รู้หรือไม่ว่าการนอนพักสั้นๆ ถือเป็นการเพิ่มความสดใส เพิ่มสมาธิในการทำงาน นี่เป็นเทคนิคการนอนที่เรียกว่า Power Nap การนอนระยะสั้นแบบนี้เหมาะกับผู้ที่รู้สึกอ่อนเพลียขณะทำกิจกรรม โดย power nap คือการนอนหลับในช่วงเวลาสั้นๆ แต่สามารถทำให้ร่างกายได้พักผ่อน และชาร์จแบตจนเต็มให้ร่างกายกลับกระปรี้กระเปร่าได้อีกครั้ง แต่การนอนหลับแบบ Power Nap จะมีรายละเอียดอย่างไร ไปติดตามกันได้ในบทความนี้เลย
Power Nap หรือ Cat Nap อาจเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่ออย่าง การนอนหลับ Stage 2 เนื่องจากการนอนลักษณะนี้จะไม่ใช่การนอนหลับระยะยาว แต่ใช้ระยะเวลาในการนอนเพียงสั้นๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเติมพลัง และรีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดชื่นมากขึ้น นอกจากนี้สำหรับใครที่กำลังปรับเวลานอนของตัวเองอยู่การทำ Power Nap ยังช่วยลดความง่วงที่เกิดจากความไม่เคยชินจากการปรับเวลานอนได้ด้วย
ใครที่กำลังสงสัยว่า Power Nap ที่กำลังพูดถึงนี้ต้องใช้เวลางีบกี่นาทีดี คำตอบคือไม่ควรเกิน 20 นาที โดยเป็นการนอนในช่วง Stage ที่ 2 หรือเป็นช่วงก่อนหลับลึก ซึ่งการนอนในช่วงนี้จะช่วยกระตุ้นการตื่นตัว และเพิ่มความคล่องตัวเมื่อตื่นอีกด้วย เพราะว่าการนอนในช่วงถัดไปที่เรียกว่า การหลับลึก หรือการใช้ระยะเวลานอนที่นานกว่านี้จะทำให้ร่างกายรู้สึกเฉื่อยช้า มึนงง และไม่กระฉับกระเฉงเมื่อคุณรู้สึกตัว
การนอนแบบ Power Nap เป็นการงีบหลับในช่วงสั้นๆ และตื่นนอนก่อนเข้าสู่ช่วงหลับลึก ซึ่งมีประโยชน์และข้อดีอย่างที่เราได้กล่าวไป แต่การตื่นนอนระหว่างหลับลึกกลับให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม คือ ทำให้ร่างกายของเราพักผ่อนไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพในการนอนต่ำ รู้สึกงัวเงีย และไม่สดชื่นหลังจากตื่นนอน อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
จริงๆ แล้วการนอนระยะสั้นเป็นการให้ร่างกายได้พักผ่อนชั่วคราว และรีเฟรชความรู้สึกใหม่ให้พร้อมกับการเรียน ทำงาน หรือกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ อย่างไรก็ตาม การนอนแบบ Power Nap ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในรูปแบบเดียวกันกับผู้ที่โรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ดังนี้
ใครที่เริ่มสนใจ และอยากลองนำเทคนิคการนอนแบบ Power Nap ไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน และเพิ่มสมาธิในการทำงานกันแล้ว เนื้อหาส่วนนี้ได้รวบรวมทุกเทคนิคในการนอนระยะสั้นมาไว้ให้ทุกคนแล้ว
ก่อนที่คุณจะนอน อยากให้ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ที่ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่เผลอนอนเกินโควตาของการนอนแบบ Power Nap เพราะหากคุณนอนเกิน และเผลอตื่นในช่วงที่หลับลึกอาจทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายได้ด้วยนั้นเอง
Power Nap เป็นเทคนิคการนอนระยะสั้นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และยังมีอีกหลากหลายชื่อเรียกอย่าง Coffee Nap, Caffeine Nap หรือ Nappuccino โดยการนอนเหล่านี้จะมีเทคนิคที่เป็นตัวช่วยก่อนก่อน คือ การดื่มกาแฟ เนื่องจากเวลาที่คุณนอนร่างกายจะมีการปล่อยสารอะดีโนซีน (Adenosine) ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง และพร้อมที่จะนอนหลับ ยิ่งใครที่เหนื่อยล้ามามากๆ สารชนิดนี้จะยิ่งผลิตเยอะขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และฟื้นฟูตัวเองให้เต็มที่
แต่การทำ Coffee Nap จะเป็นการใช้คาเฟอีน (Caffeine) ไปยังยั้งการทำงานของสารอะดีโนซีนไม่ให้ไปทำงานกับสมอง ส่งผลให้หลังจากที่คุณตื่น ร่างกายจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และพร้อมสำหรับการจดจ่ออยู่กับการทำงาน การบ้าน หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่
Power nap หรือ การงีบช่วงสั้นๆ ไม่ควรทำในช่วงตอนเย็น เนื่องจากอาจส่งผลต่อการนอนในเวลากลางคืนของคุณได้ ดังนั้น จึงควรเลือกเวลาให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการทำ Power Nap และไม่ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการนอนในเวลากลางคืนด้วย ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการนอนระยะสั้น คือ ช่วงบ่ายของวัน
แม้ว่าการนอนแบบ Power Nap จะมีช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ ราว 15-20 นาที แต่การจะนอนหลับให้ดี และมีประสิทธิภาพต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การมีสภาพแวดล้อมในการนอนที่ดี ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ทำให้นอนหลับได้ง่าย และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน โดยองค์ประกอบในการนอนที่ควรให้ความสำคัญ มีดังนี้
หลายครั้งที่การพักงีบระหว่างการทำงาน หรือระหว่างเรียน ถูกตีตราว่าเป็นลักษณะของคนขี้เกียจ และไม่เอาการเอางาน ในทางกลับกัน การได้นอนพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ หรือ Power Nap สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง โฟกัสกับกิจกรรมตรงหน้าได้เต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการรีเฟรชร่างกายอีกด้วย ซึ่งการนอนแบบ Power Nap มีประโยชน์มากมาย ดังนี้
มีการทดลองเพื่อวัดความสามารถในการจดจำ โดยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกได้นอนก่อนเริ่มทำการทดสอบเป็นเวลา 10 นาที ในขณะที่อีกกลุ่มไม่ได้ทำ ผลลัพธ์คือผู้เข้าร่วมการทดสอบกลุ่มแรกนั้นมีความจำที่ดี และแม่นยำมากกว่ากลุ่มที่สองที่เริ่มการทดสอบเลยโดยไม่มีการนอนก่อนทดสอบ อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตที่ว่าหากเผลอนอนหลับมากกว่า 20 นาที ซึ่งเป็นช่วง Stage 2 ของการนอนไปแล้วนั้น จะส่งผลลัพธ์ตรงกันข้าม คือ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
การนอนหลับระยะสั้นช่วยลดความเครียด และผ่อนคลายสมอง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงอย่างโรคความดันโลหิต และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จะเห็นได้ว่าการนอนพักสั้นๆ ไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์ในการทำงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลกับสุขภาพร่างกายในแง่ของการป้องกันการเกิดโรคได้อีกด้วย
จากสถิติของการทดลองนอนระยะสั้นในหมู่พนักงาน พบว่าการนอนงีบหลังจากเจอปัญหา หรือการประชุมที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด สามารถลดภาวะความเครียด และรีเฟรชอารมณ์ได้จริง ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ที่ทำได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้นอนงีบอย่างชัดเจน
บทความนี้ได้เน้นย้ำข้อดีของการงีบหลับในช่วงสั้นๆ ว่าช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และตื่นตัวเป็นพิเศษ แต่เพื่อให้เห็นภาพกันมากขึ้นจากการศึกษาการงีบแบบ Power Nap ในหมู่ทหารจำนวนหนึ่ง ผลการทดลองพบว่าทหารที่ได้นอนหลับเป็นเวลา 10-15 นาที มีความกระตือรือร้น มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น และพร้อมฝึกมากกว่าทหารที่ไม่ได้งีบพักนั้นเอง
แน่นอนว่าการงีบหลับระหว่างวันช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง และสามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ ในแง่ของการใช้ความคิดสร้างสรรค์จึงทำได้ดียิ่งขึ้น หากใครที่ทำงานคลุกคลีในวงการที่ต้องผลิตงานสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา การได้งีบนอนสั้นๆ ระหว่างทำงานถือเป็นไอเดียที่ดีเลยทีเดียว
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานกันยาวๆ ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง เชื่อว่าระหว่างที่ทำงานต้องเจอเรื่องราว หรือเหตุการณ์ที่บั่นทอนกำลังใจในการทำงานอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การได้พักผ่อนในช่วงเวลาหนึ่ง สามารถช่วยให้สมองได้พักผ่อน และผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี โดยสังเกตได้ว่าคุณจะรู้สึกมีกำลังใจ และพร้อมในการทำงานมากขึ้นหลังจากที่คุณตื่นจากการนอนระยะสั้นๆ
การนอนแบบ Power Nap คือ การงีบหลับสั้นๆ ประมาณ 15-20 นาที แต่เพื่อเข้าใจเชิงลึก และเห็นประโยชน์ของการนอนในช่วงเวลาต่างๆ มากขึ้น เนื้อหาส่วนนี้จะพาไปเจาะลึกกับการพักผ่อนในแต่ละช่วงเวลาว่าช่วงใดที่เป็นช่วงพักผ่อนที่แนะนำ และช่วงใดที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
ทั้งหมดนี้ คือ การงีบหลับแบบ Power Nap ระหว่างวันที่เป็นหนึ่งในเทคนิคการเพิ่มความสามารถในการทำงานของร่างกาย รีเฟรชสมองให้ปลอดโปร่ง ลดความเครียด และพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อสมองพร้อม ร่างกายสดชื่น แต่คุณยังขาดพื้นที่ในการทำงานดีๆ และกำลังมองหา Co-working Space ที่พร้อมเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ขอแนะนำ Activity Center ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา ที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว และยังมีบริการตู้นอนให้คุณได้พักงีบระหว่างทำงานได้อีกด้วย