โซเชียลมีเดียสุดฮอตในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นแอปพลิเคชัน TikTok สำหรับหลายๆ คนที่กำลังใช้ TikTok แล้วเห็นเหล่า Influencer ที่มียอดผู้ติดตามสูงๆ อาจเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าต้องทําไงให้ TikTok ขึ้นฟีด หรือทำยังไงให้คนดู TikTok เยอะๆ และมียอดผู้ติดตามสูงๆ แบบนั้นบ้าง ซึ่งในปัจจุบันการเป็น Tiktoker ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ เช่น การจ้างจากสปอนเซอร์ การใช้เป็นช่องทางโปรโมตแบรนด์ หรือขายสินค้า เป็นต้น บทความนี้จะมาบอกทริคที่ทำแล้วยอดวิวพุ่ง คนติดตามเพิ่ม ทำตามนี้รับรองว่าได้ผลแน่นอน
ก่อนเริ่มถ่าย TikTok หรือก่อนทำคอนเทนต์ ควรศึกษา และรู้ถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรง หรือเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้คนในช่วงนั้นเสียก่อน เนื่องจากการศึกษาเทรนด์ หรือความสนใจของผู้คนจะช่วยให้สามารถเลือก และทำคอนเทนต์ได้ตรงตามความต้องการ เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาดูมากที่สุด โดยเทรนด์การตลาดของ TikTok ที่กำลังมาแรงในปี 2023 นี้ แบ่งเป็นหลายประเภทด้วยกัน
Community-Built Ideals เป็นเทรนด์ที่มีลักษณะของการแชร์ทริค หรือเรื่องราวจากคนในกลุ่ม Community นั้นๆ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นกันเอง และเข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นการดึงดูดผู้ชมให้รู้สึกอยากเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น โดยเทรนด์ลักษณะนี้สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
Ask TikTok - เป็นเทรนด์ที่ผู้คนจะเข้ามาหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ หรือสงสัยผ่านคลิป TikTok ที่มีการทำคอนเทนต์สอน ให้ความรู้ แชร์เทคนิคต่างๆ หรือบางครั้งอาจเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ
Destination: Growth - เป็นเทรนด์การสร้างเป้าหมายในการเติบโต มักเป็นคอนเทนต์ที่ให้คำแนะนำ และเล่าเรื่องราวถึงเส้นทางการเจริญเติบโตไปสู่เป้าหมาย อาจเป็นการแนะนำในเรื่องของแนวคิดในการดำเนินชีวิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มความกล้า ความมั่นใจในการทำสิ่งที่อยากทำ การออกกำลังกายลดน้ำหนัก เป็นต้น
Bestie Behavior - เป็นเทรนด์ที่นำเสนอคอนเทนต์การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเป็นกันเอง และรู้สึกมีส่วนร่วมกับเจ้าของคลิปเหมือนเป็นเพื่อนกัน สามารถลองทำตามได้ง่าย เช่น การกินข้าว การออกไปเที่ยว ซื้อของ การลองใช้สินค้าใหม่ๆ ฯลฯ
Actionable Entertainment เป็นเทรนด์ที่มีลักษณะของความบันเทิงที่ผู้ชมสามารถทดลองทำได้ด้วยตัวเอง อาจมีการใส่เสียง หรือคำบรรยายที่ทำให้คลิปนั้นๆ เข้าใจ และเข้าถึงได้ง่าย โดยเทรนด์ลักษณะนี้สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
Show, Don’t Sell - เป็นเทรนด์ที่มีการเล่าเรื่อง หรือแชร์ประสบการณ์แบบที่ผู้ชมเข้าถึงง่าย เช่น การใช้สินค้าที่จะทำให้ผู้ชมสนใจ และอยากลองใช้ตาม ซึ่งการทำคอนเทนต์ประเภทนี้สามารถต่อยอดการทำ การตลาดแบบพันธมิตร หรือการเป็นตัวแทนทำการตลาดให้กับแบรนด์ (Affiliate Marketing) เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ได้ผลกำไรสม่ำเสมอ
TikTok Investigates - เป็นเทรนด์ที่มีการหาข้อพิสูจน์ว่าเคล็ดลับ หรือสิ่งต่างๆ ที่ถูกแชร์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือ สามารถใช้ได้จริงหรือไม่ เช่น การแสดงเปรียบเทียบให้เห็นระหว่าง Expectation Vs Reality
Customer-to-Creator - เป็นเทรนด์ที่มีการเน้นไปทางการขายสินค้า หรือแบรนด์ โดยเปลี่ยนให้ลูกค้าที่มีการใช้สินค้าจริงๆ และชื่นชอบในตัวสินค้ามาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่สร้างคอนเทนท์ให้กับแบรนด์ เช่นเดียวกันกับคอนเทนต์ประเภทแรกที่สามารถนำไปต่อยอดการทำการตลาดแบบตัวแทนการขายให้กับแบรนด์สินค้า หรือบริษัทได้
Making Space fo Joy เป็นเทรนด์ที่มีลักษณะมุ่งเน้นไปทางด้านความบันเทิง เน้นสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม แน่นอนว่าผู้คนย่อมชื่นชอบเสพสิ่งที่สร้างความสุขกันอยู่แล้ว จึงเป็นเทรนด์ที่คนส่วนใหญ่มักชอบดูกัน โดยเทรนด์ลักษณะนี้สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
The Memeing of Life - เป็นเทรนด์ที่มีการนำมีมที่กำลังเป็นที่นิยมมาเล่น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเสียง หรือทำคลิปตลกตามมีมต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย
Well-being Your Way - เป็นเทรนด์ที่มีการแชร์ทริค หรือเคล็ดลับแบบสั้นๆ ง่ายๆ อาจเป็น Lifehacks วิธีการแต่งหน้า หรือการใช้ชีวิตประจำวัน
Little Luxe - เป็นเทรนด์ที่มีการแสดงให้เห็นความสุขโดยการให้รางวัลตัวเอง เป็นการสร้างกำลังใจให้ผู้ชมให้ผู้ชมรู้สึกอยากให้รางวัลตัวเองเช่นกัน อาจเป็นคลิป Vlog ออกไปเที่ยว กินอาหารอร่อยๆ ชมวิวสวยๆ หรือทำกิจกรรมสนุกๆ เพื่อตัวเอง
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าต้องทํายังไงให้คนดู TikTok เยอะๆ มี 9 วิธีที่สามารถดึงดูดคนดู ช่วยเพิ่มยอดวิว และเพิ่มผู้ติดตามได้ วิธีเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการวิเคราะห์มาจากอัลกอริทึมของ TikTok และกระแสความนิยมในปัจจุบัน จะมีวิธีอย่างไรบ้างไปดูกัน
ช่วงเวลาในการลงคอนเทนต์ใน TikTok แต่ละช่วงมีผลต่อยอดผู้ชมที่แตกต่างกัน หากต้องการให้มีคนดูเยอะๆ ควรเลือกลงในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ว่างๆ เช่น ช่วงพัก ช่วงระหว่างเดินทางไปทำงาน หรือหลังเลิกงาน
วันธรรมดา ช่วงเช้าประมาณ 6.00-8.00 น. ช่วงบ่าย 13.00-16.00 น. และช่วงหลังเลิกงาน 20.00-22.00 น.
วันหยุด ช่วงเช้าประมาณ 10.00-12.00 น. และช่วงเย็นหลัง 20.00 น.
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: วันจันทร์, วันอังคาร และวันศุกร์ ช่วงเวลา 10.00 น., 20.00 น. และ 23.00 น.
การตั้งชื่อคลิปที่น่าสนใจจะช่วยดึงดูให้คนมาดูคลิปได้มากขึ้น โดยควรจะตั้งชื่อคลิปที่เข้าใจง่าย นอกจากนี้ ชื่อคลิปจะเป็นส่วนหนึ่งของ Keyword ในการค้นหา หรือจัดหมวดหมู่ประเภทของคลิปด้วย ดังนั้น การเลือกตั้งชื่อคลิปจึงต้องมีการสำรวจแนวคอนเทนต์ที่ต้องการทำ สำรวจความนิยม และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร เพื่อให้การค้นหาชื่อคลิปตอบโจทย์ และช่วยให้ผู้ชมเข้าถึงคลิปนั้นๆ มากขึ้น
การเพิ่มลูกเล่น หรือการตัดต่อคลิปให้มีความน่าสนใจ เป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดให้คนดูคลิปจนจบ หรือเปิดดูคลิปซ้ำได้ อาจเป็นการใส่ลูกเล่น เช่น Transition, Sound Effect, Effect Animation ต่างๆ เป็นตัวช่วยให้คลิปมีสีสัน ไม่น่าเบื่อ ตลอดจนอาจเพิ่มการพากษ์เสียง หรือใส่ Subtitle ลงไป เพื่อให้คลิปดูมีความน่าสนใจมากขึ้น
ภาพปกคลิปเป็นสิ่งแรกที่คนดูเห็น และทำให้ตัดสินใจว่าจะกดเข้ามาดูคลิป หรือจะเลื่อนผ่านไป จึงควรเลือกใช้ภาพหน้าปกที่ดูสะดุดตามากที่สุด เพื่อช่วยดึงดูดคนให้มาดูคลิป
การใส่ Hashtag เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มยอดคนดู เนื่องจากทำให้คลิปสามารถถูกค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น โดยควรเลือกใส่ Hashtag ที่กระชับ ชัดเจน มีความเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ในคลิป และเป็น Hashtag ที่กำลังเป็นกระแส หรือเป็นที่นิยม เพราะยิ่งใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับคลิปจำนวนมากแค่ไหน ก็ยิ่งช่วยให้การค้นหา หรือการเข้าถึงคลิปมีมากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้หน้าปกกับชื่อคลิป คือ เนื้อหา หรือคอนเทนต์ของคลิป ควรเลือกทำคอนเทนต์ที่มีสนุก มีประโยชน์ และมีความสร้างสรรค์ ซึ่งต้องอาศัยความ Creative ในการคิดคอนเทนต์ที่คนน่าจะสนใจ เพื่อให้คนดูถูกใจคลิป และอยากกดติดตามเพื่อดูคอนเทนต์ต่อๆ ไป หรืออาจทำเป็น Challenge ให้คนมาร่วมสนุกกัน
การตามเทรนด์ หรือตามกระแสเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เป็นตัวช่วยสร้างโอกาสให้มีคนดูเพิ่มสูงขึ้น และที่สำคัญคือ ควรมีการผลิตคอนเทนต์ให้มีความสร้างสรรค์ แตกต่างจากคลิปอื่นๆ ที่กำลังเป็นไวรัล หรือเป็นกระแส เพราะหากเป็นคลิปซ้ำๆ เดิมๆ อาจทำให้คนเบื่อ และไม่อยากดูได้
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในปัจจุบันก็มีหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, YouTube, Instagram และ Line การนำคลิปใน TikTok ที่น่าสนใจไปแชร์ทางแพลตฟอร์มอื่นๆ ถือเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการโปรโมต เพิ่มยอดคนดู และอาจดึงดูดผู้ติดตามใหม่ๆ เข้ามาได้
การสร้างตัวตนเพื่อเพิ่มยอดคนดูจำเป็นต้องใช้เวลา ต้องอาศัยความอดทน และต้องโพสต์คอนเทนต์ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ขั้นต่ำการโพสต์คอนเทนต์ต่อวันอย่างน้อยอาจเป็นคลิปสั้นๆ วันละคลิป เพื่อเพิ่มยอดวิว และควรโพสต์ในวันเวลาที่ตัวเองกำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อรู้วิธีกันแล้วว่าต้องทํายังไงให้คนดู TikTok เยอะๆ ประโยชน์ของการที่คลิปมียอดวิว มีคนดูเยอะๆ เป็นการสร้างตัวตน ทำให้กลายเป็นคนมีชื่อเสียง และสามารถสร้างรายได้จากการมีสปอนเซอร์เข้ามาจ้างให้โฆษณา และรีวิวสินค้า หรือฝากลิงก์ขายสินค้า นอกจากนี้ สำหรับคนที่มีแบรนด์ หรือมีการขายสินค้าของตัวเองก็สามารถใช้ TikTok เป็นช่องทางการโปรโมทเพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย
ในทุกๆ ปี TikTok มีการปรับเปลี่ยนเทรนด์ หรือความนิยมในคอนเทนต์ ทำให้กระแสความสนใจของผู้คนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงต้องศึกษา ติดตามเทรนด์ และวิธีการสร้างคอนเทนต์ของ TikTok ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มยอดวิว และผู้ติดตาม เพราะการที่คลิปมีคนดูเยอะๆ นอกจากเป็นการสร้างตัวตน และโปรโมตแบรนด์แล้ว ยังสามารถต่อยอดเป็นช่องทางการหารายได้จากสปอนเซอร์
สำหรับใครที่กำลังคิดหาคอนเทนต์ดีๆ หรือสายร้องเพลง สามารถแวะมาร้องเพลงจอยๆ คลายเครียดกันได้ที่