The Street Share: รวมโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ สำหรับผลิตคอนเทนต์เพื่อนำเสนอสินค้า เรื่องราว หรือข้อมูลข่าวสาร มีทั้งโปรแกรมฟรี และแบบเสียเงิน สำหรับมือใหม่ และมืออาชีพ 15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ดีที่สุด สำหรับพีซี และสมาร์ตโฟน ปี 2023
ไม่มีกำหนดอายุ

15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ดีที่สุด สำหรับพีซี และสมาร์ตโฟน ปี 2023

เมื่อพูดถึงเทรนด์ปัจจุบัน ความนิยมในการเป็น Content Creator หรือ Video Creator มีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวิดีโอในคอม หรือบนมือถือ เพื่อลงใน YouTube, TikTok หรือ Reels โปรแกรมตัดต่อวิดีโอจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคของการผลิตคอนเทนต์เพื่อนำเสนอสินค้า เรื่องราว หรือข้อมูลข่าวสาร

15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ดีที่สุด สำหรับพีซี และสมาร์ตโฟน ปี 2023


ในบทความนี้เราจึงจะพาไปดู 15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ดีที่สุดในปี 2023 สำหรับมือใหม่ และมืออาชีพ เพื่อเป็นทางเลือกในการรังสรรค์คอนเทนต์อย่างมีคุณภาพกัน

 

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ สำคัญอย่างไร?

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอมีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัลในปัจจุบันนี้ เพราะสามารถสร้างประสบการณ์การมองเห็น และวิธีการเล่าเรื่องราวให้มีความน่าสนใจ และน่าดึงดูดขึ้นได้ ซึ่งให้ทั้งความบันเทิง ให้ข้อมูล และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม และยังสามารถเผยแพร่ไปได้ทั่วโลก ช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งปันเรื่องราว และสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ชม ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในโลกยุคสมัยใหม่

 

ซึ่งในปัจจุบันโปรแกรมตัดต่อวิดีโอมีทั้งในพีซี (PC) สมาร์ตโฟน และแล็บท็อป โดยแต่ละโปรแกรมนั้นมีฟังก์ชันที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับประเภทการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่มีตั้งแต่ผู้เริ่มต้น ไปจนถึงระดับมืออาชีพที่สามารถเลือกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอได้ตามความถนัดของตัวเองเลย

 

เช็กลิสต์! 15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี และเสียค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุด ประจำปี 2023

การตัดคลิปออนไลน์ สำหรับมืออาชีพการใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่เสียค่าใช้จ่าย ย่อมได้ฟังก์ชันที่ครบครันมากกว่า และเพื่อให้ผลงานมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นอีกด้วย แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มตัดต่อวิดีโอ อาจเริ่มได้จากโปรแกรมง่ายๆ และที่สำคัญต้องเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี

ไปดูโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรียอดนิยม และมีคุณภาพ พร้อมโปรแกรมเสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นมืออาชีพในการตัดต่อกันได้เลย!

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ CapCut

1. CapCut

CapCut เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือแก้ไขที่หลากหลาย รวมถึงการตัดแต่ง ปรับความเร็ว เพิ่มฟิลเตอร์ เปลี่ยนภาพ และเพลง เพิ่มข้อความ สติ๊กเกอร์ และเอฟเฟ็กต์ ผู้ใช้สามารถเพิ่มแทร็กเพลง เอฟเฟกต์เสียง และเสียงพากย์ลงในวิดีโอได้โดยตรงจากคลัง เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้น และนักตัดต่อที่มีประสบการณ์

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย ฟีเจอร์แน่น
  • เป็นที่นิยม
  • ใช้งานได้ทั้งในมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
  • มีเพลงให้เลือกหลากหลาย
  • คุณสมบัติขั้นสูงมีจำกัด เช่น การจัดระดับสีโดยละเอียด
  • ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เอฟเฟกต์ หรือเพลงจากคลัง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Android, iOS และ Windows
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายเดือนอยู่ที่ 219-349 บาท และราคารายปีอยู่ที่ 2,190 บาท
  • ลายน้ำ : มีลายน้ำท้ายคลิป แต่สามารถตัดออกได้

 

2. iMovie

iMovie เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซ (Interface) ที่ออกแบบเรียบง่าย มีธีม และเทมเพลต (Template) ที่หลากหลาย รองรับการแก้ไขหลายแทร็ก มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว สามารถปรับความสว่าง และสีได้ มีเอฟเฟ็กต์ Green screen ที่จะช่วยให้การตัดต่อวิดีโอง่ายขึ้นไปอีก ทั้งนี้ยังมีเพลงประกอบที่แต่งขึ้นโดยนักแต่งเพลงระดับโลกมากกว่า 130 รายการ และสามารถพากย์เสียงได้ด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โปรแกรมนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เริ่มต้น และนักตัดต่อวิดีโอทั่วไป

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • ใส่เอฟเฟ็กต์ หรือปรับแต่งที่ละเอียดซับซ้อนได้
  • มีเสียงประกอบจากนักแต่งเพลงระดับโลกมากกว่า 130 เพลง
  • ใช้ไม่ได้กับระบบ Android
  • เหมาะใช้งานกับจอที่ใหญ่ๆ เช่น iPad, MacBook เป็นต้น
  • ไม่เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการตัดต่อที่ละเอียดและซับซ้อน

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : iOS และ Mac
  • ราคา : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ InShot

3. InShot

InShot เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอม และมือถือยอดนิยม มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์มากมาย มีเครื่องมือปรับความเร็ววิดีโอ เพิ่มเพลง ใส่ข้อความ และสติกเกอร์ สามารถเพิ่มแทร็กเพลงจากอุปกรณ์ของเราได้ หรือเลือกจากคลังของแอปก็ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นตัดต่อวิดีโอ และในระดับมืออาชีพเลย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • ใช้งานได้ในหลายระบบ
  • มีลูกเล่นที่หลากหลาย
  • มีคุณสมบัติขั้นสูงที่จำกัด เช่น การปรับแต่งที่แม่นยำขึ้น
  • ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เอฟเฟกต์ หรือเพลงจากคลัง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Android, iOS และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายเดือนอยู่ที่ 149 บาท ราคารายปีอยู่ที่ 499 บาท และราคาตลอดชีพอยู่ที่ 1,490 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

4. VLLO

VLLO เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ PC และบนมือถือที่ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์มากมาย สามารถซ้อนคลิปวิดีโอได้หลายรายการ เพิ่มรูปภาพ ข้อความ สติ๊กเกอร์ และเอฟเฟกต์ได้ มีคลังเพลง เอฟเฟกต์เสียง และฟิลเตอร์ (Filter) ที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์มากมาย รองรับการแก้ไข Green screen เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสร้างวิดีโอที่ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • ใช้งานได้ในทุกระบบ
  • มีเอฟเฟ็กต์ให้เลือกมากมาย
  • มี Motion Sticker น่ารักๆ ให้เลือกหลากหลาย
  • มีฟีเจอร์มากเกินไป อาจทำให้โปรแกรมทำงานช้าได้
  • มีคุณสมบัติขั้นสูงที่จำกัด
  • ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เอฟเฟกต์ เพลงจากคลัง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Android, iOS, Windows และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายสัปดาห์อยู่ที่ 69 บาท ราคารายเดือนอยู่ที่ 129 บาท ราคารายปีอยู่ที่ 389 บาท และราคาตลอดชีพอยู่ที่ 1,170 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ KineMaster

5. KineMaster

KineMaster เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ครอบคลุมสำหรับทุกอุปกรณ์ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติขั้นสูง รองรับหลายเลเยอร์ (Layer) ผู้ใช้สามารถปรับความเร็ว ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพ และเสียงต่างๆ สามารถบันทึกเสียงได้ มีฟีเจอร์ Chroma Key เพิ่มความสะดวก และทำให้วิดีโอดูสมจริงมากขึ้น มีเพลง เอฟเฟกต์เสียง การเปลี่ยนภาพ สติ๊กเกอร์ และแบบอักษรที่ไม่มีลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย ทั้งนี้ จึงทำให้โปรแกรมนี้เป็นที่นิยมในหมู่ Vloggers นักเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอ และนักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพมากมายเลยทีเดียว

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย มีปุ่มควบคุมใหญ่ มองเห็นง่าย
  • ใช้งานได้ทุกระบบ
  • สามารถแก้ไขรายละเอียดขั้นสูงได้
  • มีคลังเอฟเฟกต์ และเสียงประกอบมากมาย
  • มีคุณสมบัติขั้นสูงบางอย่างจำกัด
  • ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เอฟเฟกต์ เพลงจากคลัง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Android, iOS, Windows และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายเดือนอยู่ที่ 150 บาท และราคารายปีอยู่ที่ 1,200 บาท
  • ลายน้ำ : มีลายน้ำ แต่สามารถลบออกได้ แต่ถ้าเสียค่าใช้จ่ายงานจะไม่มีลายน้ำ

 

6. DaVinci Resolve

DaVinci Resolve เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอม และสำหรับ iPad สามารถปรับระดับสีให้อยู่ในระดับมืออาชีพได้ มีเครื่องมือแก้ไขขั้นสูง มีเอฟเฟกต์ภาพ และกราฟิกเคลื่อนไหวที่หลากหลาย หากมีผู้ใช้หลายคนก็สามารถทำงานในโครงการเดียวกัน และทำพร้อมกันได้ เหมาะสำหรับการผลิตภาพยนตร์ และโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่มีทีมงานตัดต่อหลายคน

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • มีการจัดระดับสีที่ละเอียด
  • สามารถปรับแต่งขั้นสูงได้
  • มีเครื่องมือแก้ไขที่ครอบคลุม
  • สามารถทำงานพร้อมกันได้หลายคน
  • แบบเสียค่าใช้จ่ายมีราคาสูง
  • อาจต้องใช้คอมในระดับสเปคที่สูงหากต้องการตัดต่อวิดีโอในคอม

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : iOS, Windows, Mac และ Linux
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย และราคาแบบตลอดชีพอยู่ที่ 9,800 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

7. OpenShot Video Editor

7. OpenShot Video Editor

OpenShot Video Editor เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์มากมาย ให้การแสดงตัวอย่างแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้สามารถดูการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีโดยไม่ต้องเรนเดอร์ (Render) มีเอฟเฟกต์วิดีโอ และเสียงที่หลากหลาย สามารถปรับระดับเสียง ผสมแทร็กเสียงต่างๆ และใช้เอฟเฟกต์เสียงได้ โดยเหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้น และนักตัดต่อวิดีโอที่มีประสบการณ์

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย สามารถลากคลิปวางได้เลย
  • รองรับเอฟเฟ็กต์หลากหลาย มีลูกเล่นมากมาย
  • เพิ่มแทร็กได้ไม่จำกัด
  • การปรับแต่งบางอย่างยังมีข้อจำกัด ไม่ค่อยมีความยืดหยุ่น
  • อาจไม่ค่อยเสถียรสำหรับไฟล์วิดีโอที่มีขนาดใหญ่

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows, Mac และ Linux
  • ราคา : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

8. Shotcut

Shotcut เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่มีคุณสมบัติ และเครื่องมือที่หลากหลาย มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคุณสมบัติการแก้ไขขั้นสูง ดูตัวอย่างแบบเรียลไทม์ได้ ผู้ใช้สามารถเพิ่มการเปลี่ยนภาพ และทำงานกับหลายเลเยอร์ได้ สามารถสร้างแอนิเมชั่น และเอฟเฟกต์โดยใช้คีย์เฟรม (Keyframe) ได้ เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • มีฟีเจอร์จำนวนมาก
  • สามารถปรับแต่งขั้นสูงได้
  • ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 
  • การปรับแต่งบางอย่างยังมีข้อจำกัด
  • อาจไม่ค่อยเสถียรสำหรับไฟล์วิดีโอที่มีขนาดใหญ่

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows, Mac และ Linux
  • ราคา : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

9. VSDC Free Video Editor

9. VSDC Free Video Editor

VSDC Free Video Editor เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ PC มีชุดเครื่องมือมากมาย ทำงานได้หลายเลเยอร์ ให้เอฟเฟ็กต์ภาพ ฟิลเตอร์ และการเปลี่ยนภาพที่หลากหลาย สามารถปรับระดับเสียง เพิ่มเอฟเฟ็กต์เสียง และลบเสียงรบกวนรอบข้างได้ รองรับการตัดต่อวิดีโอ 360 องศา มีเครื่องมือติดตามการเคลื่อนไหว และตัวเลือกการแก้ไขขั้นสูง เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้น และผู้ใช้งานมืออาชีพเลย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้ทรัพยากรน้อย ทำงานได้รวดเร็ว
  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • การ Export ไม่ค่อยเร็วนัก
  • อาจดูไม่ค่อยทันสมัย
  • ใช้งานได้แค่กับระบบ Windows

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคาแบบตลอดชีพอยู่ที่ 670 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

10. Lightworks Free Edition

Lightworks Free Edition เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอมคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ มีเอฟเฟกต์แบบเรียลไทม์ การแก้ไขแบบหลายแทร็ก ภาพเคลื่อนไหวคีย์เฟรม และคุณสมบัติการตัดแต่งขั้นสูง มีคลังเอฟเฟกต์ การเปลี่ยนภาพ และค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้ามากมาย เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้สร้างคอนเทนต์

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • มีเครื่องมือให้เลือกใช้มากมาย
  • มีรูปแบบที่สวยงาม และทันสมัย
  • แบบเวอร์ชั่นฟรี มีความละเอียดวิดีโอสูงสุดเพียง 720p เท่านั้น

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows, Mac และ Linux
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยมีราคารายเดือนอยู่ที่ 330-800 บาท ราคารายปีภายใน 2 ปีอยู่ที่ 6,400 บาท และราคาแบบตลอดชีพอยู่ที่ 16,000 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

11. Hitfilm Free Edition

11. Hitfilm Free Edition  

HitFilm Free Edition เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอมพิวเตอร์ มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย สามารถแก้ไข สร้างเอฟเฟ็กต์ และประกอบเลเยอร์ต่างๆ ได้ มีเครื่องมือที่หลากหลาย สามารถใช้ Chroma key ได้ มีเครื่องมือติดตามการเคลื่อนไหวขั้นสูง และสร้างภาพเคลื่อนไหว 3 มิติได้ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่หัดตัดต่อวิดีโอ และมืออาชีพเลย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • มีเครื่องมือที่ครบครัน
  • มีฟีเจอร์ระดับสูงในเวอร์ชั่นฟรี
  • ใช้สเปคคอมในระดับที่ค่อนข้างสูง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน :Windows และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายเดือนอยู่ที่ 270-440 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

12. Wondershare Filmora

Wondershare Filmora เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่มีฟีเจอร์มากมาย อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย มีเครื่องมือแก้ไขที่จำเป็นครบถ้วน สามารถเพิ่มเพลง เปลี่ยนภาพ และข้อความได้ มีเอฟเฟกต์ ฟิลเตอร์ และโอเวอร์เลย์ (Overlay) ที่หลากหลาย มีคุณสมบัติขั้นสูง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และผู้ใช้งานทั่วไป

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานง่าย
  • มีลูกเล่นมากมาย
  • ใช้สเปคคอมไม่แรงมาก
  • เวอร์ชั่นฟรี มีลายน้ำ
  • ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เพลงจากคลัง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยราคารายปีอยู่ที่ 1,455 บาท
  • ลายน้ำ : มีลายน้ำ หากต้องการตัดออกต้องใช้ในเวอร์ชั่นเสียค่าใช้จ่าย

 

13. Adobe Premiere Pro

13. Adobe Premiere Pro

Adobe Premiere Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอมระดับมืออาชีพ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตภาพยนตร์ โทรทัศน์ และวิดีโอออนไลน์ มีเครื่องมือแก้ไขที่ครอบคลุม รองรับทั้งรูปแบบวิดีโอ และเสียงที่หลากหลาย กำจัดเสียงรบกวนได้ และใช้เอฟเฟกต์เสียงได้ อีกทั้งยังรองรับการทำงานร่วมกับ Adobe After Effects อีกด้วย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • เป็นโปรแกรมยอดนิยม
  • มีเครื่องมือใช้งานครบถ้วน
  • มีเอฟเฟ็กต์ และฟีเจอร์ขั้นสูง
  • อาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ใช้ทรัพยากรในเครื่องสูง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows และ Mac
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยมีราคารายเดือนอยู่ที่ 1,145 บาท และราคารายปีอยู่ที่ 8,800 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

14. Final Cut Pro

Final Cut Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอในคอมระดับมืออาชีพ มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักตัดต่อมืออาชีพ ซึ่งใช้สำหรับรายการทีวี และภาพยนตร์ มีเครื่องมือแก้ไขขั้นสูงมากมาย รองรับการตัดต่อวิดีโอ 360 องศา และสามารถแก้ไขภาพจากกล้องหลายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • เป็นโปรแกรมยอดนิยม
  • มีเครื่องมือใช้งานครบถ้วน
  • มีเอฟเฟ็กต์และฟีเจอร์ขั้นสูง
  • อาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ใช้ทรัพยากรเครื่องสูง
  • ใช้ได้เฉพาะ Mac เท่านั้น

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Mac
  • ราคา : มีแค่ในรูปแบบเสียค่าใช้จ่าย และเป็นราคาตลอดชีพอยู่ที่ 10,900 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

 

 15. Vegas Pro

15. Vegas Pro

Vegas Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ PC ระดับมืออาชีพ อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย คุณสมบัติหลากหลาย มีชื่อเสียงในด้านการแก้ไขเสียง มีเครื่องมือที่หลากหลาย รองรับการแก้ไขด้วยกล้องหลายตัว รองรับการแก้ไขแบบ 3D เหมาะสำหรับมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพเลย

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้

ข้อจำกัดในการใช้งาน

  • ใช้งานและปรับแต่งได้ง่าย
  • มีฟีเจอร์ครบครัน ลูกเล่นเยอะ
  • มีความรวดเร็ว
  • ใช้ได้เฉพาะ Windows เท่านั้น
  • แบบเสียเงินมีราคาสูง

 

  • ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows
  • ราคา : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 473 บาทต่อเดือน และแบบตลอดชีพราคา 12,900 บาท
  • ลายน้ำ : ไม่มี

สรุป

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อตัดต่อวิดีโอ ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งคลิปได้อ??

Related