The Street Shared: รวม 20 วิธีการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน ถ้าอยากดูดี สุขภาพกายและสุขภาพจิตต้องแข็งแรง ห้ามพลาดกับการดูแลตัวเองที่บทความนี้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว รวม 20 วิธีการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
ไม่มีกำหนดอายุ

รวม 20 วิธีการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

การดูแลตัวเองให้ดี โดยใส่ใจกับสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากสุขภาพแข็งแรงรอบด้านต้องไม่พลาดกับ 20 วิธีดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกที่บทความนี้รวบรวมมาให้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย


สารบัญ รวม 20 วิธีการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

การดูแลตัวเอง สำคัญอย่างไร

การดูแลตัวเอง สำคัญอย่างไร

ทางองค์การอนามัยโลกนิยาม “การดูแลตัวเอง” ไว้ว่า การที่บุคคล คนในครอบครัว และชุมชน ส่งเสริมสุขภาพ รักษาสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมรับมือกับความเจ็บป่วย และรับมือกับอาการพิการ ทั้งในกรณีที่มี หรือไม่มีผู้ให้บริการด้านสุขภาพเข้ามาดูแล

หรือกล่าวง่ายๆ ว่าการดูแลตัวเองหมายถึงการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งทางกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องทุกวัน ทั้งด้วยตนเอง และผู้อื่นเข้ามาทำให้

การดูแลตัวเอง 4 ด้าน มีอะไรบ้าง

การดูแลตัวเองควรทำให้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การดูแลสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ การดูแลจิตวิญญาณ และการดูแลสุขภาวะทางสังคม ซึ่งสามารถดูแลตัวเองเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ดังนี้

การดูแลสุขภาพกาย (Physical Self-Care)

การดูแลสุขภาพกาย (Physical Self-Care)

การดูแลสุขภาพกาย คือการปฎิบัติหรือทำกิจกรรมต่างๆ โดยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ และควรดูแลสุขภาพกายอยู่สม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ซึ่งสามารถทำตามวิธีดูแลตัวเองเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายได้ดังนี้

1. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นการดูแลตัวเองที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคมะเร็งบางชนิด เป็นต้น ช่วยเพิ่มพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ หากเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์แต่แคลอรีต่ำ

โดยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำได้โดยเลือกทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เลือกแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ อย่างปลา ถั่ว รวมไปถึงเลือกทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และหลีกเลี่ยงทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง 

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน

การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ไม่ควรละเลย เพราะน้ำช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ป้องกันการขาดน้ำ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ความเหนื่อยล้า การปวดศีรษะ นิ่วในไต ท้องผูก และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงช่วยดูแลผม ผิว เล็บให้สุขภาพดีได้อีกด้วย 

ในแต่ละวันควรดื่มน้ำ 8-12 แก้ว หากกลัวลืมดื่มน้ำสามารถตั้งเตือนในโทรศัพท์มือถือได้ เพื่อเป็นการเตือนให้ตัวเองดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน วิธีนี้จะช่วยให้ดื่มน้ำได้ตามที่ร่างกายต้องการ 

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

จุดเริ่มต้นของสุขภาพกายที่ดีมักมาจากการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งเป็นวิธีการดูแลตัวเองที่หลายคนมองข้าม โดยการพักผ่อนให้เพียงพอเป็นการดูแลตัวเองและรักษาสุขภาพโดยรวม ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย โดยการพักผ่อนจะช่วยควบคุมฮอร์โมนความอยากอาหาร รวมถึงระบบเผาผลาญ จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้ และในงานวิจัยยังระบุไว้ว่าการนอนหลับจะช่วยให้มีความจำ การตัดสินใจ และการเรียนรู้ได้ดีกว่าคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ 

4. เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย

การเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นการดูแลตัวเองที่ช่วยให้สุขภาพกายแข็งแรงโดยการออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ทำให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดี นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย อย่างการเพิ่มกล้ามเนื้อ กระดูกแข็งแรงขึ้น หรือใครที่อยากดูแลรูปร่าง การออกกำลังกายก็ช่วยลดไขมันได้ สามารถเริ่มต้นออกกำลังกายได้ง่ายๆ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาที่ชอบ

5. อาบน้ำทุกวัน

การอาบน้ำเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ควรทำทุกวัน เพราะช่วยรักษาความสะอาดของร่างกาย ลดการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อและโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า การอาบน้ำอย่างถูกวิธีควรใช้สบู่และน้ำอุ่น ล้างทุกส่วนของร่างกายอย่างทั่วถึงและเช็ดตัวให้แห้งหลังจากอาบน้ำเสร็จ

การดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ (Mental and Emotional Self-Care)

การดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ (Mental and Emotional Self-Care)

การดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์สำคัญเพราะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสามารถในการจัดการกับความเครียด ความท้าทาย และปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้สุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ดีขึ้น สามารถทำได้ดังนี้

1. รับรู้สุขภาพจิตของตัวเอง

การรับรู้สุขภาพจิตของตัวเองสำคัญเพราะมีส่วนช่วยให้สามารถจัดการกับความเครียดและปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจสัญญาณของความเครียดหรือความเหนื่อยล้าจะช่วยให้ดูแลตัวเองได้ทันเวลา เช่น การพักผ่อนหรือหากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย

โดยวิธีการรับรู้สุขภาพจิตคือการให้เวลาตัวเองเพื่อสังเกตอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองในแต่ละวัน แล้วเขียนบันทึกทั้งอารมณ์และความรู้สึก จะได้รับรู้สุขภาพจิตของตัวเองได้อย่างชัดเจนขึ้น

2. เรียนรู้การยอมรับตัวเอง

การเรียนรู้การยอมรับตัวเองคือการดูแลตัวเองที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสุขในชีวิต เพราะการยอมรับข้อดีและข้อเสียของตัวเองทำให้สามารถพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งทำได้โดยยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แต่ก็ต้องอภัยให้กับความผิดพลาดของตัวเองด้วย หากตัวเองทำสิ่งต่างๆ ได้ดีก็ภูมิใจในตัวเอง รวมถึงฟังความคิดเห็นในเชิงบวกจากคนรอบข้าง เพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้น

3. ทำสมาธิเป็นประจำ

วิธีการดูแลตัวเองที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากอีกอย่างคือการทำสมาธิเป็นประจำ เพราะการทำสมาธิจะทำให้ลดความเครียด เพิ่มสมาธิ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยบอกว่าการทำสมาธิช่วยให้มีความสามารถในการเรียนรู้ การจดจำ การไตร่ตรอง และการควบคุมอารมณ์ จึงช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตให้แข็งแรง ซึ่งสามารถทำได้โดยหาสถานที่ และเวลาที่มีความเงียบสงบ แล้วนั่งในท่านั่งสบายๆ ฝึกการหายใจเข้า-ออกช้าๆ เป็นการทำให้ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น 

4. ฝึกตั้งสติ

การมีสติเหมือนเป็นคำพูดธรรมดาที่ได้ยินอยู่เสมอ แต่บางสถานการณ์เราก็ไม่สามารถตั้งสติเพื่อดูแลตัวเองได้ดีเท่าที่ควร จึงควรมีการฝึกตั้งสติ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด และเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกสติที่ง่ายที่สุดคือการอยู่ปัจจุบุน รับรู้ถึงความรู้สึก อารมณ์ และสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ รวมถึงการกำหนดลมหายใจเข้า-ออกก็ถือเป็นการฝึกสติที่ดีเช่นกัน

5. แบ่งเวลาไปอยู่กับธรรมชาติ

หลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง รายล้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่ทำให้จิตใจไม่สงบ การแบ่งเวลาไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง ถือเป็นวิธีดูแลตัวเองที่สามารถเสริมสร้างสุขภาพจิต จะทำให้เพิ่มความรู้สึกสงบได้ง่ายๆ ใครที่มีเรื่องในหัวเยอะก็สามารถช่วยลดความเครียดได้

หากใครอยากอยู่กับธรรมชาติแต่ไม่มีเวลาก็สามารถไปเดินเล่นในสวนสาธารณะเพื่อสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ตัวได้ แต่หากใครมีเวลาก็ลองจัดทริปไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด อย่างโซนจังหวัดที่มีภูเขาหรือทะเล ห่างไกลจากเมืองที่วุ่นวายเพื่อให้ธรรมชาติได้โอบล้อมทั้งกายและใจ 

การดูแลจิตวิญญาณ (Spiritual Self-Care)

การดูแลจิตวิญญาณ (Spiritual Self-Care)

ผ่านไปแล้วกับ 10 วิธีดูแลตัวเอง ในด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ มาต่อกันที่การดูแลจิตวิญญาณซึ่งหมายถึงการเชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงของเรา เป็นการดูแลตัวเองที่ช่วยเพิ่มความสงบในใจ ลดความเครียด ปรับปรุงความสัมพันธ์ และทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งสามารถดูแลจิตวิญญาณเป็นประจำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1. ฝึกเล่นโยคะ

การฝึกเล่นโยคะเป็นการดูแลตัวเองที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและจิตใจ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดความเครียด และสร้างสมดุลในชีวิต เริ่มต้นการฝึกโยคะได้ง่ายๆ จากท่าผ่อนคลายลำตัว โดยการนั่งตัวตรงบนพื้น จากนั้นยืดแขนทั้งสองข้างไปด้านบน แล้วค่อยๆ ก้มตัวลงให้มือแตะเท้าหรือพื้นได้ โดยที่แขนเหยียดตรงตลอดเวลาที่ทำโยคะท่านี้ ระหว่างทำให้ฝึกลมหายใจเข้า-ออกไปด้วย ควรทำโยคะอย่างน้อยวันละ 10-15 นาที

2. ฝึกเคลื่อนไหวอย่างมีสติ

การฝึกการเคลื่อนไหวอย่างมีสติหรือเดินอย่างมีสติ เป็นการเคลื่อนไหวที่เน้นการอยู่กับปัจจุบัน ให้ร่างกายได้รู้สึกถึงการหายใจและการสัมผัสของเท้ากับพื้น เป็นวิธีดูแลตัวเองที่ช่วยให้ใจสงบ ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี การฝึกเคลื่อนไหวอย่างมีสติทำได้โดยการเดินช้าๆ ให้ความสำคัญกับการหายใจ เข้าและออก สังเกตความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละก้าว

3. เขียนไดอารี

การเขียนไดอารีคือวิธีการดูแลตัวเองที่ช่วยให้เราได้สะท้อนความคิดและความรู้สึก เพิ่มการตระหนักรู้ในตนเองและช่วยจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น การเริ่มเขียนไดอารีทำได้ง่ายๆ โดยหาเวลาให้กับตัวเองในแต่ละวันเพื่อเขียนสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความรู้สึก หรือความคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น

4. ลดการใช้เวลาในโลกออนไลน์

สมาร์ตโฟน ทำให้หลายคนใช้เวลาในโลกออนไลน์มากกว่าใช้เวลาในชีวิตจริงกับคนรอบตัว และในบางครั้งสิ่งที่เจอในโลกออนไลน์ก็ทำให้เกิดความเครียดขึ้นได้ ดังนั้นการดูแลตัวเองโดยลดการใช้เวลาในโลกออนไลน์จึงช่วยลดความเครียด ปรับสมดุลชีวิต เข้าใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี

การลดการใช้เวลาในโลกออนไลน์ ทำได้โดยการจำกัดเวลาใช้สื่อสังคมออนไลน์ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีในช่วงเวลาส่วนตัว และสร้างกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพื่อผ่อนคลายและเพิ่มความสุขในชีวิต

5. ฝึกให้อภัยผู้อื่น

การฝึกให้อภัยผู้อื่นก็ถือเป็นวิธีดูแลตัวเองอย่างหนึ่งเพราะช่วยปลดปล่อยความโกรธและความเกลียดชังต่อผู้อื่น ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี ทำได้โดยการยอมรับความรู้สึกของตัวเอง แสดงความเข้าใจต่อความผิดพลาดของผู้อื่น และเลือกที่จะปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการอยู่กับปัจจุบัน เพื่อยอมรับว่านอกจากความสุขแล้วความเจ็บปวดจากความโกรธ ความเกลียดชังก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความสมดุลในจิตวิญญาณ

การดูแลสุขภาวะทางสังคม (Social Self-Care)

การดูแลสุขภาวะทางสังคม (Social Self-Care)

การดูแลสุขภาวะทางสังคม คือการที่เราจัดสรรเวลาและพลังงานในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ซึ่งเป็นวิธีดูแลตัวเองที่มีผลดีต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ของเรา โดยการดูแลสุขภาวะทางสังคมสามารถทำได้โดยการพูดคุยและสื่อสารกับคนรอบตัวได้ง่ายๆ ดังนี้

1. นัดพบปะเพื่อนๆ

การนัดพบปะเพื่อนเป็นวิธีการดูแลตัวเองที่ดีในการเสริมสร้างสุขภาวะทางสังคมเพราะช่วยสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนให้แข็งแรงขึ้น ช่วยลดความเครียดได้จากการใช้เวลาที่ดีร่วมกันกับเพื่อน รวมทั้งยังทำให้สุขภาพจิตดีจากการมีความสัมพันธ์ที่ดี

ซึ่งการนัดพบปะเพื่อนทำได้โดยการนัดหมายวัน เวลาและสถานที่ให้เหมาะสมกับทุกคน แล้วค่อยเลือกกิจกรรมที่มีความสนใจร่วมกันหรือคิดว่าทำแล้วสนุกสนาน เช่น การทานข้าว ดูหนัง เล่นเกม เป็นต้น หากมีการพูดคุยกันก็ควรคุยกันด้วยความจริงใจ พร้อมเปิดใจคุยกันทั้งเรื่องดีและไม่ดี ควรนัดพบปะกับเพื่อนบ่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ให้อยู่ต่อไปเรื่อยๆ

2. มีวันให้ตัวเองได้สังสรรค์

การมีวันให้ตัวเองได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน และครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลตัวเอง  เพราะการได้พบปะกับคนที่เรารักและไว้วางใจจะช่วยลดความเครียด เพิ่มความสุข และสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่น นอกจากนี้การสังสรรค์ยังช่วยให้เรามีโอกาสทำให้เราได้รู้จักกับคนใหม่ๆ หรือเพื่อนใหม่ๆ ได้เหมือนกัน

สำหรับการสังสรรค์ทำได้โดยนัดวันและเวลาล่วงหน้ากับเพื่อนหรือครอบครัว เลือกสถานที่ กิจกรรมที่ทุกคนชอบและสนใจเหมือนกัน หากไปสังสรรค์คนเดียวก็เลือกสถานที่ กิจกรรมที่ตัวเองชอบเองได้เลย และเพื่อให้ทำความรู้จักกับคนอื่นได้ง่ายขึ้นก็ควรเป็นตัวเอง ให้ความสำคัญกับความสุข สนุกสนานก็เพียงพอแล้ว 

3. ใส่ใจคนรอบตัวอยู่เสมอ

การใส่ใจคนรอบข้างเป็นส่วนหนึ่งของวิธีดูแลตัวเองในด้านสุขภาวะทางสังคมที่สำคัญ โดยการให้ความสนใจและสนับสนุนคนที่อยู่รอบตัวเราสามารถทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีความสุขมากขึ้น การใส่ใจคนรอบข้างยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

สามารถทำได้โดยการรับฟังเรื่องราว และปัญหาของคนรอบข้าง หากมีใครต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ หากเราสามารถช่วยเหลือได้ก็ควรทำอย่างไม่ลังเล ไม่ลืมที่จะขอบคุณในทุกเรื่องที่คนรอบข้างทำให้ รวมไปถึงการชื่นชมให้กับความพยายามและความสำเร็จของคนรอบข้าง

4. ออกไปทำงานนอกบ้านบ้าง

ปัจจุบันหลายงานสามารถทำจากสถานที่ไหนก็ได้ จึงทำให้หลายคนเลือกทำงานที่บ้าน แต่การดูแลตัวเองเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางสังคมที่ดีอย่างหนึ่ง คือการออกไปทำงานข้างนอกบ้าน เพราะการออกไปทำงานนอกบ้านจะช่วยให้เราได้พบกับคนใหม่ๆ ช่วยให้เราได้สร้างความสัมพันธ์หรือมีความเชื่องโยงในสิ่งที่สนใจเหมือนกันได้ ในบางครั้งก็ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ รวมถึงยังได้เปลี่ยนบรรยากาศ ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งสามารถเลือกทำงานนอกบ้านได้ที่คาเฟ่ Co-working Space ห้องสมุด หรือไปเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อให้ได้ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนที่บ้าน

5. รีวิวความสัมพันธ์อยู่เสมอ

สุดท้ายของวิธีดูแลตัวเองคือการรีวิวและปรับปรุงความสัมพันธ์อยู่เสมอช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อกัน ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์มีความสมดุล รวมถึงยังทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะพื้นฐานของความสัมพันธ์คือการรับรู้และเข้าใจในความรู้สึกของทั้งตัวเองกับคนรอบตัว สามารถทำได้โดยการพูดคุยและสื่อสารถึงความรู้สึก ความต้องการอย่างชัดเจน 

สรุป

การดูแลตัวเองมี 4 ด้าน ได้แก่ การดูแลสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพอารมณ์ การดูแลจิตวิญญาณ และการดูแลสุขภาวะทางสังคม ทำได้โดยการดูแลสุขภาพตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกอย่างเป็นประจำทุกวัน เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง และการใส่ใจคนรอบข้าง เป็นต้น เพื่อช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และไม่เครียด โดยหลักสำคัญในการดูแลตัวเองคือการสร้างความสุข

สามารถหาความสุขได้ง่ายๆ ที่ THE STREET RATCHADA ไม่ว่าจะเป็นการเดินช็อปปิงซื้อของที่ตัวเองชอบหรือสนใจ การทานอาหารอร่อยๆ ที่มีประโยชน์กับเพื่อนหรือครอบครัว ไปจนถึงการทำกิจกรรมสนุกสนานร่วมกันกับเพื่อน คนรู้ใจ หรือคนในครอบครัวก็ได้เช่นกัน

Related