The Street Share: ชวนไปรู้จักภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาการหายใจผิดปกติอย่างการนอนกรน เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังมีความเสี่ยง ถ้าปล่อยไว้อาจอันตรายถึงชีวิต ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร เช็กด่วนก่อนอันตรายถึงชีวิต!
ไม่มีกำหนดอายุ

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร เช็กด่วนก่อนอันตรายถึงชีวิต!

อาการหายใจผิดปกติอย่างการนอนกรน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากสร้างความรำคาญใจให้กับคู่นอนแล้ว ยังส่งผลเสียอีกมากมายต่อสุขภาพ และอาจก่อให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ The Street Share จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ว่าภาวะนี้คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร และมีแนวทางการรักษาอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

สารบัญ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร เช็กด่วนก่อนอันตรายถึงชีวิต!


ทำความรู้จักภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) คืออะไร

ทำความรู้จักภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) คืออะไร

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) คือ ภาวะที่คนเรามีอาการหยุดหายใจชั่วคราวขณะนอนหลับ ทําให้ร่างกาย และสมองขาดออกซิเจน ส่งผลให้นอนหลับได้ไม่สนิท และเกิดอาการผิดปกติตามมา โดยสาเหตุเกิดจากการที่ทางเดินหายใจถูกอุดกั้น ซึ่งหากเป็นการอุดกั้นที่ยังมีช่องว่างสำหรับอากาศหายใจ ก็ยังถือว่าไม่เป็นอันตรายมากนัก เพียงแต่อาจทำให้รู้สึกเจ็บคอ หรือสร้างความรำคาญจากเสียงรบกวนให้คนใกล้ตัวเท่านั้น แต่หากเกิดการอุดกั้นจนไม่มีช่องสำหรับอากาศหายใจเข้า-ออกเลย อาจก่อให้เกิดเป็นภาวะหยุดหายใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีกี่ประเภท

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีกี่ประเภท

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

  1. เกิดจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ (Obstructive Sleep Apnea - OSA)

  2. เกิดจากความผิดปกติของสมอง (Central Sleep Apnea - CSA) 

  3. เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมกันระหว่าง OSA และ CSA

โดยแต่ละประเภทมีสาเหตุ และอาการที่แตกต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

เกิดจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ (OSA)

OSA (ย่อมาจาก Obstructive Sleep Apnea) คือ การหยุดหายใจชั่วคราวเพราะมีสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ

ซึ่งอาการ OSA นี้ เกิดจากการที่บริเวณคอหรือช่องปากมีสิ่งกีดขวางอยู่ ทำให้การหายใจเกิดการติดขัด ซึ่งสิ่งกีดขวางเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ต่อมอะมิกดาลาโต, ลิ้นปี่โต และกล้ามเนื้อหดเกร็ง ทําให้ทางเดินหายใจอุดตันเวลานอนหลับ พบได้มากถึง 85% ของคนที่อยู่ในกลุ่มอาการดังกล่าวโดยส่วนมากแล้วสาเหตุหลัก ๆ ของ OSA มักเกิดจากภาวะน้ำหนักเกิน, การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และอายุที่มากขึ้นก็ได้เช่นกัน 

อาการของ  OSA

  • กรนเสียงดังขณะหลับ

  • หยุดหายใจ หรือสําลักขณะหลับ

  • นอนไม่หลับสนิท ตื่นบ่อยตอนกลางคืน

  • ปวดศีรษะ ง่วงนอน เพลียมากเวลาตื่นเช้า

  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย สมาธิลดลง

เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนกลาง (CSA)

CSA นั้นย่อมาจาก Central Sleep Apnea ซึ่งเป็นภาวะของอาการหยุดหายใจที่มีสาเหตุเกี่ยวกับการสั่งการที่ผิดปกติของสมองส่วนกลาง พบได้เฉลี่ย 0.4% ของคนที่อยู่ในกลุ่มอาการของโรคนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาการที่พบได้น้อยมากในคนทั่วไป โดย CSA เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนที่ควบคุมการหายใจ มักมีสาเหตุจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจวาย โรคสมอง ไตวายเรื้อรัง และการติดสารเสพติดบางชนิด

อาการของ CSA

  • หยุดหายใจขณะหลับบ่อยครั้งแล้วกลับมาหายใจใหม่

  • นอนไม่หลับสนิท มีคุณภาพการนอนแย่

  • อ่อนเพลีย ง่วงนอนมากในเวลากลางวัน

  • สมองทํางานผิดปกติ สมาธิสั้น วิตกกังวล

ประเภทผสม (Mixed Sleep Apnea)

Mixed Sleep Apnea หรือชื่อเต็มว่า Mixed Type Sleep Apnea หมายถึง การหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากสาเหตุทั้ง OSA และ CSA ร่วมกัน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุพร้อมๆ กัน เช่น มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ และสมองควบคุมการหายใจผิดปกติ พบได้ประมาณ 15% ของคนที่อยู่ในกลุ่มอาการดังกล่าว โดยสาเหตุอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน โรคหัวใจ โรคระบบประสาท และกล้ามเนื้อคออ่อนแรง เป็นต้น

อาการของ Mixed Sleep Apnea

  • มีอาการทั้งแบบ OSA และ CSA ร่วมกัน

  • กรน สำลัก หายใจไม่ออก

  • หยุดหายใจเป็นช่วงๆ แล้วกลับมาหายใจใหม่

  • นอนไม่หลับ ตื่นบ่อยตอนกลางคืน อ่อนเพลีย และง่วงนอนมากในเวลากลางวัน

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตผิดปกติ

สังเกตอาการภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีอะไรบ้าง

สังเกตอาการภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีอะไรบ้าง

หลังจากเราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ และสาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับทั้ง 3 ประเภท จะเห็นได้ว่ามีบางอาการที่เหมือนกัน และบางอาการที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่สังเกตได้ มีดังนี้

  • กรนเสียงดัง หายใจเฮือก เกิดอาการสำลักขณะหลับ

  • นอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน

  • ตื่นบ่อยตอนกลางคืนแล้วนอนต่อไม่ได้

  • ปวดศีรษะ ง่วงนอนมากในกลางวัน

  • อารมณ์แปรปรวน สมาธิแย่ ความจำเสื่อม

  • คนใกล้ตัวบอกว่าหยุดหายใจขณะหลับ

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อันตรายกว่าที่คิด

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อันตรายกว่าที่คิด

ภาวะหยุดหายใจเป็นเรื่องที่อันตรายกว่าที่คิด เพราะปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจมีความเชื่อมโยงถึงโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมการนอนหลับจากคำแนะนำของคนใกล้ตัว เพื่อประเมินความเสี่ยงให้กับตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งภาวะการหยุดหายใจขณะหลับถือเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น

  • อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะการหยุดหายใจทำให้สมอง และร่างกายขาดออกซิเจน

  • เสี่ยงโรคอ้วน เพราะการนอนหลับไม่สนิททำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง

  • เสี่ยงโรคหัวใจ เพราะหัวใจต้องเต้นผิดจังหวะ และได้รับออกซิเจนน้อย

  • ความดันโลหิตสูง เพราะร่างกายตอบสนองต่อภาวะขาดออกซิเจน

  • เสี่ยงโรคสมองเสื่อม เพราะสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ

  • เสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก เพราะความดันโลหิตสูง

  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะฮอร์โมนเพศผิดปกติจากการนอนไม่หลับ

แนวทางการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

แนวทางการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

การเลือกใช้แนวทางรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่ผู้ป่วยพบเจออยู่ ซึ่งการตรวจหาความรุนแรงของโรคต้องได้รับการตรวจ Sleep Test เช่น การตรวจลักษณะการหายใจ หรือการตรวจการทำงานของสมอง เพื่อเป็นแนวทางในการให้คำแนะนำจากแพทย์ถึงผู้ป่วยได้ โดยในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีแนวทางหลัก ๆ อยู่ 3 วิธี ดังนี้

รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นวิธีการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับที่สําคัญ เพราะสาเหตุหลักของโรคนี้มักเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ภาวะน้ําหนักเกิน การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา เป็นต้น โดยผู้ที่มีอาการในระยะเริ่มต้นสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ ดังนี้ 

  • ควบคุมน้ำหนัก โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ควบคุมปริมาณอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

  • งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์

  • นอนหลับในท่าที่เหมาะสม เช่น นอนตะแคงซ้าย หรือนอนหงาย ไม่ควรนอนตะแคงขวา

  • ใช้เตียงนอน และหมอนที่เหมาะสมกับสรีระ

  • ฝึกหายใจให้ลึกซึ้ง และสม่ำเสมอ

  • หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา หรือรับประทานอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน

  • นอนหลับให้เพียงพอ ประมาณ 7-9 ชั่วโมง

รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยการบำบัด

การบำบัดด้วยเครื่องมือต่างๆ นั้น เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะหยุดหายใจ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการในระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยสามารถทำได้ ดังนี้

  • ใช้เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) ให้อากาศเข้าปอดอย่างสม่ำเสมอ

  • ใช้อุปกรณ์กระตุ้นกล้ามเนื้อคอให้คลายตัวขณะหลับ

  • ฝึกหายใจให้ถูกต้องด้วยเครื่องมือช่วย

รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยการผ่าตัด

ในกรณีที่ลองใช้ทั้งสองวิธีแล้ว แต่ผลการรักษายังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขั้นตอนต่อไปอาจต้องศึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัด เช่น

  • ผ่าตัดแก้ไขการบิดเบี้ยวของโครงสร้างใบหน้า และจมูก

  • การเจาะท่อช่วยหายใจผ่านคอโดยตรง

  • การตัดส่วนเกินของเนื้อเยื่อในคอหอยออก 

  • การผ่าตัดดึงคอหอยให้แน่นขึ้น 

  • การตัดกระดูกส่วนเกินบริเวณจมูก และผ่าตัดยกเพดานอ่อนในปากให้สูงขึ้น

โดยการผ่าตัดสามารถช่วยให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น และลดอาการหยุดหายใจได้ แต่ผู้ป่วยต้องระวังภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด รวมถึงต้องคอยติดตามผลอย่างแพทย์อย่างต่อเนื่อง

สรุป

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายมากกว่าแค่เสียงกรน เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ที่ตามมาในภายหลังด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อสังเกตเห็นอาการที่ผิดปกติของร่างกายแล้วพบว่าตรงกับอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และรับการรักษาอย่างเหมาะสม หรืออาจลองทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน โดยทาง เดอะ สตรีท รัชดา มี Activity Center ที่พร้อมให้บริการเพื่อการผ่อนคลาย และฟื้นฟูร่างกาย เช่น การนวดสปา และคลินิกกายภาพบำบัดที่พร้อมช่วยดูแลสุขภาพของทุกคนหลังจากการทำงานที่เหนื่อยล้า เพิ่มความผ่อนคลาย เพื่อทำให้ทุกคนสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น

Related