The Street Share: วนมาอีกครั้งกับ April Fools Day ที่จะพาคุณไปคลายเครียดกับวีรกรรมสุดสร้างสรรค์ วันเมษาหน้าโง่นี้ จะสนุกขำขัน และบันเทิงกันขนาดไหน ไปดูกัน!
วนมาถึงกันอีกครั้งในเดือนเมษายนกับวันเมษาหน้าโง่ หรือ April Fool's Day เทศกาลที่จะทำให้ทุกคนได้คลายเครียด ผ่อนคลายไปกับมุกแกล้งเพื่อนสนุกๆ พร้อมกับวีรกรรมแปลกใหม่สุดสร้างสรรค์ที่แต่ละคนคิดและขุดมาแกล้งกันอย่างน่ารัก เรามาดูกันว่าแต่ละมุกจะสนุก ตลก ขำขันและบันเทิงขนาดไหน
April Fool's Day หรือ วันโกหก เป็นวัฒนธรรมที่ผู้คนหลายประเทศต่างรับเอาวัฒนธรรมนี้ไปใช้ในประเทศของตน ไว้แกล้งและหยอกล้อกันเล่นเพื่อความสนุกสนานและความบันเทิง ซึ่งที่มาของวันนี้นั้นมีที่มาที่น่าสนุกไม่แพ้กันเลย โดยว่ากันว่าที่มาทั้งหมด ดังนี้
เนื่องจากมีหลายประเทศ หลายสังคมได้นำเทศกาลแห่งการโกหก หรือ April Fool's Day ไปเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สนุกสนาน ชวนให้ผ่อนคลาย ซึ่งแต่ละที่ก็มีการเล่นเมษาหน้าโง่ที่ต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าแต่ละประเทศมีรูปแบบของเทศกาล และมีความสนุกสนานใดเกิดขึ้นบ้างในวันเมษาหน้าโง่
หนึ่งในเรื่องราวแห่งวันโกหกของประเทศอังกฤษ คือ เมื่อปี ค.ศ. 1980 สำนักข่าวใหญ่อย่าง BBC ได้รายงานข่าวว่าหน้าปัดนาฬิกาบิกเบน (Big Ben) จะเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในมุกโกหกในวันเมษาหน้าโง่ แต่ในประเทศอังกฤษ หากมีการเล่นโกหกหรือทำอะไรแผลงๆ ในวัน April Fool's Day มักจะเฉลยกันในเที่ยงคืน เพื่อไม่ให้เลยเถิดหรือเพื่อไม่ให้ถูกเข้าใจผิดกันเกินไป
ในประเทศโปแลนด์นับได้ว่าเทศกาล April Fool's Day เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีอิทธิพลต่อประชาชนมากๆ เนื่องจากมีการเล่นมุกตลกกันมายาวนานหลายศตวรรษในช่วงวันแรกของเดือนเมษา จนทำให้รัฐบาลและหน่วยงาน องค์กรต่างๆ หลีกเลี่ยงอย่างมากที่จะไม่ประกาศข่าวหรือรายงานเรื่องสำคัญในวันเมษาหน้าโง่ เพราะกลัวว่าประชาชนจะไม่เชื่อ ทำให้ประชาชนสามารถเล่นสนุกกันได้อย่างเพลิดเพลิน และอิทธิพลนี้ยังส่งผลต่อเมืองอื่นๆ รอบข้างประเทศโปแลนด์ด้วยเช่นกัน
แถบประเทศนอร์ดิก เช่น เดนมาร์ก ฟินน์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ได้มีการโกหกในวันเมษาหน้าโง่ โดยการตีพิมพ์ข่าวโกหกไว้บนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามหัวข้อข่าวสำหรับวันโกหกนั้นยังมีขอบเขตอยู่ เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญถึงขั้นเป็นหัวข้อข่าวใหญ่หรือข่าวบนสุดในหน้าหนังสือพิมพ์ ถือได้ว่าเป็นการแกล้งกันแบบขำๆ พอให้สนุกกำลังดี
ประเทศไอร์แลนด์ มีการแกล้งกันอย่างน่ารักๆ ในเทศกาล April Fool's Dayซึ่งเป็นการส่งต่อจดหมายลูกโซ่ ที่เมื่อเราเปิดอ่านแล้วจะเจอกับคำว่า “send the fool further” หรือ “ส่งต่อให้คนโง่ต่อไป” ก็นับได้ว่าเป็นการแกล้งกันเบาๆ พอหอมปากหอมคอ และเหมือนกับเป็นการได้ทำภารกิจสนุกๆ กับคนรอบข้างไปด้วยในตัวนั่นเอง
วันโกหกในประเทศเยอรมันก็เป็นเรื่องที่น่าสนุกไม่แพ้กัน เพราะในวันที่ 1 เมษายน ผู้คนมักจะตะโกนขึ้นมาดังๆ ว่า “วันเมษาหน้าโง่” มีการหยอกล้อแกล้งกัน เล่นมุกกันไปมาอย่างขำขัน นอกจากนี้ครั้งหนึ่งบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง Volkswagen ได้มีการออกข่าวอำกันเล็กๆ ในปี 2021 ว่า ได้เปลี่ยนมาเป็น Volt- แทน Volk- โดยมีการวางแผนปล่อยวิดีโอการตลาดอย่างใหญ่โตบนโลกออนไลน์ ก่อนจะออกมาเฉลยภายหลังว่าเป็นการอำกันเล่นในวัน April Fool's Day
ในแถบประเทศเอเชียเองก็มีการรับเอาวัฒนธรรมการแกล้งหยอกล้อกันในวันเมษาหน้าโง่มาเช่นกัน จนมีข่าวบางข่าวที่เป็นข่าวจริงแต่ผู้คนไม่เชื่อ เพราะคิดว่าเป็นแค่ April Fool's Day อย่างในประเทศจีนที่เคยเกิดเหตุการณ์หนึ่งที่เรียกได้ว่าทำให้ผู้คนตกตะลึงและจำได้ไม่รู้ลืม เมื่อในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2003 ได้มีข่าวออกมาว่านักร้องชื่อดังชาวฮ่องกง เลสลี่ จาง ได้กระโดดตึกและเสียชีวิตลง แต่อย่างไรก็ตามผู้คนต่างไม่เชื่อ และคิดว่าเป็นข่าวปลอมที่ลงเพื่อแกล้งกันในวันเมษาหน้าโง่ แต่จริงๆ แล้วนี่กลับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หลังจากเหล่าแฟนคลับทราบความจริงแล้วจึงทำให้นอกจากวันที่ 1 เมษายน จะเป็นวันโกหกแล้ว ยังเป็นอีกวันที่แฟนคลับของ เลสลี่ จาง ใช้เป็นวันรำลึกถึงเขาอีกด้วย
จากหัวข้อก่อนคงพอจะได้รู้ลักษณะและรูปแบบการแกล้งกันในวัน April Fool's Day ของแต่ละประเทศกันไปบ้างแล้ว ในหัวข้อนี้จะพาไปดูไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่เหล่าบรรดาองค์กรและแบรนด์ยอดนิยมหลายๆ แบรนด์ได้ออกมาประกาศข่าวเพื่อแกล้งผู้คนต้อนรับวันเมษาหน้าโง่กัน มาดูกันว่าแต่ละเหตุการณ์จะสร้างสรรค์ขนาดไหนกัน
บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google ได้ทำลงทุนโฆษณาเพื่อเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นที่น่าจับตามอง อย่าง Google nose ที่จะช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางการดมเพียงแค่ค้นหากลิ่นที่คุณสนใจอยากจะลองสัมผัส โดยไม่ว่าคุณอยากจะดมกลิ่นดอกไม้ กลิ่นหนังสือ กล่นรถยนต์ใหม่ หรือกลิ่นอะไรก็ตาม เพียงแค่คุณค้นหาและเข้าไปที่ Google nose ระบบจะทำการวิเคราะห์และส่งกลิ่นเหล่านั้นให้คุณได้สัมผัส อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการเปิดตัวที่มาอำผู้คนเล่นๆ ในวันเมษาหน้าโง่เท่านั้น แต่ถ้ามี Google nose ขึ้นมาจริงๆ นี่คงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากแน่นอน
อีกหนึ่งเรื่องน่าขำขันต้อนรับวันเมษาหน้าโง่โดย Google คือการที่ Google ได้เปิดฟีเจอร์ใหม่บน Google Maps ที่จะทำให้เราได้พบกับแผนที่แห่งขุมทรัพย์ ของกัปตันคิดส์ที่หายสาบสูญไป โดยเราสามารถร่วมค้นหาขุมทรัพย์ไปด้วยกันได้ผ่านโหมด Treasure ซึ่งวิธีใช้งานก็เหมือนกันการใช้ Google Maps ทั่วไป แต่มีลักษณะของแผนที่ในรูปแบบที่ต่างออกไปเพราะเป็นรูปแผนที่โบราณ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ภูมิศาสตร์ให้เหมือนกับกำลังค้นหาขุมทรัพย์ของจริง นี่นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Google ลงทุนสร้างเพื่อวันโกหกเลยทีเดียว แต่หาก Google ทำออกมาจริงคงน่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ
น้ำหอมกลิ่นไก่ทอด ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูสุดฮิตของ McDonald’s ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบทานแมคฯ ได้มีกลิ่นหอมของเมนูชื่อดังติดตัวไปตลอดวัน แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างเสียงฮือฮาและตื่นเต้นได้ไม่น้อย เมื่อคนคิดว่า McDonald’s ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ออกมาจริง แต่นั่นก็เป็นเพียงคอนเซ็ปต์เฮฮาเพื่อต้อนรับวัน April Fool's Day นั่นเอง
ร้านไอศกรีมชื่อดังอย่าง Swensen’s ได้ออกเมนูใหม่ที่เรียกความสนใจจากผู้คนไม่น้อย นั่นก็คือเมนู ไอศกรีมข้าวราดแกง ที่ทำมาเพื่อความสนุกสนานในวันเมษาหน้าโง่โดย Swensen’s ไทยแลนด์ ที่มีท็อปปิ้งอย่าง กะเพราสไปซี, ต้มยำฮอทฟัดจ์, พริกแกง พอร์ค ชังค์ และ ใบเหลียง แอนด์ เอก เป็นการรังสรรค์เมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจ ชวนให้ลองชิมมากๆ
Burger King วอปเปอร์ รุ่นมหานิยม ที่ได้นำของมงคลจากทั่วทุกทิศมารวมอยู่ในเบอร์เกอร์ และปลุกเสกโดยอาจารย์ไฟ มหาพิโรธ ได้รับความมงคลแบบจ่ายราคาตามศรัทธา แต่ก็มีให้เช่าแค่วันเดียวคือ 1 เมษายน ปี 2565 เพราะทางเบอร์เกอร์คิงทำคอนเทนต์ขึ้นมาเพื่อต้อนรับเทศกาล April Fool's Day เท่านั้น
รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิค อย่างแบรนด์ นันยาง ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาร่วมสร้างสีสันในวันโกหก ผ่านการโปรโมต รองเท้าผ้าใบนะยางชิด ที่ได้นำเปลือกของมะยงชิดมาทำเป็นเส้นใยผ้าไหมมาถักทอด้วยเทคโนโลยีจนทำให้เกิดเป็นรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษ ส่วนเนื้อและเม็ดมะยงชิดนั้นก็จะถูกนำมาทำเป็นพื้นและขอบยาง บอกเลยว่าถ้าไอเดียนี้ทำขึ้นได้จริงๆ จะเป็นไอเดียที่จะช่วยลดขยะจากอาหารได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน
ทนต่อกระแสไม่ไหว เนื่องจากปรากฏการณ์ช็อกมินต์ฟีเวอร์ Bonchon เลยจับเอาช็อกมินต์มาทำเป็นซอสไก่ทอดสูตรใหม่ที่จะเสิร์ฟให้บรรดาผู้หลงไหลในมินต์ช็อกได้ไปลองชิมดู ถือเป็นการสร้างเมนูเพื่อเพิ่มสีสันและมิติใหม่ของวงการไก่ทอดได้เป็นอย่างดีสำหรับการต้อนรับวันเมษาหน้าโง่
แน่นอนว่าการเล่นสนุกเพื่อแกล้งกันในวัน April Fool's Day เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำกัน และหลายคนก็มีไอเดียเจ๋งๆ มากมายที่จะมาแกล้งคนรอบตัวของคุณให้สนุกสนานไปด้วยกันในวันเมษาหน้าโง่ แต่อย่างไรก็ตามการจะเล่นมุกหรือแกล้งหลอกกันก็ควรมีขอบเขตด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะตามมา ดังนั้นเรามาดูกันว่า มีข้อควรระวังอะไรบ้างที่เราต้องรู้ ก่อนอำกันเล่นใน April Fool's Day
April Fool's Day หรือ วันเมษาหน้าโง่ เป็นวันโกหกที่ผู้คนในหลายสังคมรับมาจากวัฒนธรรมตะวันตก โดยการนำมาเล่นหรือหยอกล้อกัน มีการโกหกแบบขำๆ ไม่จริงจังเพื่อสร้างสีสันให้ชวนยิ้มได้ในวันที่ 1 เมษายน โดยไม่ว่าจะเป็นบุคคล กลุ่มคน องค์กร สำนักงาน หรือ แบรนด์ต่างๆ ก็พากันงัดเอาไอเดียแปลกใหม่ ออกมาแกล้งหยอกล้อเพื่อความบันเทิงกันทั้งนั้น แต่อย่างที่ได้กล่าวถึงกันไปบ้างแล้วว่าการโกหกหรือการหยอกล้อกันก็ต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม เพื่อไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น แต่หากใครอยากผ่อนคลาย หาที่คลายเครียด ไม่ว่าจะในวันเมษาหน้าโง่ หรือวันไหนๆ THE STREET RATCHADA เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารสุดแสนอร่อย พื้นที่สังสรรค์ ที่พร้อมรองรับและให้บริการ อย่างตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณในทุกๆ วัน รับรองได้เลยว่าดีจริงแบบไม่โกหก!