The Street Share: ชีสกินกับอะไรก็อร่อย วันนี้จะพามาดูเมนูยอดฮิต cheese platter ว่าคืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง และเคล็ดลับการทานอย่างไรให้อร่อย ทำความรู้จัก cheese platter เมนูยอดฮิต สายชีสห้ามพลาด
ไม่มีกำหนดอายุ

ทำความรู้จัก cheese platter เมนูยอดฮิต สายชีสห้ามพลาด

ชีสเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่นำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย ถูกปากหลายต่อหลายคน ไม่เพียงแต่นำมาปรุงอาหารได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาจับคู่ทานกับเมนูอื่นๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากชีสนั้นมีหลายชนิด จึงสามารถนำมาทานกับอาหารอื่นได้หลากหลายอย่าง วันนี้เดอะ สตรีท รัชดาจะพามาดูเมนูยอดฮิต cheese platter ว่าคืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง รวมถึงเคล็ดลับการทานอย่างไรให้อร่อย เอาใจคนรักชีสอย่างเต็มอิ่ม

สารบัญ ทำความรู้จัก cheese platter เมนูยอดฮิต สายชีสห้ามพลาด


ทำความรู้จัก Cheese Platter คืออะไร

ทำความรู้จัก Cheese Platter คืออะไร

Cheese Platter เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Cheese Board คือการนำชีสหลายๆ ชนิดมาจัดลงบนถาด ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นถาดไม้ วางคู่กับท็อปปิงหรือเครื่องเคียงที่เป็นขนมหรือผลไม้ต่างๆ ทั้งแบบสดและแบบแห้ง ไปจนถึงแยม น้ำผึ้ง ของดอง แครกเกอร์ นอกจากนี้ยังมีถั่ว เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ เช่น แฮม ไส้กรอก เบคอน เป็นต้น โดยชีสแพลตเตอร์มีต้นกำเนิดมาจากยุโรป ที่มักจะทานชีสคู่กับเนื้อสัตว์แปรรูป โดยจะเรียกเมนูนี้ว่า Charcuterie เป็นเมนูที่นิยมรับประทานกันในงานปาร์ตี้ งานค็อกเทล ส่วนใหญ่จะกินคู่กันกับไวน์เพื่อเพิ่มรสชาติให้มากขึ้น มักใช้เป็นเมนูทานเล่นหรือเมนูปิดท้ายของงาน ในปัจจุบันมีการดัดแปลงเครื่องเคียงให้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกและสีสันให้กับรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น

 ชีสบอร์ดมีส่วนประกอบอะไรบ้าง

ชีสบอร์ดมีส่วนประกอบอะไรบ้าง

ภายในเมนูชีสบอร์ดมีชีสอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งบางประเภทอาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และนอกจากชีสที่เป็นพระเอกในชีสบอร์ดแล้ว ยังมีวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะมาเป็นนักแสดงสมทบเพื่อเพิ่มให้การทานชีสมีมิติมากขึ้น โดยเมนูชีสบอร์ดนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันได้เลย

ชีส (Cheese)

สำหรับวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยของ Cheese Platter นั่นก็คือชีส ภายในชีสบอร์ดจะมีชีสหลากหลายประเภท เพื่อให้มีรสสัมผัสที่หลากหลายแก่ผู้ทาน ดังนี้

    • Soft Cheese เป็นชีสที่มีเนื้อนุ่ม อ่อนนิ่ม หรือบางชนิดมีเนื้อเหลว นิยมนำมาทาบนแครกเกอร์ เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดทานชีส Soft Cheese ที่นิยมได้แก่ บรีชีส (Brie Cheese) และ มอสซาเรลลาชีส (Mozzarella Cheese) 

    • Semi-Soft Cheese เป็นชีสที่มีเนื้อนุ่ม แต่ไม่ใช่เนื้อเหลว มีกลิ่นปานกลางไปจนถึงกลิ่นแรง ที่นิยมรับประทานกัน ได้แก่ บลูชีส (Blue Cheese)

    • Semi- Hard Cheese เป็นชีสที่มีเนื้อค่อนข้างแข็ง เพราะมีความหนาแน่นของเนื้อชีส รับประทานง่าย เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ซึ่งเซมิ-ฮาร์ดชีสที่มักจะกินกัน ได้แก่ เชดดาร์ชีส (Cheddar Cheese)

    • Hard Cheese เป็นชีสที่มีเนื้อแข็ง รสชาติออกไปทางเข้มข้น มักนำมาขูดเพื่อไปทำอาหารหรือเป็นของทานเล่น เป็นชีสที่คนทั่วไปรู้จัก โดยชนิดที่นิยมนำมากินกัน ได้แก่ พามิจาโน เรจจาโน ชีส (Parmigiano Reggiano Cheese)

โคลด์คัต (Cold Cuts)

โคลด์คัตหรือเนื้อสัตว์แปรรูปที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว ถือเป็นเครื่องเคียงหรือท็อปปิงที่นำมาทานในเมนู Cheese Platter ซึ่งเป็นอะไรที่ลงตัว โคลด์คัตที่กินกับชีสบอร์ดมักจะได้แก่ แฮม ไส้กรอก เบคอน ซาลามี เป็นต้น โดยชิ้นเนื้อจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อจะได้ใส่ท็อปปิงอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกนั่นเอง

ผลไม้สดและผลไม้อบแห้ง (Fruit and Dried Fruit)

ผลไม้สดและผลไม้อบแห้งคือท็อปปิงที่ขาดไม่ได้ในเมนู Cheese Platter เพราะช่วยตัดความเลี่ยนของชีสและเพิ่มความหวานให้กับชีสบอร์ด หากเลือกผลไม้ที่มีสีสันสดใสก็จะช่วยเพิ่มความสวยงามน่ากินให้กับเมนูอีกด้วย โดยผลไม้สดที่นิยมนำมากินคู่กับชีส ได้แก่ องุ่น แอปเปิล เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี พีช แคนตาลูป เป็นต้น ส่วนผลไม้อบแห้งที่นำมาเป็นเครื่องเคียงมักได้แก่ ลูกเกด ลูกพรุน แครนด์เบอร์รีแห้ง แอปปริคอตแห้ง ช่วยเพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวานได้อย่างลงตัว

ของดอง (Pickles)

ของดองที่มีรสชาติเปรี้ยวนับว่านำมาช่วยตัดความเลี่ยนของชีสที่มีรสชาติเค็มได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่มักนิยมใช้เป็น มะกอกดอง แตงกวาดอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ไม่เลวหากเราจะลองหาว่าชีสกินกับอะไรดี

ถั่ว (Nuts)

ถั่ว (Nuts)

ถั่วเป็นอีกหนึ่งท็อปปิงที่น่าสนใจที่ควรมีในเมนู Cheese Platter เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติมันๆ พร้อมทั้งสัมผัสกรุบกรอบให้เคี้ยวเพลินยิ่งขึ้น โดยถั่วที่นิยมนำมาทานคู่กับชีส ได้แก่ ถั่วอัลมอนด์ ถั่วหิมพานต์ พีแคน พิสตาชิโอ เป็นต้น

แครกเกอร์ (Crackers)

หากถามว่าชีสกินกับอะไรดี แครกเกอร์กับชีสเป็นอีกหนึ่งความอร่อยคู่กันที่ลงตัวแบบง่ายๆ แค่นำชีสมาวางบนแครกเกอร์แล้วราดน้ำผึ้ง เพียงเท่านี้ก็ได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นแครกเกอร์รสจืดอย่างเดียวก็ได้ อาจจะเป็นรสเค็มหรือรสชาติอื่นๆ หรือจะเป็นขนมปังครัวซองต์ก็สามารถนำมาทานคู่กันได้ทั้งนั้น

แยม (Spread)

แยมรสผลไม้และน้ำผึ้ง ช่วยเพิ่มความหวานให้กับเมนู Cheese Platter ของคุณได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแยมสตรอว์เบอร์รี แยมสับปะรด แยมส้ม หรือแยมชนิดอื่นๆ

ทาน Cheese board อย่างไรให้อร่อย

ทาน Cheese board อย่างไรให้อร่อย

การทานชีสบอร์ดเป็นการลองทานที่อาจนำไปสู่การลิ้มรสชาติใหม่ๆ การจับคู่อาจจะไม่มีอะไรตายตัว สามารถผสมผสานวัตถุดิบ เครื่องเคียงหรือท็อปปิงต่างๆ เข้าด้วยกัน ตามแต่ที่คุณชอบได้เลย ซึ่งจะทำให้การกินชีสบอร์ดไม่น่าเบื่อและจำเจ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการรับประทานของว่างได้มากยิ่งขึ้น

 

แล้วชีสกินกับอะไรดีที่เป็นที่นิยม ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะกินชีสคู่กับแครกเกอร์ราดน้ำผึ้ง หรือกับผลไม้ต่างๆ และอาจจะเพิ่มความเปรี้ยวด้วยการกินคู่กับแตงกวาดอง ถ้าอยากเพิ่มของคาวไปด้วย ก็ให้กินคู่กับแฮมและเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ ลองทดลองหาท็อปปิงที่ถูกใจ เปลี่ยนรสชาติการทานของว่างให้ไม่ซ้ำใครไปกับ Cheese Platter

Cheese board กับ Charcuterie board แตกต่างกันอย่างไร

Cheese board กับ Charcuterie board แตกต่างกันอย่างไร

Cheese Board คือ เมนูของว่างที่พัฒนามาจาก Charcuterie board โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบยุโรป เช่น ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เป็นต้น ซึ่งมักจะรับประทานชีสกับเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก เบคอน และอื่นๆ โดยนิยมเสิร์ฟในงานจัดเลี้ยง งานปาร์ตี้ แก่แขกที่มาเยี่ยมเยือน เพราะเตรียมได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ซึ่งเป็นของทานเล่นที่ลงตัว โดย Cheese Board จะแตกต่างออกไปตรงที่มีท็อปปิงที่หลากหลายกว่า ทั้งผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง ถั่วต่างๆ แครกเกอร์ แยม น้ำผึ้ง และของดอง ซึ่งเพิ่มความแปลกใหม่กว่านั่นเอง

ขั้นตอนการจัด Cheese board

ขั้นตอนการจัด Cheese board

นอกจากประสบการณ์ในการลิ้มรสเพื่อรสชาติที่แปลกใหม่แล้ว Cheese Platter หรือชีสบอร์ดยังมีจุดเด่นอยู่ที่การจัดจานหรือถาดไม้ที่สวยงาม มาดูขั้นตอนการจัดบอร์ดให้สวยงาม และสะดวกต่อการรับประทานกันดีกว่า

  1. วางบอร์ดไว้ในที่ต้องการเสิร์ฟแล้วค่อยเริ่มจัด เพราะการยกไปมา อาจทำให้บอร์ดสวยๆ ที่เราเพิ่งจัดเสร็จเกิดเละเทะเสียหายได้

  2. เริ่มจากเช็ดบอร์ดให้แห้งสะอาด วางชีสไว้ในตำแหน่งที่ชอบ หรือจะวางชีสแบบดั้งเดิมก็ได้ คือแบบเรียงตามเข็มนาฬิกา โดยวางชีสที่นุ่มที่สุดไว้ตรง 12 นาฬิกา แล้วเรียงลำดับไปเรื่อยๆ ตามทิศเข็มนาฬิกา ได้แก่ soft cheese, semi-soft cheese, semi-hard cheese และ hard cheese

  3. ควรตัดชีสที่เป็นก้อนไว้บางส่วน เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้แขกในงานกล้ารับประทาน สำหรับ Brie Cheese ให้ตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมเหมือนเค้ก ส่วนชิ้นแบบอื่นๆ ให้ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำประมาณ 4-5 ชิ้น

  4. หากต้องการวางแก้วหรือถ้วยสำหรับใส่แยม น้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบให้กับชีสบอร์ดควรวางตั้งแต่ตอนนี้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะหาที่วางทีหลังไม่ได้

  5. วางท็อปปิงทีละอย่างโดยคำนึงถึงขนาดและสี โดยให้ได้สัดส่วนและสีสันที่เหมาะสม ควรวางของชิ้นใหญ่อย่างโคลด์คัตลงไปก่อน จากนั้นอาจตามด้วยผลไม้และถั่วต่างๆ และควรวางสลับสีกัน เพื่อให้บอร์ดไม่ดูหนักไปทางใดทางหนึ่งจนเกินไป

  6. วางโคลด์คัตแยกให้เป็นชิ้นๆ เรียงให้สวยงาม เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและน่ากิน อย่างโปรสชุตโต้ต้องลอกออกเป็นแผ่นๆ ไม่ควรให้ติดกัน ส่วนซาลามีอาจใช้วิธีพับครึ่งแล้วเรียงซ้อนกันเพื่อความสวยงามและความสะดวก

  7. ใส่แยมหรือน้ำผึ้งลงในถ้วยหรือแก้วที่ต้องการเสิร์ฟ โดยวางกระจายให้ทั่วบอร์ด หรือจะเสิร์ฟแบบแยกต่างหากก็ได้เช่นกัน

  8. วางแครกเกอร์และขนมปังให้ทั่วบอร์ด

  9. วางผลไม้สดให้ทั่วบอร์ด โดยสลับสีสันต่างๆ ให้น่ารับประทาน อย่าลืมสไลด์แอปเปิลและลูกแพร์เป็นชิ้นบางๆ ก่อนเสิร์ฟ

  10. วางผลไม้แห้งและของชิ้นเล็กๆ ไว้ตามช่องว่างต่างๆ ที่เหลือ

  11. ไม่ลืมที่จะวางมีดเล็กๆ ไว้สำหรับตัดชีสสัก 2-3 เล่ม สำหรับแขกหลายคน และอาจปักบอกชนิดของชีสแต่ละอย่างไว้ด้วย เพื่อให้การทานชีสบอร์ดมีสีสันมากยิ่งขึ้น

  12. ปิดท้ายด้วยการตกแต่งบอร์ดด้วยสมุนไพรสด เช่น ไทม์ โรสแมรี หรือดอกไม้อื่นๆ ที่กินได้ เพื่อสร้างความสวยงามและสีสันให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น

สรุป

cheese board คือ เมนูที่มีชีสเป็นหลักและมีท็อปปิงต่างๆ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งได้แก่ เนื้อสัตว์แปรรูป ผลไม้ ถั่ว แยม น้ำผึ้ง ของดอง ซึ่งเป็นเมนูที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยทาน มีความแปลกใหม่สำหรับชาวไทยอยู่พอสมควร โดยการทานที่นิยมคือทานชีสคู่กับแครกเกอร์ราดน้ำผึ้ง กับเนื้อสัตว์แปรรูปอย่างแฮม หรือผลไม้ต่างๆ และแตงกวาดอง หากคุณต้องการหาวัตถุดิบมาทำชีสบอร์ดที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อย ลองมาหาเลือกซื้อกันได้ที่ Foodland Supermarket ชั้น B ของ The Street Ratchada โดยที่นี่เรามีวัตถุดิบในการทำอาหารมากมายให้ได้เลือกสรรเพื่อนำมาทำชีสบอร์ดได้ตรงตามที่คุณต้องการ ที่สำคัญยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย เรียกได้ว่าพร้อมจัดสรรเมนูดีๆ ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนกันเลย

Related