The Street Share: พาไปดูการวางแผนการออมที่ทุกคนทำได้ง่ายๆ หากมีความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมแนะนำตารางออมเงิน และสูตรการเก็บเงินออมง่ายๆ เพื่อความมั่นคงทางการเงิน ตารางออมเงิน พร้อม 11 สูตรสร้างนิสัยออมเงินง่ายๆ รวยแน่ถ้าออมทุกวัน
ไม่มีกำหนดอายุ

ตารางออมเงิน พร้อม 11 สูตรสร้างนิสัยออมเงินง่ายๆ รวยแน่ถ้าออมทุกวัน

การออมเงิน อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็ต้องมีตัวช่วย นั่นก็คือ การวางแผนการออม ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยสร้างวินัยในการออมได้ เพราะการออมเงินจะช่วยให้ผู้เก็บเงินเห็นถึงเป้าหมายของการเก็บเงินออมนั่นเอง หากทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจ รับรองว่ามีเงินเก็บแน่นอน ทั้งนี้ The Street Share จะพาไปดูตารางเก็บเงินหรือตารางออมเงิน พร้อมสูตรการเก็บเงินออมง่ายๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้การออมเงินมีความสนุกมากขึ้นและมีความมั่นคงทางการเงินในวันข้างหน้า


สารบัญ ตารางออมเงิน พร้อม 11 สูตรสร้างนิสัยออมเงินง่ายๆ รวยแน่ถ้าออมทุกวัน!


ตารางออมเงิน คืออะไร

ตารางออมเงิน คืออะไร

ตารางออมเงิน คือ ตารางที่เป็นตัวระบุเป้าหมายว่าต้องการเก็บเงินให้ได้เท่าไหร่และในแต่ละวันควรเก็บเงินเท่าไหร่ ถ้าหากตั้งเป้าหมายให้เก็บเงินเป็นจำนวนมาก ก็จะมีความท้าทายและความยากมากขึ้น ดังนั้นให้เริ่มต้นจากการเก็บน้อยๆ ก่อน เพื่อสร้างวินัยในตนเอง ถ้าทำสำเร็จแล้ว ให้ลองขยับเป้าหมายการออมเงินให้มากขึ้น เช่น ในเดือนที่ 1 ต้องการมีเงินเก็บ 2,000 บาท ภายใน 40 วัน ก็ต้องเก็บวันละ 50 บาทนั่นเอง ซึ่งการออมเงินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ที่ต้องการเก็บเงิน จะต้องคำนึงถึงรายได้ของตนเองก่อน ไม่ควรคาดหวังการออมเงินมากจนเกินไป เพราะการออมเงินให้สมเหตุสมผลกับรายได้ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยตารางออมเงิน สามารถหารูปได้จากทางอินเทอร์เน็ตหรือจะวาดรูปตารางเองก็ได้เช่นกัน  

ความสำคัญของการวางแผนการออมเงิน

ความสำคัญของการวางแผนการออมเงิน

การวางแผนการออมเงิน เป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญกับผู้คนในทุกระดับ เพราะการวางแผนการออมเงินจะนำมาซึ่งความมั่นคงทางการเงินได้ อีกทั้งยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการออมเงินเพื่อซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อของที่อยากได้ หรือออมไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินต่างๆ ทั้งนี้การออมเงินนั้น ต้องเริ่มจากจำนวนเล็กๆ น้อยๆ มีวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

แจก 11 สูตร! ตารางออมเงิน ทำได้ง่ายๆ ใช้ได้ทุกคน

เห็นกันไปแล้วกับความสำคัญของการเก็บเงินออม เพราะช่วยให้บรรลุตามเป้าหมาย สามารถซื้อสิ่งที่ต้องการได้ หรือเป็นการฝึกวินัยในตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความมั่นคงทางเงินในอนาคตได้ ไปดู 11 ตารางออมเงินง่ายๆ ที่ทำกันได้ทุกคนและทุกวัย กันได้เลย

ตารางออมเงิน 500 บาท

1. ตารางออมเงิน 500 บาท

ตารางออมเงิน 500 บาท จะเป็นการออมแบบทีละน้อยๆ เริ่มตั้งแต่ 2 บาท 3 บาท 5 บาท ไปจนถึง 10 บาท เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฝึกวินัยในการออมเงิน ซึ่งตารางออมเงิน 500 บาทนี้ สามารถใช้เวลากี่วันก็ได้ แล้วแต่กำหนดเป้าหมาย อย่างเช่น ถ้ากำหนดว่า ออมเงิน 500 บาท เป็นเวลา 110 วัน ก็เริ่มจากออมวันละ 2 บาท เป็นเวลา 20 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 3 บาท เป็นเวลา 20 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 5 บาท เป็นเวลา 60 วัน และสุดท้ายออมวันละ 10 บาท เป็นจำนวน 10 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 500 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการช่วยเพิ่มวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอได้ เพราะเริ่มจากการออมทีละน้อยๆ หลังจากนั้นค่อยเพิ่มเป้าหมายการออมเงิน 

ตารางออมเงิน 1,000 บาท

2. ตารางออมเงิน 1,000 บาท

ตารางออมเงิน 1,000 บาท เหมาะสำหรับทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ ซึ่งตารางออมเงิน 1,000 บาทนี้ สามารถใช้เวลากี่วันก็ได้ แล้วแต่กำหนดเป้าหมาย อย่างเช่น เริ่มจากออมเงินวันละ 5 บาท เป็นเวลา 60 วัน ต่อมาก็ออมเงินวันละ 10 บาท เป็นเวลา 30 วันและออมเงินวันละ 20 บาท เป็นเวลา 20 วัน ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 110 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 1,000 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะช่วยลดปัญหาการเก็บเงินไม่อยู่ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างวินัยด้านการเงินให้กับตนเองได้ 

ตารางออมเงิน 2,000 บาท

3. ตารางออมเงิน 2,000 บาท

ตารางออมเงิน 2,000 บาท บาท จะเป็นการออมเงิน ที่เริ่มตั้งแต่ 5 บาท 10 บาท 20 บาท ไปจนถึง 50 บาท เหมาะสำหรับทุกวัย อย่างเช่น ถ้ากำหนดว่า ออมเงิน 2,000 บาท เป็นเวลา 110 วัน ก็เริ่มจากออมวันละ 5 บาท เป็นเวลา 20 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 10 บาท เป็นเวลา 20 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 20 บาท เป็นเวลา 60 วัน และสุดท้ายออมวันละ 50 บาท เป็นจำนวน 10 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ นอกจากจะมีเงินเพิ่มมากขึ้นแล้ว วินัยการออมยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

ตารางออมเงิน 3,000 บาท

4. ตารางออมเงิน 3,000 บาท

ตารางออมเงิน 3,000 บาท จะเป็นการออม ที่เริ่มตั้งแต่ 5 บาท 10 บาท 20 บาท ไปจนถึง 50 บาท เป็นการออมที่เหมาะสำหรับวัยเรียนมากๆ อย่างเช่น ถ้ากำหนดว่า ออมเงิน 3,000 บาท เป็นเวลา 110 วัน ก็เริ่มจากออมวันละ 5 บาท เป็นเวลา 20 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 10 บาท เป็นเวลา 10 วัน ต่อมาก็ออมวันละ 20 บาท เป็นเวลา 40 วัน และสุดท้ายออมวันละ 50 บาท เป็นจำนวน 40 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 3,000 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ คือออมเพื่อให้รางวัลกับตนเอง ที่จะนำไปใช้ตามเป้าหมาย 

ตารางออมเงิน 5,000 บาท

5. ตารางออมเงิน 5,000 บาท

ตารางออมเงิน 5,000 บาท จะเป็นการออม ที่เริ่มตั้งแต่ 20 บาท และ 50 บาท เป็นการออมที่เหมาะสำหรับทุกวัยเลย โดยการตารางออมเงิน 5,000 บาท จะใช้เวลาทั้งหมด 130 วัน ซึ่งให้เริ่มตั้งแต่การออมเงินวันละ 20 บาท เป็นเวลา 50 วัน ต่อมาก็ออมเงินวันละ 50 บาท เป็นเวลา 80 วัน เมื่อออมเงินครบตามจำนวนวันที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็จะได้เงินทั้งหมด 5,000 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ คือความท้าทาย ที่ต้องเริ่มออมวันละ 50 บาท ถึง 80 วัน ซึ่งในช่วงแรกก็จะมีความง่าย เพราะออมเพียงวันละ 20 บาทเท่านั้น แต่ถ้าฝึกวินัยจนเป็นความเคยชิน การออมวันละ 50 บาท ก็จะไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย 

ตารางออมเงิน 10,000 บาท

6. ตารางออมเงิน 10,000 บาท

ตารางออมเงิน 10,000 บาท เป็นการออมที่เริ่มตั้งแต่ 10 บาท, 20 บาท, 30 บาท, 40 บาท, 60 บาท, 80 บาท, 100 บาท, 120 บาท, 160 บาท, 180 บาท ไปจนถึง 200 บาท เป็นการออมที่เหมาะสำหรับวัยทำงาน ซึ่งการออมแต่ละขั้นที่เพิ่มมานั้น ให้ออมอย่างละ 10 วัน ไปจนครบ เช่น ออมเงิน 10 บาท 10 วัน, ออม 20 บาท 10 วันไปเรื่อยๆ  รวมทั้งหมด 110 วัน ก็จะมีเงินออมทั้งสิ้น 10,000 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการไล่ระดับการออมเงินอย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มมีวินัยในการออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางออมเงิน 5,000 บาท ภายใน 1 เดือน

7. ตารางออมเงิน 5,000 บาท ภายใน 1 เดือน

ตารางออมเงิน 5,000 บาท ภายใน 1 เดือน เหมาะสำหรับทั้งวันเรียนและวัยทำงาน ซึ่งจะต้องดูก่อนว่า ในเดือนนั้นๆ มี ทั้ง 30 วัน หรือ 31 วัน ถ้าเดือนที่มี 30 วัน ก็จะต้องออมเงินวันละ 167 บาท จนครบ 30 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 5,010 บาท แต่ถ้าเดือนที่มี 31 วัน ก็จะต้องออมเงินวันละ 162 บาท จนครบ 31 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 5,022 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการออมที่สม่ำเสมอ เพราะออมในจำนวนที่เท่ากันในแต่ละวัน 

ตารางออมเงิน 10,000 บาท ภายใน 1 เดือน

8. ตารางออมเงิน 10,000 บาท ภายใน 1 เดือน

ตารางออมเงิน 10,000 บาท ภายใน 1 เดือน เหมาะสำหรับวัยทำงานสุดๆ ซึ่งก่อนเริ่มออมเงินนั้น จะต้องดูก่อนว่า ในเดือนนั้นๆ มี ทั้ง 30 วัน หรือ 31 วัน ถ้าเดือนที่มี 30 วัน ก็จะต้องออมเงินวันละ 334 บาท จนครบ 30 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 10,020 บาท แต่ถ้าเดือนที่มี 31 วัน ก็จะต้องออมเงินวันละ 323 บาท จนครบ 31 วัน ก็จะได้เงินทั้งหมด 10,013 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการออมที่สม่ำเสมอ เพราะออมในจำนวนที่เท่ากันในแต่ละวัน ทำให้มีเงินหมื่นภายในหนึ่งเดือนได้แบบง่ายๆ แต่ถ้าหากไม่อยากออมเป็นรายวัน จะออมเป็นรายสัปดาห์ก็ได้ เช่น ออมสัปดาห์ละ 2,500 บาท เมื่อครบ 4 สัปดาห์ ก็จะได้เงินจำนวน 10,000 บาทตามเป้าหมายที่ตั้งหมาย 

ตารางออมเงินรายสัปดาห์

 9. ตารางออมเงินรายสัปดาห์

ตารางออมเงินรายสัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกเก็บเงินเป็นรายวัน โดยแต่ละสัปดาห์ไปให้มีการเก็บเพิ่มสัปดาห์ละ 10 บาท อย่างเช่น ใน 7 วันแรก ให้ออม 10 บาท สัปดาห์ถัดมาเพิ่มเงินอีก 10 บาท ก็จะเป็น 20 บาท ทำเรื่อยๆ เช่นนี้ไปจนครบ 52 สัปดาห์หรือ 1 ปี นั่นเอง เมื่อออมเงินจนครบ ก็จะได้เงินออมทั้งสิ้น 13,780 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ คือเป็นการเก็บแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มเก็บทีละน้อยๆ อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่มีเงินออมแน่นอน

ตารางออมเงิน 1 เดือน

10. ตารางออมเงิน 1 เดือน

ตารางออมเงิน 1 เดือน เหมาะสำหรับคนที่อยากออมเงิน ที่เริ่มต้นทีละน้อยๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่อยากให้ลูกๆ ฝึกออมเงินอีกด้วย โดยการออมเงิน 1 เดือน จะต้องดูก่อนว่า เดือนนั้นๆ มี 30 วัน หรือ 31 วัน ถ้าเดือนไหนที่มี 30 วัน ก็ออมเงินตามจำนวนวันไปเรื่อยๆ เช่น วัน ที่ 1 ออม 1 บาท วันที่ 2 ออม 2 บาท ออมไปจนครบ 1 เดือน ถ้าออมจนครบ 30 วัน ก็จะได้เงิน 465 บาท แต่ถ้าออมจนครบ 31 วัน ก็จะได้เงิน 496 บาท ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 12 เดือน ก็จะได้เงินออมไม่ต่ำกว่า 5,580 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการไล่ระดับการออมเงินอย่างชัดเจน อีกทั้งยังจดจำง่ายอีกด้วย เพราะ ออมตามวันที่ที่เพิ่มไปเรื่อยๆ นั่นเอง 

ตารางออมเงิน 365 วัน

11. ตารางออมเงิน 365 วัน

ตารางออมเงิน 365 วัน เหมาะสำหรับวัยทำงาน ที่อยากมีเงินออมตอนสิ้นปีแบบเยอะๆ โดยการออมนั้นจเป็นการออมที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามจำนวนวัน ก็คือ วันที่ 1 ออมเงิน 1 บาท ,วันที่ 2 ออมเงิน 2 บาท ไปจนถึง วันที่ 365 ออมเงิน 365 บาท เมื่อออมไปจนครบ 1 ปี จะมีเงินออมสูงถึง 66,795 บาท จุดเด่นของการออมเงินแบบนี้ จะเป็นการออมแบบไล่ระดับ ออมเงินตามจำนวนวัน ซึ่งในช่วงแรกจะมีความง่าย เพราะยังออมเงินทีละน้อยๆ อยู่ แต่จะยากในการออมเงินช่วงวันหลังๆ เพราะ เป็นจำนวนเงินที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง 

สรุป

การวางแผนการออมเงิน จะนำมาซึ่งความมั่นคงทางการเงิน อีกทั้งยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ โดยเริ่มจากเล็กๆ น้อยๆ มีวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีตารางออมเงิน ที่จะเป็นตัวช่วยที่จะตัวระบุเป้าหมายว่าต้องการเก็บเงินให้ได้เท่าไร และในแต่ละวันควรเก็บเงินเท่าไร โดยการออมเงินให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ผู้ที่ต้องการเก็บเงิน จะต้องคำนึงถึงรายได้ของตนเองก่อน ถ้ารายได้น้อยก็เริ่มออมเงินจากน้อยๆ ก่อน เพราะการออมเงินให้สมเหตุสมผลกับรายได้ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จเร็วมากยิ่งขึ้น 

Related