The Street Share: อยากมีผิวเนียนนุ่ม อิ่มน้ำ? มาดูเคล็ดลับการบำรุงผิวแห้งให้กลับมามีชีวิตชีวา ด้วย 7 วิธีดูแลผิวให้ชุ่มชื้นในอากาศเย็น ป้องกันผิวแห้งแตกในหน้าหนาว 7 วิธีบำรุงผิวแห้งให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น พร้อมหยุดผิวแห้งแตกในหน้าหนาว!
ไม่มีกำหนดอายุ

7 วิธีบำรุงผิวแห้งให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น พร้อมหยุดผิวแห้งแตกในหน้าหนาว!

Key Takeaway

  • อากาศที่เย็น และความแห้งในอากาศในช่วงหน้าหนาวทำให้หลายๆ คนต้องเผชิญกับปัญหาผิวแห้งแตก ดังนั้นผิวของเราจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาวนี้
  • การดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวอาจเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรา เช่นการอาบน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือการหันมาทานผักผลไม้ที่มีวิตามินต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิวแห้ง
  • การบำรุงผิวแห้งช่วงหน้าหนาวโดยการทาสกินแคร์และโลชั่นทาผิวหน้าหนาวเป็นตัวช่วยที่ดีในการกูคืนปัญหาผิวแห้ง จะช่วยทำให้ผิวพรรณของเราดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ ชุ่มชื้น 
  • ในช่วงหน้าหนาวหลายๆ คนรู้สึกว่าแค่ดูแลตัวเองโดยการทาสกินแคร์และครีมอาจไม่เพียงพอ การเลือกคลินิกและใช้หัตถการทางการแพทย์ก็เป็นทางเลือกในการบำรุงผิวแห้งที่น่าสนใจ ซึ่งที่ The Street Ratchada มีคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานมากมายให้เราไปใช้บริการได้ง่ายๆ และสะดวกสุดๆ 

การดูแลรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และอิ่มน้ำ เป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามานี้ยิ่งต้องบำรุงกันเป็นพิเศษ! เรามาดูเคล็ดลับการบำรุงผิวแห้งให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวากันด้วย 7 วิธีดูแลผิวให้ชุ่มชื่นแม้ในช่วงอากาศเย็น เพื่อช่วยป้องกันผิวแห้งในช่วงหน้าหนาวกัน!

7 วิธีบำรุงผิวแห้งให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น พร้อมหยุดผิวแห้งแตกในหน้าหนาว!


 

หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ หรือล้างหน้าด้วยร้อนจัด

1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ หรือล้างหน้าด้วยร้อนจัด

การอาบน้ำร้อนอาจดูเหมือนจะช่วยให้ผ่อนคลาย แต่กลับเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแห้งกร้านและแตกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำร้อนจะชะล้างน้ำมันธรรมชาติที่ปกป้องผิว ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้น รวมถึงทำให้รูขุมขนเปิดกว้างและเร่งการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย เพื่อผิวสุขภาพดี ควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่อุณหภูมิพอดี และจำกัดเวลาในการอาบน้ำให้สั้นลง 
 

เลือกใช้สกินแคร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้น

2. เลือกใช้สกินแคร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้น

การบำรุงผิวแห้งที่บริเวณใบหน้าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เรามาดูกันว่ามีตัวช่วยสกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวหน้าหนาวอะไรบ้าง ที่เราควรจะใช้ดูแลผิวในหน้าหนาวให้กลับมามีสุขภาพดีดูอิ่มเอม เปล่งปลั่ง 

  • โทนเนอร์ การเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยการใช้โทนเนอร์ประเภทน้ำจะทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน และเก็บน้ำพร้อมความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี ซึ่งโทนเนอร์ที่เลือกใช้ควรมีส่วนประกอบอย่าง Hyaluronic Acid, Panthenol, Glycerin และ Allantion เป็นต้น 
  • เซรั่ม หลังจากที่ใช้โทนเนอร์กันไปแล้วอีกตัวช่วยที่จะช่วยล็อกความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดีขึ้นคือการใช้เซรั่ม ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid หรือ Ceramides ที่เป็นส่วนผสมที่สำคัญในการบำรุงผิวแห้ง
  • มอยส์เชอไรเซอร์ คือสิ่งที่จะช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวดูแข็งแรง มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอๆ และทำให้ผิวเต่งตึง ไร้ริ้วรอยดูสุขภาพดี ซึ่งมอยซ์เชอร์ไรเซอร์เป็นไอเท็มที่พลาดไม่ได้เลยในการดูแลผิวหน้าหนาว
  • ใช้ครีมบำรุงพิเศษตอนกลางคืน ในช่วงกลางคืนก่อนนอน การได้บำรุงผิวด้วยไนท์ครีม หรือสลีปปิ้งมาสก์ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่น และไม่ทำให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งจะช่วยฟื้นฟูผิวที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันให้กลับมาดูเปล่งปลั่งและสดใสในยามเช้า 
  • มาสก์หน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง การมาส์กหน้าเป็นวิธีที่ได้ผลดีมากๆ ในการรักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และทำให้ผิวดูเนียนนุ่มมากๆ โดยการมาสก์หน้าควรมาสก์อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือหากต้องการมาสก์หน้าในทุกๆ วันก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสำหรับการดูแลผิว 7 วัน ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะยิ่งช่วยเสริมให้ผิวดูแข็งแรงและบำรุงผิวแห้งได้เป็นอย่างดี 

ทาครีมกันแดดทุกวัน

3. ทาครีมกันแดดทุกวัน

แม้ว่าในหน้าหนาวจะมีอากาศที่เย็นขึ้น แต่แสงแดดก็ยังเป็นสิ่งที่ควรระวังไม่ต่างจากช่วงอื่นๆ เลย เนื่องจากแสงแดดจะทำลายความชุ่มชื้นของผิว และยิ่งทำให้ผิวของเราแห้งกร้านเข้าไปใหญ่ ดังนั้นการทาครีมกันแดดก็จะช่วยป้องกันผิวเราจากแสงแดดและทำให้ผิวไม่ขาดความชุ่มชื้น การเลือกครีมกันแดดควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปเจอแสงแดดประมาณ 15 นาที และเลือกแบบที่มี SPF 30+ ขึ้นไป ในระหว่างวันก็ควรจะทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันผิวที่จะช่วยดูแลผิวในหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี
 

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ตาม แม้ในวันที่อากาศเย็นสบาย เราอาจรู้สึกกระหายน้ำน้อยลง แต่ร่างกายยังคงต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ และคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิวพรรณ ซึ่งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่ง แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้านได้อีกด้วย แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ
 

ทานผักและผลไม้ที่มีน้ำสูง

5. ทานผักและผลไม้ที่มีน้ำสูง

หากใครรู้สึกว่าการบำรุงผิวแห้งด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โลชั่น ครีม นั้นยังไม่เพียงพอหรืออาจจำเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนในการบำรุงผิวในทุกๆ วัน อีกหนึ่งวิธีที่ดีในการบำรุงผิวแห้งคือการเลือกรับประทานผักและผลไม้เป็นตัวช่วยในการดูแลผิวในหน้าหนาว เพราะผักและผลไม้หลายๆ ชนิดสามารถคืนความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูสวย และยังเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ โดยผักและผลไม้ที่ดีต่อการดูแลผิวหน้าหนาว มีดังนี้ 

  • ผักและผลไม้ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นสำหรับผิวขาดน้ำ ได้แก่ แตงโม ส้ม พีช กล้วย ผักโขม แครอท เป็นต้น
  • ผักและผลไม้ที่ช่วยชะลอวัย คืนความสดชื่นให้แก่ผิว ได้แก่ ฝรั่ง มะเขือเทศ แตงกวา บล็อกโคลี่ เป็นต้น
  • ผลไม้ที่ช่วยบำรุงผิวแห้งให้ชุ่มชื่นจากภายใน ได้แก่ แตงโม แคนตาลูป แอปเปิล ส้ม กีวี เป็นต้น 

ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในห้อง

6. ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในห้อง

ในช่วงหน้าหนาวหลายๆ คนอาจจะกำลังเผชิญกับปัญหาผิวแห้งแบบไม่ทันตั้งตัว บางคนรู้สึกคันยุบยิบตามผิวหนัง หรือรู้สึกแสบผิวเพราะผิวแห้งและเพราะอากาศที่เย็น ไม่มีความชื้น ดังนั้นการแก้ปัญหากับสิ่งนี้คือการต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบ้านที่พักอาศัยของเรา ซึ่งเครื่องเพิ่มความชื้นจะเปลี่ยนน้ำในตัวเครื่องให้กลายเป็นไอน้ำออกมาเพื่อเพิ่มความชื้นให้ห้อง นอกจากเครื่องเพิ่มความชื้นจะช่วยดูแลผิวในหน้าหนาวของเราให้ไม่แห้งแล้ว ยังทำให้การหายใจของเราสะดวกและสามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน

ทำหัตถการแก้ผิวแห้ง

7. ทำหัตถการแก้ผิวแห้ง

หลายๆ คน อาจรู้สึกว่าแม้จะลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแห้งหลายๆ ตัวก็แล้ว แต่เพราะสภาพผิวที่แตกต่างกันของแต่ละคน ทำให้ผิวเราก็ยังกลับมาแห้งอยู่ดี จนไม่รู้ว่าผิวแห้งต้องทำไงดี อาจจะลองเปลี่ยนวิธีการบำรุงผิวและหาตัวช่วยเพิ่มเติมอย่างหัตถการทางการแพทย์ที่จะช่วยดูแลผิวเราอย่างเฉพาะ 

  • ฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่จะช่วยเพิ่มเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพราะว่ามี Hyaluronic Acid ที่จะเข้ามากักเก็บน้ำให้กับผิวหนัง จึงทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์ผิวจะกลับมาดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง เป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจในการดูแลผิวหน้าหนาวเลยทีเดียว 
  • ดริปผิว คือการกู้ปัญหาผิวตัวแห้งที่น่าสนใจและเห็นผลเร็ว เนื่องจากในหน้าหนาวผิวของเราต้องการวิตามินเพิ่มเติมเพราะอากาศที่แห้งขึ้นมากๆ การเติมวิตามินที่ผิวและสารอาหารที่จำเป็นผ่านการดริปผิวจะทำให้วิตามินเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ทำให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้นบำรุงผิวแห้งจากภายใน ซึ่งหากเรามีการฉีดวิตามินอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีมากยิ่งขึ้น 

 

สรุป

การดูแลและบำรุงผิวแห้งในช่วงหน้าหนาวเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากๆ เพราะนอกจากการที่ผิวแห้ง แตกจะทำให้เราดูโทรมจนเราอาจจะขาดความมั่นใจแล้ว ยังทำให้เราเสียบุคลิกภาพได้ เนื่องจากอาการคันยุบยิบตามผิว ดังนั้นจึงควรที่จะดูแลผิวตั้งแต่การอาบน้ำ ทำความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เลือกทานผักและผลไม้เพื่อเพิ่่มความเปล่งปลั่งและดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเป็นการดูแลผิวในหน้าหนาวให้แลดูสุขภาพดี 

 

หากใครที่รู้สึกว่าการบำรุงผิวแห้งด้วยตัวเองอาจจะยังไม่เพียงพอ หรือต้องการดูแลผิวมากขึ้นและแก้ปัญหาผิวแห้งแบบเร่งด่วน การเลือกใช้หัตถการทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เลยทีเดียว ที่ The Street Ratchada มีคลินิกความงามที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่จะช่วยกู้คืนผิวแห้งของเราให้กลับมาชุ่มชื้น สดใส เปล่งปลั่งได้ง่ายๆ โดยการดูแลภายใต้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รับรองได้เลยว่าไม่มีผิดหวัง อีกทั้งยังเดินทางง่ายและสะดวกมากๆ เพราะติดกับ MRT หากดูแลผิวกันเสร็จแล้ว ที่ The Street Ratchada  ยังมีสินค้าและบริการอื่นๆ ให้เลือกใช้และเพลิดเพลินได้มากมาย เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวเลย! 

Related