มวยไทย ศิลปะป้องกันตัวที่ช่วยลดน้ำหนัก เบิร์นไขมันให้กระจาย
ไม่มีกำหนดอายุ

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัวที่ช่วยลดน้ำหนัก เบิร์นไขมันให้กระจาย

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอร์สที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินและเรียกคืนรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม คงจะเคยได้ยินถึงเทรนด์การออกกำลังกายสุดฮิตอย่าง “การต่อยมวยลดน้ำหนัก” ที่ประยุกต์มาจากกีฬาประจำชาติ “มวยไทย” มรดกทางวัฒนธรรมที่ได้ชื่อว่า “นวอาวุธ” จากเอกลักษณ์การใช้ร่างกายทั้ง 9 ส่วน อย่างสองหมัด สองเท้า สองเข่า สองศอกและหนึ่งศีรษะ รวมเป็นอาวุธที่มีอานุภาพในการต่อสู้ โดยในช่วงแรกการฝึกมวยไทยถูกสงวนไว้แก่ชายฉกรรจ์เพื่อใช้ต่อสู้หรือรบในสงครามเพียงเท่านั้น ก่อนจะมีวิวัฒนาการมาเป็นกีฬาบนสังเวียนภายใต้กติกา สำหรับนักชกมืออาชีพทุกคนอย่างในปัจจุบัน นอกจากนี้ การชกมวยไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่ผู้ที่สนใจในศาสตร์ป้องกันตัว แต่ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการต่อยมวยลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะช่วยในการเผาผลาญแคลอรีและให้ความสนุกสนาน ทำให้เป็นที่นิยมทั้งกับชาวไทยและชาวต่างชาติ ในบทความนี้จะช่วยตอบข้อสงสัยว่า การชกมวยไทยช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร เหมาะกับใครบ้าง และผู้ที่อยากเรียนมวยควรเตรียมความพร้อมอย่างไร ไปดูกันเลย


สารบัญ มวยไทย ศิลปะป้องกันตัวช่วยลดน้ำหนัก


 

มวยไทย-ช่วย-ลด-น้ำหนัก

มวยไทยในปัจจุบัน

มวยไทยถือเป็นกีฬาที่อยู่ร่วมในสังคมไทยมาช้านาน ตั้งแต่การแข่งขันมวยโบราณหรือมวยคาดเชือก จนในปัจจุบันมีการสวมนวมระหว่างแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีการดัดแปลงและประยุกต์ศิลปะมวยไทย อย่างเช่น แม่ไม้ ลูกไม้ และการไหว้ครู เพื่อให้เข้ากับบริบททางสังคมและเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก 

  • ศิลปะมวยไทยกับการแสดง (นาฏมวยไทย)

นาฏมวยไทย คือ การแสดงที่นำความแข็งแกร่งและท่วงท่าที่สวยงามของการออกอาวุธแบบมวยไทยมาผสมผสานกับท่วงทำนองการบรรเลงของดนตรีไทยหรือสากล ซึ่งผู้แสดงมักแต่งกายด้วยชุดมวยไทยประยุกต์ อย่างเสื้อกั๊กแขนกุดและโจงกระเบน โดยหยิบยกฉากสำคัญจากตำนานพื้นบ้าน วรรณกรรม หรือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาเล่าเรื่อง เช่น ฉากพรานบุญจับกินรี นอกจากนี้ ก่อนทำการแสดง ยังมีการไหว้ครู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการแข่งขันชกมวยไทยรวมอยู่ด้วย

  • ศิลปะมวยไทยกับสื่อบันเทิง

ศิลปะมวยไทยได้ปรากฎอยู่ในสื่อบันเทิง อย่างภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดังเรื่อง องค์บาก ซึ่งภาคแรกถูกนำไปเปิดแสดงในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต และได้รับการยืนตบมือที่นานที่สุด (The Longest Standing Ovation) ในประวัติศาสตร์ 16 ปีของโปรแกรม Midnight Madness นอกจากนี้ ภาพยนตร์แอนิเมชันซึ่งให้ความเพลิดเพลินกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างเรื่อง 9 ศาสตรา ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท่วงท่าการเคลื่อนไหวและเอกลักษณ์ “นวอาวุธ” ของมวยไทย ยังได้ผลตอบรับในแง่บวกจากชาวต่างชาติอีกด้วย

  • ศิลปะมวยไทยกับการออกกำลังกาย

เนื่องจากมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ต้องเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกาย และได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัยไปทั่วโลก ดังนั้น ในปัจจุบันค่ายมวยและฟิตเนสหลายแหล่งจึงเริ่มมีคอร์สเรียนมวยไทยผู้หญิง หรือคลาสการต่อยมวยลดน้ำหนัก รวมไปถึง การนำท่าลูกไม้หรือแม่ไม้มวยไทยมาใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อออกกำลังกาย เช่น คีตะมวยไทย และ Dance Boxing

 

เรียน-มวยไทย-สำหรับ-ผู้หญิง

การเรียนมวยไทย VS การลดน้ำหนักด้วยมวยไทย

ความแตกต่างระหว่างการเรียนมวยไทยและการลดน้ำหนักด้วยมวยไทย คือ การเรียนมวยไทยจะเน้นการฝึกมวยไทยเพื่อเพิ่มทักษะการป้องกันตัวและการโจมตีคู่ต่อสู้ ซึ่งอาจมีการฝึกวิ่งหรือกระโดดเชือกเพื่อจับจังหวะและเพิ่มขีดจำกัดทางร่างกาย ร่วมกับการสู้ตัวต่อตัวกับผู้สอน ส่วนการต่อยมวยลดน้ำหนักจะมุ่งเน้นการนำท่าทางของมวยไทยหรือจังหวะเท้า (Foot Work) มาใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งคอร์สลดน้ำหนักในแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น การชกมวยประกอบเพลงอย่าง Boxing Dance หรือโปรแกรมออกกำลังกายที่มีทั้งการยกเวทหรือการทำบอดี้เวทควบคู่กับการฝึกมวยไทย เช่น การเตะกระสอบทรายหรือการเตะเป้าล่อ เป็นต้น ดังนั้น จุดที่เหมือนกันของทั้งคู่ คือ การได้เคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนและฝึกสมาธิจากการต่อยหรือเตะ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝึกได้ผ่อนคลายความเครียด เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และได้ร่างกายที่สวยงาม นอกจากนี้ หากเรียนในคลาสที่มีขนาดใหญ่ จะช่วยให้ได้พบปะผู้คนและได้เพื่อนใหม่อีกด้วย 

 

ต่อย-มวย-ช่วย-ลด-น้ำหนัก

การต่อยมวยช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร ?

ในปัจจุบันการต่อยมวยลดน้ำหนักไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่หนุ่ม ๆ เพียงอย่างเดียว แต่สาว ๆ หลายคนเริ่มหาคอร์สเรียนมวยไทยผู้หญิงกันมากขึ้น เพราะมีความสนุกสนาน และช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว โดยการออกกำลังกายด้วยมวยไทยสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 200-400 แคลอรีเลยทีเดียว

  • มวยไทย x Aerobics 

การต่อยมวยแอโรบิก เช่น คีตะมวยไทย หรือ Boxing Dance คือ การนำเอาท่าทางการเคลื่อนไหวของแม่ไม้และลูกไม้มวยไทยมาผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่เน้นการหายใจขณะออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายนำออกซิเจนไปช่วยเผาผลาญ โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมันส่วนเกิน โดยการต่อยมวยแอโรบิกจะมุ่งเน้นที่ความต่อเนื่องมากกว่าความเข้มข้น และใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 20-30 นาที จะมีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเสริมระบบการหายใจ สำหรับใครที่เบื่อการออกกำลังกายแอโรบิกแบบเดิม ๆ อย่างวิ่งหรือเต้นแล้ว การต่อยมวยแอโรบิกน่าจะเป็นตัวเลือกใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด

  • มวยไทย x HIIT 

การต่อยมวยแบบ HIIT หรือ High-Intensity Interval Training คือ การออกกำลังกายอย่างทุ่มเทแรงกายแรงใจในระยะเวลาสั้น และสลับกับการออกแบบเบากว่า โดยจะใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นการเทรนที่หนักมาก เพื่อให้เกิดการเผาพลาญหลังออกกำลังกาย (Exercise Afterburn) ที่จะเกิดขึ้นติดต่อกันได้นานถึง 48 ชั่วโมง ถือเป็นวิธีการต่อยมวยลดน้ำหนักที่ให้ผลเร็วที่สุดก็ว่าได้ เหมาะกับคนที่ใจร้อน หรือคนวัยทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาในการออกกำลังกายมากนัก

 

ต่อยมวย-ลด-น้ำหนัก-แบบ-HIIT

การออกกำลังกายด้วยมวยไทยเหมาะกับทุกคนหรือไม่ ?

การต่อยมวยลดน้ำหนักแบบ HIIT ที่เน้นความคล่องแคล่ว ว่องไว และความหนักหน่วงของการออกกำลังกาย จะไม่เหมาะกับกลุ่มคนที่ปัญหาเรื่องโรคหัวใจ โรคหอบ หรือผู้ที่เว้นว่างจากการเข้าฟิตเนสไปนาน นอกจากนี้ การต่อยมวยยังมีการปะทะหรือการกระแทก ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อร่างกายจึงควรหลีกเลี่ยง แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยโรคดังกล่าว อยากเรียนการต่อยมวยแบบแอโรบิกที่เน้นการเคลื่อนไหวและการหายใจเป็นหลัก อาจขอคำแนะนำหรือปรึกษากับแพทย์ก่อนเริ่มเทรน

 

ต่อยมวย-ลด-น้ำหนัก-สำหรับ-ผู้หญิง

สิ่งที่ควรรู้ก่อนลดน้ำหนักด้วยมวยไทย

เพื่อให้การต่อยมวยลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงป้องกันการบาดเจ็บ ผู้ที่อยากเริ่มเรียนมวยไทยควรรู้ข้อมูล ดังนี้

  • ระยะเวลาที่เหมาะสม

ในการลดน้ำหนักให้เห็นผล จำเป็นต้องอาศัยความต่อเนื่องของกิจกรรมที่ทำ รวมไปถึง ต้องมีระเบียบวินัยในตัวเอง เช่น ต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและคุมอาหารไปควบคู่กัน โดยระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนักด้วยการชกมวย คือ อย่างน้อยครั้งละ 30-60 นาที ซึ่งจำนวนความถี่ของวันที่ออกกำลังกายจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการต่อยมวย โดยแบบแอโรบิกสามารถทำได้ทุกวัน แต่แบบ HIIT ควรทำไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและซ่อมแซมตนเอง รวมถึงเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดตามมา

  • ข้อควรระวังในการต่อยมวยลดน้ำหนัก

เนื่องจากการต่อยมวยเป็นกีฬาที่มีการปะทะและการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยมวยไทย จึงควรฝึกกับค่ายมวยที่มีครูสอนหรือฟิตเนสที่มีเทรนเนอร์คอยดูแล ไม่ควรฝึกด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึง ยังมีคนคอยช่วยจัดโปรแกรมหรือแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้อีกด้วย

 

อุปกรณ์-สำหรับ-ต่อยมวย-ลดน้ำหนัก

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนต่อยมวยลดน้ำหนัก

ก่อนที่จะเริ่มเรียนมวยไทย เราควรจะทำความรู้จักกับอุปกรณ์หรือของที่ควรมี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้น และป้องกันปัญหาระหว่างการเทรน เพราะถ้ามาต่อยมวยแล้วของไม่ครบ นอกจากจะหมดสนุกแล้ว ยังอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางร่างกายอีกด้วย 

  • เสื้อผ้าที่เหมาะสม

ควรสวมเสื้อผ้าที่พอดีตัวแต่ไม่รัดแน่น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว เช่น กางเกงมวยซึ่งออกแบบให้มีขากว้างสำหรับในการเตะ หรือกางเกงวอร์ม รวมไปถึง เนื้อผ้าต้องสามารถระบายอากาศได้ดี เพราะการต่อยมวยเป็นการออกกำลังกายที่เสียเหงื่อเยอะมาก สำหรับสาว ๆ อาจใส่สปอร์ตบรา เพราะช่วยซัพพอร์ตหน้าอกและสามารถระบายเหงื่อได้ดีกว่าบราแบบปกติ นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การเลือกรองเท้าผ้าใบที่มีการรองรับที่ดี เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการยืน การทรงตัว และป้องกันการลื่นล้มหรือการบาดเจ็บที่เท้า

  • อุปกรณ์ที่ใช้ในการชก

อุปกรณ์ที่ใช้ในการชกเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ โดยผ้าพันมือช่วยล็อกไม่ให้ข้อต่อมือที่ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อ กระดูกและกระดูกอ่อนชิ้นเล็ก ๆ ขยับเขยื้อนไปยังตำแหน่งที่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะชกมวย ส่วนนวมใช้เป็นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บทั้งของผู้ชกและคู่ฝึก และสุดท้ายคือแบคชกกระสอบทรายที่มีหน้าตาคล้ายนวม แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้มือเคล็ดหรือถลอก โดยค่ายมวยหรือฟิตเนสมักจะมีอุปกรณ์เหล่านี้ให้อยู่แล้ว แต่ผู้เรียนสามารถเตรียมอุปกรณ์มาเอง เพื่อความรู้สึกคุ้นเคย ความสะดวกสบาย หรือเพื่อสุขอนามัย 

  • อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บทางร่างกาย

ในการหลีกเลี่ยงการปะทะในระหว่างต่อยมวยลดน้ำหนักนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดังนั้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสำหรับมือใหม่ที่ยังเคลื่อนไหวไม่แม่นยำ อาจใส่เครื่องป้องกัน เช่น แองเกิลหรือปลอกรัดข้อเท้า ซึ่งมีหน้าตาคล้ายถุงเท้าที่เปิดช่วงส้น เพื่อป้องกันข้อเท้าเคล็ดเวลาเตะกระสอบทรายหรือเตะเป้าล่อ หรือสวมสนับแข้งเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของหน้าแข้ง

 

ต่อยมวย-ลดน้ำหนัก-ช่วย-ให้-หุ่นดี

คุณจะได้อะไรบ้างจากการเรียนมวยไทย ?

ในปัจจุบัน สาว ๆ หันมาให้ความสนใจเทรนด์การต่อยมวยลดน้ำหนักมากขึ้น เพราะมีความสนุกสนาน และช่วยให้สามารถเบิร์นไขมันและแคลอรีได้ในระยะเวลาอันสั้น ในส่วนนี้จะกล่าวถึงประโยชน์จากการชกมวย เริ่มเรียนมวยไทยผู้หญิงและผู้ชายได้อะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

  • รูปร่างที่สวยงาม

การต่อยมวยจะทำให้ได้เคลื่อนไหวร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ช่วยให้ลดน้ำหนักและร่างกายกระชับ โดยที่สาว ๆ ไม่ต้องกังวลว่าแขนจะโตเป็นกล้ามปู นอกจากนี้ การต่อยมวยยังใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่ออกอาวุธ ซึ่งช่วยให้ได้หน้าท้องแบนราบและเห็นกล้ามท้องชัดเจนขึ้น

  • ปรับบุคลิกภาพ

เนื่องจากการต่อยมวยจะฝึกให้สมองและร่างกายทำงานประสานกัน ไม่ว่าจะเป็นสายตา มือและเท้าในการชกหรือเตะเป้าล่อและกระสอบทราย ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมวยไทยมีความคล่องแคล่ว และมั่นใจในทุกอิริยาบถ ช่วยเสริมให้บุคลิกมีความสง่างามมากขึ้น

  • เพิ่มขีดจำกัดของร่างกาย

การต่อยมวยลดน้ำหนัก โดยเฉพาะแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่เข้มข้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดทางร่างกายอย่างปลอดภัย เพราะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายในทิศทางที่เป็นไปตามธรรมชาติ เพียงแค่เพิ่มความเร็วขึ้น

  • ฝึกสมาธิ

ในการต่อยมวย ผู้ฝึกต้องจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การออกหมัดเพื่อต่อยกระสอบทรายหรือจังหวะการขยับเท้า (Foot work) ในการเคลื่อนที่ ดังนั้น การต่อยมวยจะช่วยเพิ่มสมาธิให้มากขึ้น

  • ผ่อนคลายความเครียด

การต่อยมวยช่วยระบายความเครียดและความคับข้องใจที่ทุกคนพบเจอมา อย่างเช่น งานมีปัญหา หรือทะเลาะกับคุณแฟน นอกจากนี้ ในการออกกำลังกายจะช่วยหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

  • ศาสตร์การป้องกันตัว

ในการเรียนมวยไทยผู้หญิงและผู้ชายจะได้ฝึกร่างกายในการใช้ศิลปะการต่อสู้ อย่างการออกหมัด การใช้ศอกหรือการเตะ รวมไปถึง ท่ายืนหรือการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สามารถเอาตัวรอดหรือป้องกันตัวในสถานการณ์คับขันได้ 

  • พบปะเพื่อนใหม่

การเข้าคลาสต่อยมวยลดน้ำหนัก หรือการออกกำลังกายแอโรบิกด้วยท่ามวย จะเพิ่มโอกาสในการพบปะคนที่มีความสนใจเหมือนกัน ซึ่งจะช่วยให้ได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น

 

การ-เตรียมตัว-ก่อน-ต่อยมวย-ลดน้ำหนัก

ก่อนต่อยมวยลดน้ำหนักควรทำอะไรบ้าง ?

เพื่อให้การลดน้ำหนักและการออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึง ป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อร่างกาย แนวทางที่ทุกคนควรเตรียมความพร้อมก่อนต่อยมวยลดน้ำหนักมีดังนี้

  • ทำแผนการออกกำลังกาย (Exercise Planner)

ก่อนเริ่มต่อยมวยลดน้ำหนัก ควรวางแผน เพื่อเป็นการกำหนดโปรแกรมและเป้าหมายของการออกกำลังกายในวันนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถประเมินร่างกายตนเองและเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน

  • อาหารที่ควรรับประทาน

ถ้าไม่กินอะไรมาก่อนการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้รูัสึกหิวจนไม่สามารถบรรลุตามโปรแกรมที่ตั้งไว้แล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น ควรรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ได้รับพลังงานที่เพียงพอและป้องกันการย่อยสลายของเนื้อเยื่อ รวมไปถึง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะให้แคลอรีที่มากเกินไปและย่อยช้า ซึ่งจะทำให้ร่างกายเอื่อยเฉื่อย โดยควรรับประทานอาหารย่อยง่ายอย่างกล้วย โยเกิร์ต หรือไข่ต้ม ก่อนการออกกำลังกายอย่างน้อย 30-60 นาที

  • อบอุ่นร่างกาย (Warm up)

การอบอุ่นร่างกายจะช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการต่อยมวยที่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อป้องกันการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ ซึ่งควรเริ่มจากการขยับตัวอย่างช้า ๆ และเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น โดยการอบอุ่นร่างกายมีหลักการคือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อ  ข้อต่อ เส้นเอ็นเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการใช้งาน ทั้งนี้

  • ยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching) คือ การทำให้เส้นใยกล้ามเนื้อและเอ็นข้อต่อได้ยืดเหยียดให้มีความยาวและมุมกว้างกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง เป็นการป้องกันการฉีกขาดและการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อในระหว่างการออกกำลังกาย

 

ป้องกัน-การ-บาดเจ็บ-จาก-ต่อยมวย-ลดน้ำหนัก

ควรทำอย่างไรไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและป้องกันการบาดเจ็บหลังต่อยมวยไทย ?

การลดน้ำหนักให้เห็นผลนั้น การปฏิบัติตัวหลังการออกกำลังกายก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หลังจากที่ต่อยมวยเสร็จแล้ว แนวทางการดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและพร้อมกลับมาทำตามโปแกรมที่วางไว้ในครั้งต่อไป รวมไปถึง ช่วยให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

  • ลดระดับการออกกำลังกาย (Cool Down)

การลดระดับการออกกำลังกาย คือ การเคลื่อนไหวร่างกายให้ช้าลง เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหัวใจที่เต้นเร็ว หรือการหายใจที่ถี่ รวมไปถึงอุณภูมิที่สูงในระหว่างกายต่อยมวย กลับลงมาสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เลือดสามารถลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อสลายกรดแลกติก (Lactic Acid) ที่เกิดขึ้นขณะออกกำลังกายและสะสมในกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเมื่อยล้าหรือการเกิดตะคริวได้

  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังการต่อยมวยไทยมีขึ้นเพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึงได้ผ่อนคลายลง ป้องกันความรู้สึกเจ็บหรือปวดตึงหลังจากออกกำลังกาย รวมไปถึง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อในการออกกำลังกายครั้งต่อไปให้มากขึ้น โดยมีหลักการ คือ การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อให้น้อยลงไปสู่การยืดเหยียดกล้ามเนื้อในลักษณะหยุดนิ่ง ซึ่งมักจะทำการผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่วมกับการลดระดับการออกกำลังกาย (Cool Down) 

  • ดื่มน้ำให้พอเหมาะ

เนื่องจากเคลื่อนไหวติดต่อกันอย่างการออกอาวุธหมัด เท้า เข่า และศอกจะทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้สูญเสียน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โซเดียม ดังนั้น ในระหว่างที่ออกกำลังกายควรมีการจิบน้ำเป็นระยะ แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไปจนรู้สึกจุกเสียด นอกจากนี้ เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือแร่เพื่อเป็นการชดเชยน้ำหรือแร่ธาตุที่หายไป

  • รับประทานอาหารที่เหมาะสม

เมื่อต่อยมวยเสร็จแล้ว ควรรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เพราะนอกจากจะให้พลังงานแล้ว โปรตีนยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมไปถึงซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดระหว่างออกกำลังกายอีกด้วย ส่วนคาร์โบไฮเดรตจะช่วยเติมความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าให้แก่ร่างกายได้

  • บันทึกติดตามผลการออกกำลังกาย (Fitness Tracker)

การบันทึกติดตามผลจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์จากการออกกำลังกายชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ ยังช่วยในการประเมินหรือการวางแผนการออกกำลังกายครั้งต่อไป เพื่อเพิ่มให้การต่อยมวยลดน้ำหนักสัมฤทธิ์ผลเร็วขึ้นอีกด้วย

  • ทำความสะอาดร่างกาย

เนื่องจากการต่อยมวยลดน้ำหนักทำให้เหงื่อท่วมตัว ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกอับชื่น ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ สระผม และการเปลี่ยนเสื้อผ้า จะช่วยเรียกคืนความสดชื่นและความผ่อนคลาย รวมไปถึง ช่วยกำจัดแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคทางผิวหนังอีกด้วย

 

อาการ-บาดเจ็บ-พร้อม-วิธี-ปฐมพยาบาล-จาก-การ-ต่อยมวย

อาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ พร้อมวิธีปฐมพยาบาล

เนื่องจากการต่อยมวยลดน้ำหนัก เป็นการออกกำลังกายที่ก่อให้เกิดการปะทะหรือการกระแทก รวมไปถึง ต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นกับร่างกายได้ ดังนั้น การศึกษาแนวทางการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจะช่วยให้สามารถดูแลตนเองหากเกิดการบาดเจ็บ และกลับมาออกกำลังกายเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายได้อีกครั้ง 

  • อาการบาดเจ็บ

การเตรียมความพร้อมของร่างกายไม่เพียงพอก่อนการต่อยมวยไทย หรือการเคลื่อนไหวในท่าทางที่ไม่ถูกต้องระหว่างการออกกำลังกาย อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นได้ เช่น ข้อเท้าเคล็ดหรือข้อเท้าพลิกจากการลงน้ำหนักไม่ถูกต้อง หรือเจ็บเส้นเอ็นจากการยืดเหยียดขามากเกินไป เป็นต้น

  • การปฐมพยาบาล

เมื่อรู้สึกเจ็บกระทันหันควรหยุดพัก และใช้ความเย็นจากเจลความเย็น ผ้าขนหนูเย็นหรือน้ำแข็งประคบในจุดที่บาดเจ็บหรือมีการบวม รวมไปถึง ควรยกบริเวณที่บวมให้สูง เช่น การรองหมอนใต้ขาหรือเข่า เพื่อไม่ให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณที่เกิดการอักเสบเยอะ ซึ่งจะช่วยลดการบวมและบรรเทาอาการปวดได้ นอกจากนี้ หากมีอาการบาดเจ็บไม่ควรฝืนออกกำลังกายต่อ ควรพักจนกว่าจะหายดีหรือควรไปปรึกษาแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้น

หลังจากที่รู้ถึงประโยชน์ของการต่อยมวยลดน้ำหนักกันไปแล้ว หลายคนคงอยากจะลุกขึ้นมาฟิตออกกำลังกายเพื่อรูปร่างที่สวยงาม หากหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนที่อยากจะเริ่มเป็นมือใหม่หัดชกมวยไทย ควรจะไปฝึกที่ค่ายมวยหรือยิมที่มีครูมวยและเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่สอนมวยที่ตอบโจทย์และเดินทางสะดวกสามารถมาได้ที่ MTM Academy ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา Activity Center ใจกลางย่านรัชดา ที่ให้คุณได้ออกกำลังกายและทำกิจกรรมอย่างหลากหลาย ครบครัน พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 

 

แหล่งข้อมูล

https://mtm-academy.com/blog/how-hiit-and-muaythai-help-you-burn-faster

https://bit.ly/3mwODjj

https://bit.ly/3mgjoZS

https://bit.ly/3kSXTyF

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

Related