอกจากนี้ ชีสยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีนและแคลเซียม โดยโปรตีนมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนแคลเซียมมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและป้องกันฟันผุ ชีสจึงเหมาะมากสำหรับเด็ก เนื่องจากเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต นับได้ว่าผักโขมอบชีสเป็นเมนูชีสง่ายๆ ที่เหมาะสำหรับเด็กและทุกช่วงวัย

วัตถุดิบในการทำเมนูผักโขมอบชีส

  • ผักโขม                    200 กรัม
  • มอสซาเรลล่าชีส    200 กรัม
  • วิปครีมชนิดจืด      150 มิลลิลิตร
  • นมสด                     150 มิลลิลิตร
  • เนยสด                   10 กรัม
  • หอมหัวใหญ่           ½ หัว
  • พริกไทยป่น            ¼ ช้อนชา
  • เกลือป่น                 ¼ ช้อนชา
  • เบคอน                   100 กรัม
  • แป้งข้าวโพด         1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำเมนูชีสแบบผักโขมอบชีส

  1. นำผักโขมมาล้างน้ำทำความสะอาด จากนั้นค่อยนำมาสะเด็ดน้ำออก แล้วพักไว้
  2. เริ่มตั้งกระทะ แล้วใส่น้ำลงไป ใช้ไฟแรงในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้น้ำเดือด หลังจากน้ำเดือด จึงใส่เกลือป่นลงไปนิดหน่อย แล้วนำผักโขมใส่ลงไปลวกเป็นเวลา2 นาที จากนั้นตักผักโขมออก มาน็อกน้ำเย็น ให้ยังดูสีสดใส
  3. นำผักโขมมาบีบน้ำออกให้หมด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  4. ใส่เนยสดลงไปในกระทะก่อนพอให้ละลาย 
  5. เมื่อเนยเริ่มละลายได้ที่แล้ว ใส่เบคอนตามลงไป แล้วผัดให้มีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม
  6. ใส่หอมหัวใหญ่แล้วผัดให้สุก จนหอมหัวใหญ่ใส ตามด้วยเทครีมกับนมสดใส่ลงไป แล้วคนทั้งหมด เพื่อให้เข้ากัน
  7. ปรุงรสเพิ่มด้วยการใส่เกลือป่น พริกไทยป่น แล้วนำแป้งข้าวโพดละลายน้ำ เทใส่ลงไป แล้วคนไปเรื่อยๆ ให้มีความเหนียวข้น
  8. จากนั้นจึงใส่ผักโขมหั่นลงไป ตามด้วยมอสซาเรลล่าชีส แล้วผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  9. เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้หรือใส่พิมพ์เพื่อทำการอบ แล้วโรยหน้าด้วยเบคอนกรอบ จากนั้นนำผักโขมอบชีสไปอบที่อุณหภูมิไม่เกิน 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง 
  10. เมื่อชีสมีสีเหลืองกำลังดี จึงนำออกมาจากเตาอบ

 เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนในการทำผักโขมอบชีสแล้ว ก็จะได้กินเมนูชีสที่ได้ความหอมมาจากผักโขม และชีสที่ยืด กัดเข้าไปในปากแล้วนุ่มละมุนลิ้นที่สุด

ต๊อกบกกีชีส

2. ต๊อกบกกีชีส

ต๊อกบกกีชีสเป็นอาหารสัญชาติเกาหลีที่มีต้นกำเนิดมาจากช่วงศตวรรษที่ 19 ในสมัยราชวงศ์โชซอน และเป็นเมนูชีสที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับชาวเกาหลีใต้  โดยต๊อกบกกีนั้นทำมาจากแป้งข้าวหรือเรียกอีกอย่างว่า แป้งข้าวเหนียว ซึ่งแป้งชนิดนี้จะนำมาปรุงรสกับส่วนผสมต่างๆ บวกกับการผัด เพื่อให้เกิดรสชาติที่เผ็ด แสนอร่อย น่ารับประทาน แตกต่างจากสมัยในช่วงศตวรรษที่19 ที่ต๊อกบกกีมีรสชาติไม่เผ็ด 

ปัจจุบันคนเกาหลีใต้และคนไทยนิยมนำมาทำเป็นเมนูอาหารว่างไว้รับประทาน นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ทำให้สามารถรับประทานแทนข้าวได้อย่างอิ่มท้อง หรือสามารถกินต๊อกบกกีชีสควบคู่กับกิมจิ ซึ่งกิมจิเป็นหนึ่งในเครื่องเคียงหมูย่างเกาหลีที่หลายคนรู้จัก เพื่อตัดเลี่ยนได้เช่นกัน  อีกทั้งต๊อกบกกีชีส ยังเป็นเมนูชีสที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติเผ็ดๆ ด้วยเช่นกัน

วัตถุดิบในการทำเมนูต๊อกบกกีชีส

  • แป้งต๊อกบกกี            300 กรัม
  • น้ำเชื่อมข้าวโพด       1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วญี่ปุ่น                  2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย             2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่นเกาหลี          1 ช้อนโต๊ะ
  • โคชูจัง                      4 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ต้ม                         1 ฟอง
  • น้ำเปล่า                     2 ถ้วย
  • มอซซาเรลลาชีส       ½ ถ้วย
  • ต้นหอมญี่ปุ่น            ½ ถ้วย
  • พาร์สเลย์สับสำหรับโรยหน้า 1 ถ้วย
  • ลูกชิ้นปลาแผ่น         1 ถ้วย

วิธีการทำเมนูต๊อกบกกีชีส

  1. ทำการแช่แป้งต๊อกบกกีในน้ำเย็นประมาณ 30 นาที
  2. เตรียมส่วนผสม เช่น น้ำตาลทราย ซีอิ๊วญี่ปุ่น โคชูจัง พริกป่นเกาหลี น้ำเชื่อมข้าวโพดแล้วผสมทุกอย่างในถ้วยให้เข้ากัน
  3. ตั้งกระทะด้วยระดับไฟกลางให้มีความร้อนพอเหมาะ แล้วใส่น้ำลงไปในกระทะ
  4. หลังจากน้ำเดือด ให้ใส่เครื่องปรุงที่ผสมเอาไว้ลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน เพื่อให้เครื่องปรุงที่เข้มข้นได้ละลายในน้ำ
  5. รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง แล้วใส่แป้งต๊อกกีลงไปต้มประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้แป้งสุกและมีความเหนียวนุ่ม 
  6. เมื่อแป้งมีความสุกเหนียวนุ่มกำลังดีและน้ำซอสเริ่มข้นขึ้น ก็ใส่ลูกชิ้นปลาแผ่น ไข่ต้ม และต้นหอมญี่ปุ่นลงไป คนให้เข้ากัน
  7. ทำการต้มต่อ จนน้ำซอสเหนียวข้นมากๆ แล้วค่อยโรยมอสซาเรลลาชีสขูดลงไปบ้างบนให้ทั่ว
  8. ปิดฝา แล้วรอให้ชีสละลาย
  9. ปิดไฟในกระทะ แล้วเปิดฝาขึ้น โรยหน้าด้วยพาร์สเลย์สับ เพื่อให้มีหน้าตาน่ารับประทาน  จากนั้นนำไปเสิร์ฟได้

หากใครชื่นชอบเมนูชีสที่ผสมด้วยรสชาติเผ็ด แสนอร่อย อย่าลืมไปฝึกทำเมนูต๊อกบกกีชีสกัน

เมนูชีส คอร์นด็อกชีส

3. คอร์นด็อกชีส

คอร์นด็อกชีสเป็นอาหารสัญชาติอเมริกาและเป็นเมนูอาหารจานด่วนแนวสตรีทฟู้ด ที่มีต้นกำเนิดมาจากผู้อพยพชาวเยอรมันได้มาอาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งคำว่าคอร์นด็อกมีที่มาจากการนำฮอตด็อกหรือไส้กรอกมาเสียบไม้ แล้วเคลือบด้วยแป้งข้าวโพดหรือชาวอเมริกันเรียกกันว่า คอร์นมีลนั่นเอง จากนั้นนำไปทอดกับน้ำมันร้อนๆ เมื่อทอดเสร็จก็ราดด้วยซอสพริก เพื่อให้มีรสชาติที่แสนอร่อย 

ต่อมาคอร์นด็อกได้เข้ามาเป็นเมนูยอดนิยมของชาวเกาหลีใต้ จึงมีการดัดแปลงมาเป็นเมนูที่น่ารับประทาน  โดยการนำชีสมาผสมกับไส้กรอกและวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อให้มีรสชาติลงตัว กลายเป็นคอร์นด็อกชีสนุ่มๆ ที่น่าลิ้มลองจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นเมนูชีสที่คนไทยชื่นชอบด้วย 

วัตถุดิบในการทำคอร์นด็อกชีส

  • แป้งขนมปัง        300 กรัม
  • น้ำตาลทราย        40  กรัม
  • เกลือ                    5    กรัม
  • ยีสต์                     1     ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า                1    ถ้วยตวง
  • ไส้กรอก  4 ชิ้น หรือมากกว่านี้ก็ได้
  • มอสซาเรลล่าชีส 400 กรัม
  • ไข่ไก่                     1-2 ฟอง
  • มันฝรั่งแบบหั่นเต๋าชิ้นเล็ก 1 ถ้วยตวง
  • แป้งขนมปังไว้ชุบ    100 กรัม
  • น้ำมันปาล์ม         1 ขวดใหญ่ 
  • มัสตาร์ด
  • ซอสพริก

วิธีการทำคอร์นด็อกชีส

  1. นำแป้งขนมปัง 300 กรัม มาใส่ลงในชาม แล้วใส่เกลือ น้ำตาลทราย และยีสต์ แล้วคนผสมให้เข้ากัน 
  2. เติมน้ำและใส่ไข่ไก่ลงไปในชาม แล้วทำการคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นจึงพักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที
  3. นำมอสซาเรลลาชีสมาหั่นเป็นแท่ง ยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร
  4. เสียบไส้กรอกลงไปในไม้เสียบ แล้วตามด้วยแท่งมอสซาเรลลาชีสที่ได้หั่นเตรียมไว้
  5. หลังจากเสียบไส้กรอกและมอสซาเรลลาชีสในไม้เสร็จ ก็นำมาชุบแป้งที่ผสมเตรียมเอาไว้ แล้วทำการโปะด้วยมันฝรั่งเต๋า
  6. จากนั้นนำมาชุบด้วยแป้งขนมปังอีกที แล้วพักไว้ 5 นาที
  7. ตั้งกระทะ ใช้ไฟระดับปานกลาง ตามด้วยใส่น้ำมันปาล์มลงไป
  8. เมื่อน้ำมันมีความร้อนพอดีแล้ว จึงนำคอร์นด็อกชีสลงไปทอดให้มีสีเหลือง
  9. ตักออกจากกระทะ แล้วสะเด็ดน้ำมันออกจากคอร์นด็อกชีส
  10. ทำการราดด้วยมัสตาร์ดและซอสพริกบนคอร์นด็อกชีส 
  11. จากนั้นนำมาจัดจานและกินได้

คอร์นด็อกชีส เป็นเมนูชีสที่ใครหลายคนนิยมกิน เนื่องจากมีส่วนผสมที่หลากหลายแต่ลงตัว เมื่อได้กินแล้วมีความนุ่มและมีชีสยืดๆ ชวนให้กินต่อได้ไม่หยุด

พิซซ่าชีส

4. พิซซ่าดับเบิ้ลชีส

พิซซ่าดับเบิ้ลชีสเป็นอาหารจานด่วนสัญชาติอิตาลีแม้ว่าจะฟังดูเป็นอาหารท้องถิ่นที่ควรมีประวัติยาวนาน แต่ชีสพิซซ่านั้นเพิ่งถูกค้นพบได้ไม่ถึง 200 ปีด้วยซ้ำโดยชีสพิซซ่าถาดแรกของโลกนั้นถูกอบขึ้นมาในปี 1889 และกลายเป็นเมนูยอดฮิตลอดกาลของโลก  กระทั่งในปัจจุบันก็มีพิซซ่าหลากหลายแบบให้เลือกและมีการคิดค้นพิซซ่าขึ้นมาใหม่อีกหลายสูตรด้วยกัน  แต่สูตรพิซซ่าที่ทุกคนไม่ควรพลาดคือ พิซซ่าดับเบิ้ลชีส โดยวัตถุดิบและวิธีการทำพิซซ่าดับเบิ้ลชีสแบบง่ายๆ มีดังนี้

วัตถุดิบในการทำพิซซ่าดับเบิ้ลชีส

  • แป้งขนมปัง 200 กรัม
  • นมจืด           140 กรัม
  • หมูแฮม 1-2 แผ่น
  • ยีสต์  ½ ช้อนชา
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • พริกหวานสามสี อย่างละ 1 ช้อน
  • ไข่ไก่  1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย    1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก    1 ช้อนโต๊ะ
  • สับปะรดหั่นแบบชิ้นเล็กๆ
  • มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง
  • ซอสมะเขือ
  • มอสซาเรลลาชีสขูด

วิธีการทำพิซซ่าดับเบิ้ลชีส

  1. ทำการผสมแป้งขนมปังและยีสต์ให้เข้ากัน แล้วทำหลุมบนแป้งเพื่อเตรียมไว้
  2. ใส่ไข่และนมสดไปในชาม ตามด้วยเกลือ น้ำตาลทราย แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปเข้าไมโครเวฟเพื่อทำการอุ่น 5 นาที
  3. จากนั้นนำออกมาจากไมโครเวฟ แล้วเทลงไปในหลุมแป้ง 
  4. กวนให้เข้ากันโดยประมาณ 5 นาที จากนั้นใส่น้ำมันมะกอกลงไป แล้วทำการนวดแป้งเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้แป้งละเอียดและไม่ติดมือ จากนั้นรีดแป้งให้แบน โดยให้มีความหนา 1 เซนติเมตร เสร็จจากการนวดแป้ง จึงพักแป้งไว้
  5. ทาเนยบนถาดพิซซ่าที่เตรียมไว้สำหรับอบ จากนั้นนำวัตถุดิบที่เตรียมไว้ เช่น หมูแฮม พริกหวานสามสี สับปะรด ตามด้วยมะเขือเทศหั่นครึ่ง ใส่ในถาดอบ แล้วจึงโรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีสที่ขูดไว้ เยอะน้อยตามใจชอบ
  6. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิไม่เกิน 200 องศาเซลเซียส โดยใช้ไฟล่าง แล้วทำการอบประมาณ 15 นาที หรืออาจใช้ระยะเวลาในการอบมากกว่านั้น ตามขนาดของเตาอบ
  7. หลังจากอบในระยะเวลา 15 นาทีแล้ว จากนั้นจึงเปิดไฟบน-ล่างอีก 5 นาที เพื่อให้พิซซ่าดับเบิ้ลชีสสุกและมีความหอมเกรียมเล็กน้อย
  8. เมื่อพิซซ่าดับเบิ้ลชีสสุกแล้ว ใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ ให้มีขนาดพอดี แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศหรือปรุงด้วยเครื่องปรุงอื่นตามชอบ เพื่อรับประทาน

หากใครอยากให้พิซซ่าดับเบิ้ลชีสที่มีความอร่อยแบบเข้มข้น สามารถราดซอสมะเขือเทศแบบฉ่ำๆ ไปเลย เพื่อให้ได้เมนูชีสที่หอมอร่อย เต็มไปด้วยรสชาติมะเขือเทศที่หวานอมเปรี้ยวแต่ลงตัวกับชีสนุ่มๆ

 

5. หมูแผ่นกะเพราชีส

หมูแผ่นกะเพราชีสมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยและเป็นอาหารสัญชาติไทย โดยผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนิยมรับประทานอาหารที่มี รสชาติเผ็ดๆ แต่ยังคงไปด้วยความอร่อย จึงได้มีการคิดทำเมนูผัดกะเพราขึ้นมา โดยการใส่เนื้อหมู พริก และใบกะเพราที่มีกลิ่นหอมอร่อย รสชาติที่แตกต่างกัน แต่กลับเข้ากันได้อย่างลงตัว ทั้งยังเป็นเมนูยอดนิยมที่อยู่คู่ทุกร้านอาหารในไทยและเป็นเมนูที่ชาวต่างชาติชื่นชอบอีกด้วย 

ต่อมาได้มีการนำผัดกะเพรามาทำเป็นเมนูอื่นๆ ที่ยังคงความเป็นกะเพราแบบฉบับไทยเอาไว้ นั่นคือเมนูหมูแผ่นกะเพราชีส โดยเมนูนี้เป็นเมนูชีสสไตล์ฟินๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างผัดกะเพรารสชาติเผ็ดกับชีสแบบนุ่มๆ ทำให้ได้เป็นเมนูชีสที่มีความอร่อยกำลังดีหรือมีชื่อเรียกว่า หมูแผ่นกะเพราชีส นอกจากนี้หมูแผ่นกะเพราชีสยังเป็นเมนูที่ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุจากใบกะเพราที่ช่วยแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง รวมถึงมีโปรตีนจากหมูที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงร่างกาย จึงเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติความอร่อยแบบอาหารไทยเพื่อสุขภาพ

วัตถุดิบในการทำหมูแผ่นกะเพราชีส

  • ใบกะเพรา        1  มัด
  • หมูแผ่น           1 ซอง
  • หมูบด             300 กรัม
  • น้ำมันหอย      2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม        6 กลีบ
  • น้ำตาลทราย  1 ช้อนโต๊ะ
  • มอสซาเรลลาชีส 100 กรัม
  • น้ำปลา           2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช       2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ           ½  ช้อนชา
  • พริกขี้หนู       10 เม็ด
  • น้ำเปล่า         2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชี             สำหรับตกแต่ง
  • พริกซอย     สำหรับแตกแต่ง

วิธีการทำหมูแผ่นกะเพราชีส

  1. ตั้งกระทะ แล้วใส่น้ำมันพืชลงไปในกระทะ รอให้น้ำมันร้อน
  2. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูที่โขลกเอาไว้ลงไปในกระทะ แล้วผัดให้กระเทียมมีความหอม
  3. นำหมูบดลงไปผัดให้สุกก่อนบางส่วน แล้วพักไว้ ค่อยปรุงรสทีหลัง
  4. ใส่ส่วนผสมที่เตรียมเอาไว้ เช่น ซอสปรุงรส น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ ตามด้วยน้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงไปบนหมู ผัดให้เข้ากัน
  5. จากนั้นใส่ใบกะเพราลงไปผัด รอให้ใบกะเพรามีกลิ่นหอม
  6. เมื่อใบกะเพรามีกลิ่นหอมแล้ว ก็รอให้ใบกะเพราเริ่มสลด จากนั้นยกกระทะออกจากเตาแก๊สได้เลย
  7. นำหมูแผ่นมาวางเรียงลงในจาน จากนั้นตักกะเพราหมูใส่ในหมูแผ่น แล้วทำการโรยชีสมอสซาเรลลาด้านบน 
  8. นำไปอบที่อุณหภูมิไม่เกิน 200 องศา เป็นระยะเวลา 15 นาที แล้วใช้ไฟบน เพื่อให้ชีสละลายและมีสีสวย เมื่ออบจนครบเวลา 15 นาที ก็นำหมูแผ่นกะเพราชีสออกจากเตาอบร้อนได้เลย
  9. ตกแต่งด้านบนด้วยผักชีและพริกซอย เพื่อให้หมูแผ่นกะเพราชีสมีสีสันสวยงาม ชวนน่ากิน

เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูชีสนุ่มๆ กับผัดกะเพรารสชาติเผ็ดร้อนที่อร่อยลงตัวแบบไทยๆ ที่มีชื่อว่า หมูแผ่นกะเพราชีสที่ใครหลายคนชื่นชอบนั่นเอง

เกี๊ยวซ่าแฮมชีส

6. เกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีส

เกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีสเป็นอาหารสัญชาติจีน โดยต้นกำเนิดของเมนูนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนมากมายในประเทศจีนคือช่วงราชวงศ์หมิงหรือราวปี 1644 อีกทั้งมีการแพร่หลายไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเริ่มรู้จักเกี๊ยวซ่าครั้งแรกในปี 1700 นั่นเอง จนมาในปี 1900 ได้มีการนำเกี๊ยวซ่าไปขายพร้อมกับราเมนเป็นชุดๆ จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักและนิยมกินเกี๊ยวซ่าเพิ่มมากขึ้น ต่อมาได้มีการนำเกี๊ยวซ่ามาทำเป็นเมนูอาหารผสมกับชีสแบบลงตัว สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ ฃ

นอกจากนี้เมนูชีสแบบเกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีสยังมีโปรตีน วิตามิน มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูก ประกอบไปด้วยพลังงานสูง ดังนั้นจึงมีสารอาหารที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากใครที่ชื่นชอบเมนูอาหารจีนชีสยืดๆ ก็ไม่ควรพลาดเกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีส

วัตถุดิบในการทำเกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีส

  • แผ่นเกี๊ยว 10 แผ่น
  • น้ำมันพืช  1 ขวด
  • แฮมหั่นเป็นชิ้นสีเหลี่ยมพอดีคำ 10 อัน
  • ชีสหั่นเป็นชิ้นสีเหลี่ยมพอดีคำ 20 อัน
  • น้ำเปล่า    1 ถ้วย
  • ซอสมะเขือเทศ หรือน้ำจิ้ม
  • มอสซาเรลลาชีส

วิธีการทำเกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีส

  1. นำแฮมที่เตรียมไว้มาวางลงตรงกลางแผ่นเกี๊ยว
  2. จากนั้นนำชีสมอสซาเรลลาวางลงไปบนแผ่นเกี๊ยว
  3. ทำการทาน้ำให้ทั่วขอบแป้งเกี๊ยว เพื่อปิดแผ่นเกี๊ยว
  4. พับแผ่นเกี๊ยวเข้าหากันให้เป็นสามเหลี่ยมทั้งสองข้าง จับแผ่นเกี๊ยวให้ปิดสนิท เพื่อให้ไส้ไม่ทะลักตอนนำไปทอด 
  5. ตั้งกระทะ แล้วใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อน พอน้ำมันร้อน ก็นำแผ่นเกี๊ยวลงไปทอดได้เลย
  6. ทอดแผ่นเกี๊ยวให้สุก มีสีเหลืองทอง 
  7. เมื่อแผ่นเกี๊ยวสุกได้ที่แล้ว ก็สามารถตักขึ้นจากกระทะ เพื่อใส่จานที่เตรียมไว้

รอสักครู่ให้หายจากความร้อน ก็จะได้กินเมนูชีสแสนอร่อย แบบเกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีสที่สามารถกินกับน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มที่ตัวเองชื่นชอบได้ ถ้าใครชอบเมนูสไตล์อาหารจีน ก็อย่าลืมไปลองฝึกทำตามขั้นตอนนี้กันดูนะ

พาสต้าชีส

7. พาสต้าเฟสต้าอบชีส 

พาสต้าเฟสต้าอบชีสเป็นอาหารสัญชาติอิตาลี โดยในศตวรรษที่ 10 ฟาสต้าได้กลายเป็นเมนูอาหารสำหรับทุกคน แต่มีความแตกต่างกันที่ส่วนผสม หลังจากนั้นพาสต้าได้กลายเป็นอาหารหลักในศตวรรษที่ 17 ของชาวอิตาลีและในศตวรรษที่ 18 พาสต้าได้เป็นสินค้าที่หาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด ต่อมาคนไทยเริ่มรู้จักพาสต้ามากขึ้นในศตวรรษที่ 20 ซึ่งปัจจุบันคนไทยคุ้นเคยเมนูชนิดนี้ในรูปแบบมักกะโรนีหรือเรียกว่ามักกะโรนีอบชีสก็ได้ 

นอกจากนี้สารอาหารภายในเส้นพาสต้ายังมีธาตุเหล็ก อีกทั้งมีคาร์โบไฮเดรตสูง จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอดี เพื่อจะได้ส่งผลดีต่อร่างกาย พาสต้าเฟสต้าอบชีสจึงเป็นเมนูชีสที่เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย

วัตถุดิบในการทำพาสต้าเฟสต้าอบชีส

  • พาสต้าต้มเกือบสุก    200 กรัม

(สามารถปรับโดยการใช้เส้นมักกะโรนีก็ได้)

  • ชีส                               5 แผ่น

  • แฮมหั่นชิ้น                  150 กรัม

  • แป้งสาลี                     2 ช้อนโต๊ะ

  • หัวหอมใหญ่หั่น         50 กรัม

  • นมสดรสจืด             200 มิลลิลิตร

  • น้ำเปล่า                     5 ช้อนโต๊ะ

  • พริกไทยป่นเล็กน้อย

  • ออริกาโนป่นเล็กน้อย

  • เกลือเล็กน้อย

วิธีการทำ พาสต้าเฟสต้าอบชีส

  1. ตั้งกระทะ แล้วผัดหัวหอมกับเนยจืด จนหัวหอมมีสีใส
  2. ใส่แฮมหั่น พาสต้า ลงไปในกระทะแล้วผัดให้เข้ากัน
  3. ต่อมาใส่นมสด แล้วปรุงรสด้วย พริกไทยป่น เกลือ  ออริกาโน ผงคนอร์รสหมู (ไม่ควรใช้คนอร์เยอะเกินไป)
  4. รอจนเดือด จึงใส่แป้งผสมน้ำ คนให้ทั่วจนเกิดความข้น ประมาณ 5 นาที
  5. จากนั้นทำการตักพาสต้าที่ผัดแล้วใส่ชาม (ไม่ควรให้มีน้ำมากเกินไป)
  6. วางชีสให้เต็มและโรยแฮมที่เหลือลงไป จากนั้นโรยออริกาโน 
  7. นำเข้าเตาอบไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาอบ 20 นาที แล้วรอให้สุก จนชีสมีความละลาย จากนั้นก็นำออกจากเตาอบ รอให้อุ่น แล้วนำมารับประทาน 

หากใครชอบเมนูอาหารสไตล์อิตาลี ไม่ควรพลาดเมนูอบชีสที่น่าลองแบบพาสต้าเฟสต้าเลยทีเดียว 

 

8. ไข่กระทะชีสซี่เบคอน

ไข่กระทะชีสซี่เบคอนเป็นอาหารสัญชาติเวียดนามหรือมีต้นกำเนิดมาจากเวียดนามนั่นเอง โดยไข่กระทะชีสซี่เบคอนเป็นเมนูชีสที่มีความอร่อย ประกอบไปด้วยส่วนผสมหลักๆ คือ ไข่ เบคอน เป็นต้น ถ้าได้ใส่ชีสเข้าไป จะยิ่งเพิ่มความอร่อยเป็นหลายเท่า อีกทั้งไข่กระทะชีสซี่เบคอนยังเป็นเมนูอาหารเช้าทำง่ายและสามารถกินควบคู่กับเมนูอื่นๆได้ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ก็สามารถรับประทานได้เหมือนกัน และยังมีสารอาหารที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ธาตุเหล็ก และวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้กลายเป็นเมนูเช้าที่มีความหอม อร่อย ลงตัว และมีประโยชน์แบบสุดๆ

วัตถุดิบในการทำไข่กระทะชีสซี่เบคอน

  • ไข่ไก่          2  ฟอง
  • เบคอน      1 ถ้วย (หรือตามใจชอบ)
  • เนื้ออกไก่สับ  1 ถ้วย (หรือจะใส่เนื้อหมูสับก็ได้)
  • เนยจืด      1-2 ก้อน
  • ชีสแผ่น      2 แผ่น
  • แครอทหั่นเต๋าแบบชิ้นเล็กๆ  1 ถ้วย
  • ซอสปรุงรส  1  ช้อนโต๊ะ 
  • พริกไทยป่น
  • ผักชีสำหรับไว้โรย

วิธีการทำ 

วิธีการทำไข่กระทะชีสซี่เบคอน

  1. ตั้งกระทะให้ร้อน

  2. ใส่เบคอนลงไปคั่ว เพื่อให้กรอบแบบพอดี จนมีน้ำมันออกมาจากตัวเบคอนเล็กน้อย

  3. คั่วจนให้มีความเหลือง ระวังอย่าให้เบคอนไหม้

  4. ตักเบคอนออกจากกระทะ แล้วใส่จานพักไว้

  5. ต่อมาใส่เนยลงไปในกระทะเพียงเล็กน้อย จากนั้นตามด้วยแครอทที่หั่นเต๋า แบบชิ้นเล็กๆ และใส่เนื้ออกไก่สับ แล้วผัดให้เข้ากัน

  6. จากนั้นใส่ซอสปรุงรสเข้าไป ตามด้วยพริกไทยป่น แล้วเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เพื่อให้แครอทและเนื้อไก่อกสับสุกเร็วขึ้น เมื่อสุกแล้ว นำพักไว้ก่อน

  7. ใช้ไฟอ่อนๆ แล้วใส่เนยลงไปอีกกระทะที่เตรียมไว้ (สามารถใช้น้ำมันแทนเนยได้ ถ้าไม่มีน้ำมัน)

  8. เมื่อเนยละลาย ใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะ จากนั้นปิดฝาไว้ รอให้ไข่สุก

  9. ใส่เครื่องปรุงที่ผัดไว้ ซึ่งก็คือแครอทและเนื้ออกไก่สับลงไปในกระทะที่มีไข่

  10. ใส่เบคอน จากนั้นใส่ชีสลงไปตามในกระทะ

  11. ปิดฝาไว้ รอให้ชีสละลาย เมื่อชีสละลายจนสุกแล้ว โรยพริกไทยป่นและใส่ซอสปรุงรส แล้วใส่ผักชี

  12. จากนั้นนำมาวางใส่จาน แล้วรับประทานได้

เพียงเท่านี้ ก็จะได้ไข่กระทะชีสซี่เบคอนที่มีกลิ่นหอมอร่อย แบบฟินๆ

สลัดบูราต้าชีส

9. สลัดบูราต้าชีส

สลัดบูรพาต้าชีสเป็นอาหารสัญชาติอิตาลี

โดยเมนูนี้ประกอบไปด้วยผักสลัดและชีสที่มีรสชาติความอร่อยแบบเปรี้ยวหวานกำลังดี 

ซึ่งสารอาหารของบูราต้าชีสประกอบไปด้วย โปรตีน วิตามินจากผักและผลไม้ แคลเซียม ที่มีส่วนช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย อีกทั้งช่วยในการเจริญเติบโตและช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อนที่เกิดในวัยเด็ก  จึงเป็นเมนูชีสที่

เหมาะสำหรับทุกวัยและเหมาะสำหรับหรับคนที่รักการกินชีส นอกจากนี้บูราต้าชีสยังสามารถเป็นเมนูอาหารเพื่อลดน้ำหนักหรือเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพของคนที่รักสุขภาพนั่นเอง 

วัตถุดิบ

วัตถุดิบในการทำสลัดบูราต้าชีส

  • มะเขือเทศที่หั่นไว้ 1 ถ้วย

  • น้ำเปล่าที่ร้อน 1 ถ้วย

  • น้ำนมวัวดิบ  1 กล่อง

  • น้ำส้มสายชู   1 ถ้วย

  • บัลซามิก       1 ถ้วย

  • ร็อกเก็ตสลัดตามใจชอบ

  • วิปครีมตามใจชอบ

  • เกลือป่นเล็กน้อย

  • พริกไทยเล็กน้อย

  • น้ำมันมะกอกเล็กน้อย

วิธีการทำ

วิธีการทำบูราต้าชีส

  1. เริ่มต้นด้วยการนำน้ำนมวัวดิบมาต้ม โดยวางกระทะเป็นชั้นที่ 1 จากนั้นใส่น้ำนมวัวดิบไว้ในกะละมังชั้นที่ 2 เพื่อไม่ให้นมโดนน้ำเปล่าและโดนความร้อนอย่างเต็มที่ เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำนมสูญเสียโปรตีนหรือเปลี่ยนสภาพ ซึ่งมีผลต่อการทำเนื้อชีส

  2. เมื่อไขมันของน้ำนมขึ้นมาเเล้ว ค่อยยกออกจากกระทะ แล้วใส่น้ำส้มสายชู 200 มิลลิลิตร เพื่อเป็นการทำให้โปรตีนและไขมันแยกออกจากน้ำเวย์ แล้วปิดฝา หลังจากนั้นพักไว้เป็นเวลา 5 นาที

  3. ต่อมาใส่เกลือป่นและน้ำร้อนไปยังอีกหนึ่งกะละมัง แล้วนำน้ำนมวัวดิบที่พักไว้มาตักแยกไขมันออก ไขมันจะกลายเป็นชีส จากนั้นนำไปบีบนวดกับน้ำนมที่แยกไว้เพื่อให้ชีสมีความยืด

  4. นำวิปครีมมาใส่ถ้วย แล้วจากนั้นตักวิปครีมใส่ในบริเวณตรงกลางชีส ต่อมาพับชีสที่ยืดๆ ให้เข้าหากัน เพื่อให้เป็นรูปทรงกลม แล้วนำไปใส่จาน

  5. นำร็อกเก็ตสลัดมาวางไว้บนจาน ตามด้วยมะเขือเทศ จากนั้นวางชีสยืดๆ แล้วทำการราดบัลซามิก ตามด้วยน้ำมันมะกอก โรยเกลือ พริกไทย ก็เสร็จเรียบร้อย

เท่านี้จะได้บูราต้าชีสแบบนุ่มๆ เยิ้มๆ น่ารับประทาน

สตรอว์เบอร์รีชีสพาย

10.สตรอว์เบอร์รีชีสพาย 

สตรอว์เบอรี่ชีสพายเป็นอาหารของสัญชาติตะวันตก โดยสตรอว์เบอร์รี่ชีสพายเป็นเมนูยามว่างที่มีรสชาติความอร่อยแบบหวาน นุ่มละมุนไปด้วยชีส และมีความเปรี้ยวนิดๆ จากสตรอว์เบอร์รี่ จึงเป็นสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและสตรอว์เบอร์รี่ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทอีกด้วย จึงเป็นเมนูที่ยอดนิยมและสามารถทานได้ทุกวัย รวมถึงประกอบไปด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ

 

วัตถุดิบ

วัตถุดิบในการทำสตรอว์เบอร์รี่ชีสพาย

  • ครีมชีส 250 กรัม

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย

  • นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

  • นมจืด 3 ช้อนโต๊ะ

  • แยมสตรอว์เบอร์รี 1/2 กระป่อง

  • เนยจืดละลาย 100 กรัม 

  • แครกเกอร์ 160 กรัม กรือขนมปังกรอบที่บดให้ละเอียด

วิธีการทำ 

วิธีการทำสตรอว์เบอร์รี่ชีสพาย

  1. ทำการบดแครกเกอร์ให้ละเอียด

  2. ต่อมาใส่เนยละลายในแครกเกอร์ แล้วคนให้เข้ากัน

  3. ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วกดให้แน่น จากนั้นนำเข้าตู้เย็นเป็นเวลา 10 นาที

  4. นำครีมชีสมาใส่ในถ้วย ใส่นมจืด ตามด้วยนมข้นหวาน และใส่โยเกิร์ตลงไป แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นครีมชีส

  5. เมื่อเป็นครีมชีสแล้ว ก็ตักใส่ถ้วยแครกเกอร์ที่ได้เตรียมไว้ 

  6. นำไปแช่ตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ครีมชีสมีการเซตตัว

  7. หลังจากเซตตัว ก็สามารถนำออกมาจากตู้เย็น เพื่อราดแยมสตรอว์เบอรี่ลงบนชีส แล้วตามด้วยลูกสตรอว์เบอร์รี่ 

จากนั้นก็รับประทานสตรอว์เบอร์รี่ชีสพายที่หอม หวาน เนื้อนุ่มกันได้เลย

 

ชีสเป็นอาหารที่สามารถนำมาทำได้หลายเมนู  เช่น ไข่กระทะชีสซี่เบคอน เกี๊ยวซ่าทอดแฮมชีส

ผักโขมอบชีส เป็นต้น โดยเมนูอาหารเหล่านี้มีที่มาจากหลายสัญชาติ ทำให้มีความอร่อยที่แตกต่างกันอย่างลงตัวและชวนรับประทาน 

 

ในปัจจุบันเมนูชีสนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่รักการกินชีส  ซึ่งชีสไม่เพียงแค่มีความอร่อยอย่างเดียว แต่เมนูที่ทำจากชีสยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย 

 

หากใครอยากทำเมนูชีสที่อร่อยๆ ก็สามารถศึกษาจากบทความนี้ได้ หรือใครต้องการซื้อวัตถุในการทำเมนูชีส ก็สามารถซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายได้ที่ Foodland Supermarket ชั้น B ได้เลย 

Related