หนุ่มๆ เคยสงสัยกันไหมว่า เวลาไถ ig เล่นโซเชียล เห็นรูปคนอื่นทีไร ทำไมรูปคนนั้นก็ดูดี คนนี้ก็ดูน่าค้นหา พอหันมาดูรูปตัวเราเองช่างชวนท้อใจเสียเหลือเกิน องค์ประกอบภาพไม่ได้ มุมกล้องก็ดูประหลาด ท่าโพสต์ก็แข็งทื่อ อยากถ่ายภาพให้ดูหล่อเหมือนคนอื่นเขาบ้าง The Street Share มีคำตอบ เพราะเรารวบรวมเอาเทคนิคการถ่ายภาพ และเทคนิคโพสต์ท่าสำหรับผู้ชาย มารวมไว้ให้ที่นี่แล้ว! ไปดูกันเลย
สำหรับการถ่ายรูปยังไงให้หล่อนั้น กล้องถ่ายภาพดีๆ หรือเลนส์เทพราคาแพง อาจทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีคุณภาพ สีสันสดใส แต่การใช้กล้องดีๆ ถ่ายภาพ ไม่อาจทำให้คนในภาพดูสวยหล่อขึ้นมาได้เสมอไป ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอย่างอื่นเป็นตัวช่วยเสริมให้รูปภาพของเรานั้นมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อยากถ่ายรูปผู้ชายให้ออกมาดูดี ลองมาทำตามเทคนิคต่างๆ เหล่านี้กันได้เลย
เคยไหมเวลาดูรูปถ่ายของเพื่อน เรามักจะเห็นเขาถ่ายภาพในมุมเดิมซ้ำๆ และมันก็ดูดีมากจนอดว้าวไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคนเราจะมีมุมที่ดูดีที่สุดของตัวเอง ที่ไม่ว่าจะถ่ายกี่ครั้งในมุมนี้ ภาพที่ออกมาก็จะดูสวยหล่อทุกครั้ง หากใครยังไม่รู้ว่าตัวเองดูดีที่มุมไหน จะถ่ายรูปยังไงให้หล่อ ลองมาทำตามวิธีง่ายๆ นี้ดู
การหามุมสุดหล่อของตัวเองนั้น ทำได้โดยถ่ายรูปใบหน้าของตัวเองในมุมต่างๆ เริ่มต้นจากถ่ายรูปหน้าตรง จากนั้นหันหน้าไปทางซ้ายและขวา เงยหน้าขึ้น ก้มหน้าลง มองเฉียงขึ้นและลงทั้งซ้ายขวา เมื่อได้ภาพหลายๆ มุมแล้ว ลองเอามาเทียบกันดูว่ามุมไหนที่ตัวเองดูดีที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะได้มุมหล่อของตัวเองเอาไว้โพสต์ท่าถ่ายรูปแล้ว
การแต่งตัว ก็ถือเป็นการช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของเราให้ดูดีขึ้นได้ หากเราเลือกเสื้อผ้าได้เหมาะสมกับรูปร่าง และสีผิว ก็จะเป็นการช่วยดึงจุดเด่น และลบจุดด้อยของตัวเองได้ นอกจากจะทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดูโดดเด่น ชวนมองแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้การถ่ายรูปผู้ชายนั้นดูดีมากขึ้น
ทริคในการเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม เช่น ผู้ชายรูปร่างท้วมไม่ควรใส่เสื้อที่ฟิตมากเกินไปจนเห็นรูปร่างชัดเจน และควรเลือกสีโทนเข้มเพื่อช่วยอำพรางรูปร่าง ส่วนพ่อหนุ่มกล้ามโตที่ดูแลรูปร่างจนแน่นปั๊ก การใส่เสื้อรัดรูปจะช่วยเน้นให้เห็นรูปร่างฟิตๆ ดูสุขภาพดี ในทางตรงกันข้าม หนุ่มรูปร่างผอมบางการใส่เสื้อแบบโอเวอร์ไซส์และกางเกงทรงตรงสักตัว ก็จะช่วยทำให้ตัวดูใหญ่และสมดุลขึ้น เป็นต้น
การถ่ายรูปผู้ชายโดยให้แบบอยู่ตรงกลางของเฟรมภาพ อาจได้ภาพออกมาดูเชย การวางสัดส่วนของภาพถ่ายจึงถือเป็นส่วนสำคัญ สัดส่วนที่ดีจะช่วยเน้นให้ภาพถ่ายดูมีมิติ มีความน่าสนใจ โดยเราอาจใช้วิธีตามกฎสามส่วน ด้วยการแบ่งเฟรมภาพออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กันทั้งแนวตั้งและแนวนอน จนเกิดเป็นตาราง 9 ช่อง และเกิดจุดตัดขึ้น การจัดวางตำแหน่งภาพให้ตรงหรือใกล้เคียงกับส่วนที่เป็นจุดตัดนั้น จะทำให้ภาพมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น การจัดวางความสมดุลของภาพก็เป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้าม ควรวางสัดส่วนภาพให้น้ำหนักของภาพซ้ายและขวา บนและล่าง มีความสมดุลกันไม่เอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป
ส่วนที่เด่นที่สุดบนใบหน้าของคนเราก็คือดวงตา ในการถ่ายภาพ Potrait จึงควรโฟกัสให้ดวงตาของแบบมีความชัดเจนทั้งสองข้าง โดยเมื่อส่วนของดวงตาชัด มักจะส่งผลทำให้ภาพถ่ายชัดเจนไปด้วย
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงให้ตัวบุคคลดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น อาจลองใช้เทคนิคต่างๆ ร่วมด้วย เช่น การใช้เทคนิคภาพสะท้อนเพื่อให้เห็นภาพสะท้อนในดวงตา การถ่ายภาพที่นายแบบกรอกตามองไปด้านข้าง ต้องระวังไม่ให้สัดส่วนของตาขาวมีมากกว่าตาดำ และหากไม่สามารถถ่ายให้ดวงตาทั้งสองข้างชัดเท่ากัน ให้เลือกจุดโฟกัสให้ดวงตาที่อยู่ใกล้มีความชัดมากกว่าข้างที่อยู่ไกลออกไป
สำหรับเทคนิคหน้าชัดหลังเบลอนั้นเกิดจากการตั้งค่า f ของกล้องถ่ายรูป ยิ่งค่า f น้อย แสดงว่าเปิดรูรับแสงกว้าง ภาพด้านหลังจะยิ่งมีความเบลอนั่นเอง การใช้เทคนิคนี้ นอกจากจะได้ภาพที่สวย ดูมีมิติ ทำให้ตัวแบบดูโดดเด่นแล้ว แล้วยังเหมาะกับการถ่ายภาพที่ฉากหลังไม่ค่อยสวย
การถ่ายรูปผู้ชายลักษณะนี้ก็มีเทคนิค เช่น หากต้องการให้หลังเบลอมากๆ ต้องถ่ายบุคคลให้อยู่ใกล้ เพราะถ้าแบบอยู่ไกลเกินไป ถึงแม้จะตั้งค่า f น้อยมากแล้ว ฉากหลังก็อาจจะยังไม่เบลอเท่าที่ต้องการ ข้อควรระวังสำหรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ คือ ต้องโฟกัสให้แบบมีความคมชัดที่สุด ไม่อย่างนั้นนายแบบและฉากหลังอาจกลืนไปด้วยกันจนไม่มีความโดดเด่น
นอกจากนั้นควรเลือกฉากหลังที่ไม่รกจนเกินไป และช่วยส่งเสริมภาพให้ดูสวย เช่น ใช้ฉากหลังเป็นหลอดไฟเล็กๆ หรือตึกที่มีการวางแนวสวยๆ เป็นต้น
การถ่ายภาพถ่ายบุคคลควรปล่อยให้ภาพมีพื้นที่ว่าง โดยให้ตัวแบบเป็นสัดส่วน 1 ต่อ 3 หรือ 2 ต่อ 3 ของภาพ เพราะจะช่วยให้ภาพถ่ายนั้นดูโปร่งสบายตา ไม่อึดอัดจนเกินไป และในกรณีที่นายแบบในภาพมองไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ควรปล่อยพื้นที่ว่างเพื่อให้ตัวแบบทอดสายตา เช่น ถ้าแบบมองทอดสายตาไปทางขวา ก็ควรปล่อยให้มีพื้นที่ว่างทางขวามากกว่าทางซ้าย ก็จะทำให้ภาพดูมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ในการถ่ายรูปผู้ชายนั้น ใครว่าผู้ชายจัดเต็มพร็อปไม่ได้ เพื่อให้ภาพถ่ายดูมีความน่าสนใจ เพิ่มเรื่องราว เติมเต็มให้ภาพมีความสมบูรณ์ นอกจากการเลือกสถานที่สวยๆ และการโพสต์ท่าสุดชิกแล้ว การจัดพร็อปต่างๆ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ โดยเราสามารถเลือกใช้พร็อปสำหรับคุณผู้ชาย มาจัดวางภายในเฟรมให้เหมาะสมกับเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อ เช่น
เวลาถ่ายรูปแต่ละครั้ง เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอปัญหานี้ จะโพสต์ท่าไหนดี มือไม้พันกันเป็นปลาหมึก ขาซ้ายขาขวาไม่สามัคคี สุดท้ายหลายคนมักจบที่ท่ายืนตรง ชูสองนิ้ว จะโพสต์ท่า ถ่ายรูปยังไงให้หล่อ และไม่เชย เรามีไอเดียการโพสต์ท่าให้ลองไปทำตามดู รับรองเลยว่าจะได้ภาพสุดฮอตเอาไปโพสต์อวดเพื่อนอย่างแน่นอน
เป็นท่าโพสต์ที่ฟังดูง่ายๆ เหมือนทำอะไรก็ทำ แต่จริงๆ แล้วท่าโพสต์ที่ดูรีแลกซ์ตามสบายนี้เองก็ยังมีทฤษฎีที่ช่วยยกระดับงานภาพให้มีระดับมากขึ้น โดยการโพสต์ท่าตามบายมีหลักการดังนี้
โพสต์ท่านั่งบ้างก็ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ แต่ท่านั่งนั้นถือว่าเป็นโจทย์ยากของทั้งคนโพสต์และคนถ่ายข้อหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเทคนิคในการโพสต์ท่านั่งนั้น ช่างภาพและนายแบบต้องตีโจทย์ให้แตกว่า จะทำอย่างไรให้มิติภาพไม่แบนและทำตัวบุคลลเด่นขึ้นมา
เขาว่ากันว่า ท่วงท่าที่เป็นธรรมชาตินั้นดูดีที่สุด เช่นกันการถูกถ่ายแบบเผลอๆ แต่ความเผลอเหล่านี้เองก็สร้างได้ด้วยหลักการเหล่านี้
แต่ถ้าใครกำลังมองหาท่าโพสต์ง่าย ๆ ที่ทำได้ไม่ยากอาจจะลองเป็นท่าเล่นมือถือ ไม่ว่าจะเป็นยืนเล่นหน้าเล่น ส่วนมากแล้วการเล่นมือถือจะช่วยให้ร่างกายและสายตาของเราเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องพึ่งตากล้องซักหน่อย เพราะจะต้องเดินหามุมถ่ายให้ดี
โพสต์ท่าได้ง่ายๆ บนราวสะพาน โดยเอาหลังพิงราวสะพาน ยกศอกทั้งสองข้างวางบนราวสะพาน ยืนไขว้ขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง หันหน้าไปทางซ้ายหรือขวา ให้เหมือนกับว่ากำลังชมวิว
ใครว่าผู้หญิงเท่านั้นที่คลั่งไคล้การถ่ายรูป ผู้ชายเองก็อยากได้ภาพสวยๆ ที่ตัวเองดูหล่อเท่ เอาไว้โพสต์ลงในสื่อโซเซียลมีเดียหรือเก็บไว้ดูเองเช่นเดียวกัน โดยเทคนิคการถ่ายรูปผู้ชาย ที่เรานำมาฝากนั้นสามารถลองทำได้เองง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหามุมหล่อของตัวเอง การจัดสัดส่วนและองค์ประกอบของภาพให้เหมาะสม การใช้เทคนิคการถ่ายรูปแบบ Potrait หรือการจัดพร็อปต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ การแต่งตัวก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้รูปถ่ายของเรานั้นมีความน่าสนใจและยังบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนและรสนิยมได้เป็นอย่างดี
สำหรับหนุ่มๆ ที่ต้องการช้อปปิ้งเสื้อผ้าเครื่องประดับที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การแต่งตัว ต้องไปที่ ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center ศูนย์การค้าสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมือง ที่เปิด 24 ชั่วโมง ใจกลางย่านรัชดา แหล่งรวมเสื้อผ้าเครื่องประดับแบบครบวงจร โดยคุณผู้ชายสามารถเลือกชอปปิงได้ทั้งในโซน Acticity Center / Shopping & Fashion ชั้น 2 หรือจะเลือกชอปปิงที่ตลาดนัดกลางคืนเดอะสตรีท รัชดา ก็มีร้านเสื้อผ้าให้เลือกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะสไตล์เรียบหรู แนวมินิมอล แนวเกาหลีเกาใจ ชอบแนวสตรีท หรือแนว Y2K ที่กำลังฮิต มาที่นี่ที่เดียวได้ครบจบทุกความต้องการ เอาไปใส่ถ่ายรูปหล่อๆ กันได้เลย