รวมมหากาพย์ 15 ซีรีส์ฝรั่งยอดฮิต ที่คอหนังสายฝอไม่ควรพลาด

ยามเหนื่อยล้าให้ซีรีส์เยียวยาหัวใจ เพราะซีรีส์ไม่ได้แค่สร้างความเพลิดเพลิน และผ่อนคลายความเครียดเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้เราสามารถเรียนรู้วัฒนธรรม และแนวคิดที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน การสร้างมุมมองใหม่ๆ ด้วยการดูซีรีส์จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลย บทความนี้จึงได้รวบรวมซีรีส์ฝรั่งเพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะดูเรื่องไหนดี รับรองว่าถูกใจสายหนังแน่นอน!

สารบัญ รวมมหากาพย์ 15 ซีรีส์ฝรั่งยอดฮิต ที่คอหนังสายฝอไม่ควรพลาด

• ชวนดู 15 ซีรีส์ฝรั่ง ที่สายหนังไม่ควรพลาด
  • 1. Game of Thrones — มหาศึกชิงบัลลังก์
  • 2. The Last of Us — ปัจฉิมอเมริกา
  • 3. Succession — สงครามสืบทอด
  • 4. Stranger Things — สเตรนเจอร์ ธิงส์
  • 5. Euphoria — ยูโฟเรีย
  • 6. Money Heist — ทรชนคนปล้นโลก
  • 7. Lost — อสูรกายดงดิบ
  • 8. Sex Education — เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก)
  • 9. The Queen’s Gambit — เกมกระดานแห่งชีวิต
  • 10. Bridgerton — วังวนรัก เกมไฮโซ
  • 11. Peaky Blinders — พีกี้ ไบลน์เดอร์ส
  • 12. Cobra Kai — คอบร้า ไค
  • 13. Locke & Key — ปริศนาลับตระกูลล็อค
  • 14. Sweet Tooth — สวีททูธ
  • 15. Shadow and Bone — ตำนานกรีชา
• ซีรีส์ฝรั่งกับการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต
  • 1. ได้ทักษะการเรียนรู้ทางภาษา
  • 2. ฝึกการเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ
  • 3. ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน สนุกสนาน
  • 4. ซีรีส์ฝรั่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
  • 5. ซีรีส์ฝรั่งให้มุมมองการมองโลกที่แตกต่าง
• สรุป

ชวนดู 15 ซีรีส์ฝรั่ง ที่สายหนังไม่ควรพลาด

การดูซีรีส์ให้ประโยชน์มากมาย และซีรีส์แต่ละเรื่องมีเอกลักษณ์ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม ทั้งการเล่าเรื่องที่มีแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ เรื่องการเมือง หรือประเด็นสังคมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงภายในใจขณะดู หากพร้อมแล้ว! ไปดู 15 ซีรีส์ยอดฮิตที่คัดมาให้กันเลย

1. Game of Thrones — มหาศึกชิงบัลลังก์

เริ่มต้นกันด้วยซีรีส์ฝรั่งดรามาแฟนตาซียอดนิยมเหนือกาลเวลา Game of Thrones หรือที่ใครเรียกกันติดปากว่า GOT โดยเป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากหนังสือชุดขายดีเรื่อง A Song of Ice and Fire ของ George RR Martin โดย GOT เป็นซีรีส์ที่มีการเล่าเรื่องได้อย่างเข้มข้น เฉียบคม และเจ้าแผนการในประเด็นเรื่องการเมือง โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการแย่งชิงบัลลังค์เหล็กของทั้ง 7 อาณาจักรแห่งเวสเทรอส ผ่านเครือข่ายทางการเมืองระหว่างตระกูลขุนนางทั้ง 9 ตระกูล นอกจากนี้ ยังเล่าเกี่ยวกับภัยคุกคามจากกองทัพ White Walker ในดินแดนทางตอนเหนือที่พร้อมปะทุขึ้นตลอดเวลา

โดย GOT ได้รับกระแสตอบรับมาตั้งแต่ตอนเริ่มจนถึงตอนจบ และแม้จะทำการฉายจบไปนานแล้วแต่ก็ยังคงถูกพูดถึงอยู่เสมอมา ด้วยตอนจบที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลาย มีทั้งคนที่ชื่นชอบ และคนที่ผิดหวัง แต่ถึงอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คน 

2. The Last of Us — ปัจฉิมอเมริกา

ปัจจุบันซีรีส์ฝรั่งแนววันสิ้นโลกได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแนวที่สามารถเล่าประเด็นสังคมได้อย่างน่าสนใจ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องจะได้ผลตอบรับที่ดีอย่างเรื่อง The Last of Us ที่สร้างจากวิดีโอเกมปี 2013 โดยมีเรื่องราวที่เกิดขึ้น 20 ปีหลังการแพร่ระบาดของเชื้อรา ที่มีร่างของมนุษย์เป็นโอสต์ แม้ร่างกายจะกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ซอมบี้’ แต่ยังคงคำอธิบายในเรื่องวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจ เพราะ The Last of Us ไม่ได้แค่เล่าเรื่องในประเด็นที่ห่างไกลจากตัวเรา แต่เป็นเชื้อราที่มีอยู่จริง และอาจมีการพัฒนาสายพันธุ์ได้ในอนาคต ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี 

นอกจากเนื้อเรื่องที่ชวนน่าติดตามแล้ว The Last of Us ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในเรื่องการแสดง และการออกแบบการผลิต ทั้งในเรื่องเสื้อผ้า หรือฉากที่ดูน่าสมจริง เรียกได้ว่าเป็นการดัดแปลงวิดีโอเกมที่ดีที่สุดเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในเรื่องประเด็นสังคมก็เล่าได้อย่างคมคาย เพราะการล่มสลายของสังคม จึงทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ขึ้นมาในสังคม และเกิดการกำหนดกฏเกณฑ์ เพื่อที่สังคมของมนุษย์จะสามารถดำรงอยู่ได้ และไม่ล่มสลายไปตามซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้าง

3. Succession — สงครามสืบทอด

มาต่อกันที่ซีรีส์ยอดฮิตในขณะนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ Succession ซีรีส์ฝรั่งแนวตลกร้าย ที่มีการเสียดสีประเด็นครอบครัว และสังคม ซึ่งเล่าเรื่องโดยมีตระกูล Roy อภิมหาเศรษฐีเจ้าของกลุ่มบริษัทสื่อ และความบันเทิงระดับโลก Waystar RoyCo ซีรีส์ได้นำเสนอเรื่องราวที่มีความสมจริงในหลายๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นคนรวยพฤติกรรมแย่ ที่นำเสนอ และจิกกัดได้อย่างเจ็บแสบ หรือประเด็นเรื่องเงินที่ทำให้เห็นว่า เราต่างยอมแตกหักกัน แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกันก็ตาม ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าแต่ละตัวละครต่างมีการเสแสร้ง และทรยศกันอยู่ตลอดเวลา

Succession ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เนื่องจากความมีมิติของตัวละครที่นักแสดงต่างก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ หากสนใจซีรีส์แนวหักเหลี่ยมกันจนน่าติดตาม Succession เป็นซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาด และไปดูกันว่า หากเลือดนั้นข้นกว่าน้ำ แล้วเลือดจะสู้เงินได้หรือไม่?

4. Stranger Things — สเตรนเจอร์ ธิงส์

กลับมาสู่โลกแห่งแฟนตาซีกันบ้าง มาดูซีรีส์ฝรั่งอย่างเรื่อง Stranger Things ที่เป็นซีรีส์ยอดนิยมทั้งในกลุ่มวัยรุ่น และวัย (ไม่) รุ่นเลย โดยมีการเรื่องราวผ่านตัวละครเด็กกลุ่มหนึ่ง ที่ได้พบเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดในเมืองฮอว์กินส์ รัฐอินเดียนา โดยเมืองนี้มีความแปลกประหลาดอยู่ตรงที่เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล ทำให้มีการทดลองลึกลับ เพื่อสร้างอาวุธอย่างมนุษย์ที่สามารถหยั่งรู้ได้เกินมนุษย์ แต่การทดลองกลับไม่เป็นไปตามคาด แต่กลับปลดปล่อยอะไรที่มนุษย์นั้นยากจะทำความเข้าใจออกมาสร้างความโกลาหลให้กับโลกมนุษย์

ด้วยพื้นหลังเป็นยุค 80 จึงทำให้เสื้อผ้า และฉากต่างๆ ชวนให้นึกถึงอดีตในวัยเด็ก ประกอบกับเรื่องราวอันลึกลับ และซับซ้อนที่มีเนื้อเรื่องชวนติดตาม Stranger Things นั้นไม่ได้นำเสนอเรื่องราวเหนือธรรมชาติเพียงเท่านั้น แต่ยังแทรกความเป็น Coming of Age ที่ทำให้เราไปสำรวจการเจริญเติบโตของแต่ละตัวละคร และมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่แทรกเอาไว้ได้อย่างกลมกล่อม อีกทั้งยังประกอบไปด้วยวัฒนธรรมป็อปในยุค 1980 ที่มีเสน่ห์ของเพลงในยุคนั้นอีกด้วย

5. Euphoria — ยูโฟเรีย

“เพราะเป็นวัยรุ่น จึงเจ็บปวด” ข้ามมาดูกันที่ซีรีส์ฝรั่งอย่าง Euphoria ที่ได้รับกระแสตอบรับ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม เพราะเป็นซีรีส์ที่สามารถเล่าประเด็นสังคมของวัยรุ่นได้อย่างน่าสนใจ และแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ เพราะมีการเล่าเรื่องได้อย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นปัญหายาเสพติด ความรัก ความรุนแรง และการทรยศ 

Euphoria ได้สร้างปรากฎการณ์ และเป็นซีรีส์ที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับต้นๆ จากการนำเสนอประเด็นความหลากหลาย และเจาะลึกปัญหาวัยรุ่นที่เรียกความรู้สึกร่วมให้แก่ผู้ชมได้อย่างไม่เกรงใจ จนทำให้ได้รับการพูดถึงในโซเชียลมีเดียมาอย่างต่อเนื่อง 

6. Money Heist — ทรชนคนปล้นโลก

ข้ามน้ำข้ามทะเลกันมาที่ซีรีส์ฝรั่งสัญชาติสเปน Money Heist ว่าด้วยเรื่องกลุ่มทรชนที่วางแผนบุกปล้นโรงกษาปณ์ แต่ทั้งนี้ ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์ปล้นธรรมดา เพราะการเล่มเกมระหว่างตำรวจกับโจร ที่ต่างคนต่างไม่มีใครลงให้ใครเลย ซึ่งการปล้นไม่ได้มีเป้าหมายอยู่ที่เงินในกองคลัง แต่เป็นการพิมพ์เงินออกมาได้ตามที่ต้องการ 

ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สนุก และลุ้นระทึกคือการเล่นกับเวลา และจิตใจคน เพราะแผนการแม้จะวางแผนมาอย่างดีแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะสำเร็จตามที่แผนที่วางไว้ โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมมากจนได้รับการรีเมคในเวอร์ชันเกาหลีเลยทีเดียว

7. Lost — อสูรกายดงดิบ

Lost ถือว่าเป็นซีรีส์แนวดราม่า ผจญภัยวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการวิจารณ์ว่าเป็นซีรีส์ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล เพราะนำมาดูใหม่กี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย แม้จะมีการฉายครั้งแรกในปี 2004 ก็ตาม โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกไปยังเกาะลึกลับแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้

ความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่มีมิติ และแฝงไปด้วยเรื่องราวแห่งปาฎิหาริย์ ปรัชญา ศาสนา และวิทยาศาสตร์ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับเล่าได้อย่างเข้ากัน และน่าติดตามอีกด้วย นอกจากความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อย่างกรายเข้ามาในเกาะปริศนาแห่งนี้ ยังมีการนำเสนอชีวิตของตัวละครแต่ละคนที่ต่างคนต่างมีเรื่องราวของตัวเอง อดีตที่อยากจะทิ้งไว้ข้างหลัง หรือคนที่อยากจะปกป้อง ทำให้ระหว่างการชมซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความสวยงามของตัวละคร และฉากหลังที่ให้ความรู้สึกสมจริงอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

8. Sex Education — เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก)

หากพูดถึงซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องเพศได้อย่างโจ่งแจ้ง และมีชั้นเชิง คงลืมจะลืมซีรีส์ฝรั่งเรื่อง Sex Education ไม่ได้เลย เพราะเป็นซีรีส์ที่ฮิตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันเปิดตัว โดยนำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่น วุ่นรัก และความสับสนในเรื่องเพศที่พูดกับใครไม่ได้ อีกทั้งยังเสนอประเด็นที่ว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราควรที่จะเปิดใจคุยกันให้เข้าใจ และเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาไปด้วยกัน

แก่นสารของซีรีส์เรื่องนี้คือ เรื่องเพศที่เป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นเรื่องปกติที่เราสามารถนำมาพูดคุยกันได้ การขบถต่อขนบธรรมเนียมของสังคมที่เป็นตัวกำหนดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาพูดอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งนี้ ซีรีส์เรื่องนี้ยังนำเสนอมิตรภาพ และความหลากหลายทางเพศที่เล่าได้อย่างเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่สามารถสร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้คนที่ไม่มีความมั่นใจลุกขึ้นมามีความมั่นใจมากขึ้น

9. The Queen’s Gambit — เกมกระดานแห่งชีวิต

ในยุคแห่งชายเป็นใหญ่ ความสามารถของผู้หญิงไม่ได้รับการยอมรับมากเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไร The Queen’s Gambit ก็นำเสนอความอัจริยะของเด็กสาวผู้เด็ดเดี่ยว ที่สามารถสร้างความตกตะลึงให้กับใครหลายๆ คนได้ แม้ในช่วงยุค 1960 ที่สังคมยังไม่ยอมรับให้ผู้หญิงมีบทบาทในสังคมมากนัก ไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬาอย่างหมากรุก การเข้ามาของเด็กสาวกำพร้าที่ไม่มีแม้แต่เงินในการเข้าแข่งขันจึงทำให้ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย

โดยความพิเศษของเรื่องนี้คือการนำเสนอความอัจฉริยะของตัวเอก และสอดแทรกไปด้วยประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องเพศ ชนชั้น หรือการเมือง ที่ทำให้ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และสร้างแรงบันดาลใจมากมายให้กับคนที่ต้องการทำตามฝัน ทั้งนี้ ภายในเรื่องยังนำเสนอพัฒนาของตัวละคร ตั้งแต่การเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา ไปจนถึงการเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องแบกรับปัญหาหลายๆ อย่างโดยไม่มีใครเคียงข้างอีกด้วย

10. Bridgerton — วังวนรัก เกมไฮโซ

มาดูซีรีส์ฝรั่งแนวโรแมนติกกันบ้างกับเรื่อง Bridgerton ซึ่งมีพื้นหลังอยู่ในยุครีเจนซีของประเทศอังกฤษ ที่ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมชนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก มิตรภาพ การซุบซิบนินทา หรือการชิงไหวพริบได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังนำเสนอในเรื่องเพศ และเรื่องราวของการกดทับผู้หญิงที่ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจ และคุณค่าที่ผู้หญิงจะได้รับก็ต่อเมื่อได้แต่งงานเท่านั้น 

อย่างที่รู้กันว่าในสมัยก่อนนั้นมีลักษณะสังคมที่ชายเป็นใหญ่ และผู้หญิงเกิดมามีหน้าที่เป็นได้แค่เพียงภรรยา หรือแม่ของลูกเท่านั้น ทำให้การเล่าเรื่องในประเด็นเรื่องเพศเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือคอสตูม หรือเสื้อผ้าที่มีเสน่ห์ และน่าตื่นตาตื่นใจเหมาะสมกับการนำเสนอเรื่องราวที่มีพื้นหลังอยู่ในยุครีเจนซีเลยทีเดียว 

11. Peaky Blinders — พีกี้ ไบลน์เดอร์ส

หากกำลังตามหาซีรีส์ฝรั่งแนวดรามาอาชญากรรมที่น่าสนใจ และมีความครบรส Peaky Blinders ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีการเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่มีคาเรคเตอร์ที่มีเสน่ห์ในฉบับของ British Mafia ในช่วงปี 1900 และมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และน่าติดตาม ประกอบกับการห่ำหั่นกันระหว่างแก๊งที่มีการสร้างฉากการต่อสู้มาได้อย่างสมจริง นอกจากนี้ ภายในเนื้อเรื่องยังมีการสอดแทรกประวัติศาสตร์อังกฤษเอาไว้อีกด้วย ทำให้เรื่องนี้ดูน่าติดตามมากขึ้นไปอีก

เนื่องจากเป็นซีรีส์ที่อยู่ในช่วงยุคเก่า คอสตูมจึงมีเสน่ห์เฉพาะตัวตามแบบผู้ชายอังกฤษ โดยประเด็นที่น่าสนใจคือการแสดงของตัวละครหลัก และพัฒนาการของตัวละครที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นอันธพาล และมีความทะเยอทะยานจนทำให้ก้าวเข้ามาสู่วงการการเมืองได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางของอำนาจก็ยังไม่จบลงเท่านี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป สามารถไปติดตามกับเรื่องราวของตระกูลเชลบี้กันได้เลย 

12. Cobra Kai — คอบร้า ไค

“โลกนี้ไม่มีศิษย์ที่เลวร้าย มีแต่อาจารย์ที่ไม่ดี” แล้วอิทธิพลของอาจารย์สามารถทำให้ชีวิตของศิษย์ต่างออกไปหรือไม่? Cobra Kai นำเสนอเรื่องราวระหว่างศิลปะการต่อสู้ 2 แนวคิด ที่ต่างก็ห่ำหั่นกันในเชิงการต่อสู้ และความคิดของกระบวนการต่อสู้ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังนำเสนอประเด็นสังคมของทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ที่ต่างก็มีปัญหาไม่ต่างกันเลย เราจะได้รับชมทั้งกระบวนท่าการต่อสู้ที่น่าสนใจ และเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจกันอย่างครบรส

ผลจากความโด่งดังของหนังเรื่อง The Karate Kid ในปี 1984 ซีรีส์เรื่อง Cobra Kai จึงได้รับการสานต่อโดยมีความพิเศษตรงที่เป็นการนำนักแสดงเด็กในเวอร์ชั่น The Karate Kid ปี 1984 มารับบทเป็นอาจารย์ใน Cobra Kai ทำให้หนังที่เป็นความทรงจำของใครหลายๆ คนอยู่แล้ว กลับมาทำให้คนดูได้เห็นหน้าตัวละครเก่าๆ ให้หายคิดถึงกันได้บ้าง

13. Locke & Key — ปริศนาลับตระกูลล็อค

คุณจะทำอย่างไรหากได้รับของวิเศษที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ? Locke & Key ซีรีส์คุณภาพน้ำดีที่สร้างจากนิยายขายดี โดยเป็นเรื่องเล่าของพี่น้อง 3 คนที่ได้ย้ายกลับมายังบ้านเก่าของพ่อที่ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา แม้การย้ายมาครั้งนี้จะดูเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่หลังเกิดโศกนาฎกรรมที่เลวร้าย แต่บ้านนี้ยังมีปริศนาที่ทำให้เหล่าพี่น้องต่างเกิดความสงสัยกันไปตามๆ กัน

เนื่องจากเป็นซีรีส์แฟนตาซีจึงรับประกันในเรื่องของคุณภาพของฉาก ที่เนรมิตมาให้ได้ชมกันอย่างไม่เบื่อเลย อีกทั้งยังมีตัวละครที่นอกเหนือจากตัวละครหลัก เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ยากจะเทียบ หรือตัวร้ายที่ฉลาดหลักแหลม พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นๆ คือความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างฉาก และเนื้อเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย

14. Sweet Tooth — สวีททูธ

มาดูสุดยอดซีรีส์ฝรั่งยอดนิยมแนวเอาชีวิตรอดหลังโลกล่มสลายเรื่อง Sweet Tooth โดยซีรีส์ดำเนินเรื่องที่มีตัวละครหลักอย่างมนุษย์ไฮบริดครึ่งคนครึ่งกวาง การถูกตามล่า และการเอาชีวิตในโลกที่ผู้ใหญ่เป็นคนทำลาย ยิ่งสะท้อนให้เห็นความมีมิติของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งในเนื้อเรื่องยังชวนน่าติดตาม ชวนให้สงสัย และกระตุ้นความอยากรู้ให้กับผู้ชมไปตามๆ กัน

ซีรีส์ที่มีฉากหลังเป็นโลกที่ไม่ได้น่าอยู่เหมือนก่อนล่มสลาย ยังคงความสวยงามของซีรีส์ไว้โดยการใส่ตัวละครที่มากเสน่ห์ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะตัวละครเด็กที่แม้จะกลายเป็นมนุษย์ไฮบริดที่ไม่หลงเหลือลักษณะภายนอกของมนุษย์ แต่ก็ยังคงความน่ารักของตัวละครไว้อย่างดี ถึงแม้จะยังมีการนำเสนอความโหดร้ายของผู้ใหญ่ในเรื่องบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Sweet Tooth เป็นซีรีส์ที่มีใจความสำคัญ และน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลย เรียกได้ว่าหยิบมากี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย

15. Shadow and Bone — ตำนานกรีชา

ปิดท้ายกันด้วย Shadow and Bone ซีรีส์ฝรั่งสุดยอดแฟนตาซี ที่สร้างจากนิยายของ Leigh Bardugo ลูกครึ่งชาวอเมริกันอิสราเอล และได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างฉากหลังของอาณาจักรราฟกามาจากอาณาจักรรัสเซียในช่วงยุคปี 1800 โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็นการแย่งชิง และห่ำหั่นกันของทั้ง 2 อาณาจักร ทั้งอาณาจักรราฟกาตะวันตก และราฟกาตะวันออก ที่มีดินแดนที่เรียกว่าพยับเงามรณะเป็นดินแดนที่ขวางกั้นอยู่ โดยเพิ่มความน่าสนใจไปโดยการให้ตัวละครมีความสามารถพิเศษของธาตุต่างๆ และมีกรีชาผู้เรียกสุริยะเป็นตัวแทนของอำนาจที่หาตัวจับได้ยาก พร้อมกับตัวละครที่มีทั้งนักเวทย์ นักฆ่า และปีศาจอีกด้วย

ความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือคอสตูมที่ถูกดีไซน์มาอย่างใส่ใจ ทั้งรายละเอียด และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นล้วนมีความหมายทั้งนั้น หรือการนำเสนอฉากหลังที่น่าตื่นตาตื่นใจ และตัวละครที่มากเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลัก หรือตัวละครรอง พร้อมกับการหยิบจับองค์ประกอบของเนื้อเรื่องให้มีความหลากหลาย ทั้งบทบาทในส่วนของการต่อสู้ ความรัก หรือโลกเวทมนต์ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความอลังการของเนื้อเรื่องตั้งแต่เริ่มจนจบเลยทีเดียว

ซีรีส์ฝรั่งกับการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต

แน่นอนว่าการดูซีรีส์ นอกจากจะได้ความสนุกสนาน และช่วยให้คลายเครียดจากความเหนื่อยล้าแล้ว ยังสร้างทักษะในชีวิตเราได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคิด ทักษะด้านภาษา และการได้ทำความรู้จักกับวัฒนธรรมใหม่ๆ ของแต่ละประเทศ โดยข้อดีของการดูซีรีส์จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. ได้ทักษะการเรียนรู้ทางภาษา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันภาษาต่างประเทศสำคัญอย่างมาก ซึ่งการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดคือการนำมาใช้ในชีวิตจริง และทำให้ตัวเองคุ้นชินกับมัน แต่จะนำไปใช้อย่างไรดี? อาจจะเป็นการดูซีรีส์ฝรั่ง และฝึกพูดกับตัวเองก็ช่วยในการเรียนรู้ภาษาได้ดีเช่นกัน เพราะการดูซีรีส์นั้นช่วยให้เรามีแรงกระตุ้นในการเรียนรู้ภาษามากกว่าการเรียนในห้องเรียนที่มีเนื้อหาชวนเครียด และซีรีส์แต่ละเรื่องก็ต่างมีภูมิหลังของภาษา และเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกัน

2. ฝึกการเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ

ซีรีส์ฝรั่งส่วนใหญ่มักนำเสนอวัฒนธรรมประจำชาติของตัวเอง เพื่อเป็นการนำเสนอเอกลักษณะเฉพาะตัว หรือประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และเป็นการนำเสนอ Soft Power ที่จะทำให้คนดูได้เรียนรู้วัฒนธรรมภายในซีรีส์มากขึ้น ซึ่งการได้เรียนรู้วัฒนธรรมของต่างชาติช่วยให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ๆ และเปิดใจรับวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น ทำให้มุมมองการมองโลกของเราไม่แคบจนเกินไป และสามารถปรับตัวได้ง่ายมากขึ้นหากพบเจอวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชิน ซึ่งทักษะนี้สำคัญมากต่อการใช้ชีวิต

3. ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน สนุกสนาน

แน่นอนอยู่แล้วว่า การดูหนัง หรือซีรีส์สร้างความเพลิดเพลิน เราจึงคุ้นชินกับการใช้เวลาว่างไปกับการดูซีรีส์ฝรั่ง เพื่อขจัดความเครียด หรือความเหนื่อยล้าได้ ทั้งนี้ การดูซีรีส์เพื่อทำให้จิตใจเราผ่อนคลายนั้นไม่จำเป็นว่าซีรีส์ที่เราดูจะต้องเป็นแนวตลกคอมเมดี้ หรือแนวเบาสมองเท่านั้น แต่การดูซีรีส์แนวดรามาก็ทำให้เราผ่อนคลายได้เช่นกัน เพราะจากการวิจัย การดูซีรีส์ดรามาช่วยให้เราระบายความรู้สึกออกมาได้มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อมีเรามีอารมณ์อ่อนไหว หรือมีความเครียด ซีรีส์แนวดราม่าก็เปรียบเสมือนเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเราได้ เพราะตัวละครในซีรีส์ดราม่าส่วนใหญ่มีชีวิตที่ต้องจมอยู่กับความผิดหวังเสมอ ความรู้สึกที่ว่าเราไม่ได้เศร้าอยู่คนเดียว จึงทำให้การดูซีรีส์แนวดรามาช่วยให้เราหายเครียดได้นั่นเอง

4. ซีรีส์ฝรั่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจ

มนุษย์ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เพียงแต่ยังไม่มีแรงใจมากพอที่จะกระทำบางอย่าง และซีรีส์ฝรั่งก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน เพราะซีรีส์เปรียบเสมือนจดหมายจากผู้เขียนถึงผู้ชม โดยภายในจดหมายอาจจะแสดงถึงมุมมองที่ทั้งดี และไม่ดีของตัวผู้เขียนเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อผ่านซีรีส์นั้น ล้วนเป็นมุมมองการมองโลกของตัวผู้เขียนเอง และมุมมองเหล่านี้ก็สาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง และสร้างแรงบันดาลใจภายในสังคมได้ไม่มากก็น้อย จึงเรียกได้ว่าซีรีส์สามารถสร้างอิทธิพลทางจิตวิทยาให้แก่ผู้คนได้นั่นเอง

5. ซีรีส์ฝรั่งให้มุมมองการมองโลกที่แตกต่าง

ในโลกที่มีประชากรกว่า 8 พันล้านคน และอาศัยอยู่ในพื้นที่กว่า 193 ประเทศ ย่อมมีวัฒนธรรม และมุมมองที่แตกต่างกันอยู่แล้ว และซีรีส์ฝรั่งก็ต่างถ่ายทอดวัฒนธรรม และมุมมองเหล่านั้นผ่านตัวละครมาให้ได้ชมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะเห็นกันว่าแต่ละวัฒนธรรมนั้นต่างมีเสน่ห์เฉพาะตัว แม้บางสิ่งบางอย่างอาจจะเป็นอะไรที่เราไม่คุ้นชินมากนัก แต่การได้เรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ช่วยให้เราเปิดใจ และมองโลกที่แตกต่างนี้ได้อย่างมีความเคารพซึ่งกันและกัน 

สรุป

ได้รู้จักกันไปแล้วกับซีรีส์ฝรั่งยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ เรียกได้ว่าดูทีไรก็ติด หยุดดูไม่ได้เลยทีเดียว ดูแล้วต้องดูตอนต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีซีรีส์ฝรั่งดีๆ และน่าสนใจอีกหลายเรื่อง ซึ่งสามารถไปหาชมกันเพิ่มเติมเองได้ เพื่อที่จะได้สร้างความทรงจำดีๆ ได้แรงบันดาลใจต่างๆ นำไปสร้างแนวคิดในการใช้ชีวิตจากการดูซีรีส์ และยังช่วยให้สามารถเรียนรู้ภาษา และวัฒนธรรมใหม่ๆ จากแต่ละเรื่องอีกด้วย

หากกำลังหาพื้นที่ในการดูซีรีส์ The Street Ratchada นั้นมีพื้นที่ให้ได้นั่งดูซีรีส์กันแบบจุใจบริเวณชั้น 4 นอกจากนี้ หากท้องร้องขณะดูซีรีส์ ที่ The Street Ratchada ยังมีร้านอาหารมากมายให้ได้ไปกินเติมพลังกันก่อนหรือจะซื้อนำมากินระหว่างดูเพื่อให้การดูซีรีส์ได้อรรถรสมากขึ้น เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว