เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับมือใหม่ เริ่มต้นขายของออนไลน์แบบ Step by Step

ในยุคที่การสื่อสารสะดวกสบาย บวกกับสถานการณ์โควิด-19 หลายคนคงเริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ที่แม้ไม่ต้องขยับร่างกายไปไหนก็ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ การขายของออนไลน์อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผุดขึ้นมาในใจของใครหลายคน แต่พอนึกว่าจะขายอะไรที่ไหนและอย่างไรก็ต้องกลับมานั่งครุ่นคิดกันเป็นวัน ๆ วันนี้เราจึงอยากจะแนะนำวิธีการเริ่มต้นขายของออนไลน์แบบ Step by Step ที่จะช่วยปั้นแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์มือฉมังได้แม้ในเวลาสั้น ๆ 

สารบัญ How to เริ่มต้นขายของออนไลน์

• ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นขายของออนไลน์
• ขายอะไรจึงจะรุ่ง
• ขั้นตอนการขายของออนไลน์
• ช่องทางการขายออนไลน์
• ช่องทางการชำระเงิน
• เสริมทัพด้วยบริการคุณภาพ
• แม่ค้าออนไลน์ส่งของยังไง

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นขายของออนไลน์ 

การเริ่มต้นขายของออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงกล้าที่จะเริ่มก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ที่สำคัญเหล่าแม่ค้าพ่อค้ามือใหม่ต้องหมั่นเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง หากเรารู้เทคนิคในการเริ่มต้นขายของออนไลน์ที่นำมาฝากกันวันนี้ก็สามารถเก่งขึ้นได้ในชั่วพริบตา 

• เข้าใจความต้องการของตลาด 

ลูกค้าทุกคนล้วนอยากได้สินค้าราคาถูก คุณภาพดี มีตัวเลือก และซื้อขายไม่ยุ่งยาก เราควรหมั่นสังเกตดูพฤติกรรม และรสนิยมของลูกค้าเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม เมื่อคิดสินค้าและออกแบบแผนการขายได้แล้วอาจเริ่มต้นขอคำแนะนำจากคนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งลองถามตัวเองว่าจะซื้อสินค้าชิ้นนี้เพราะอะไร และอะไรทำให้ต้องตัดสินใจซื้อ 

• เอาชนะคู่แข่งให้อยู่หมัด 

ก่อนจะเริ่มต้นขายของออนไลน์ควรคำนึงคือคู่แข่ง เพราะเจ้าแรกในตลาดอาจไม่ใช่เรา ควรสร้างความแตกต่างให้กับร้านและสินค้าด้วยการค้นหาอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจน รวมถึงใช้วิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่และไม่มีใครเคยทำ ที่สำคัญอย่านำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเจ้าเก่าที่ประสบความสำเร็จมาก่อน ให้ขยันและอดทน ไม่นานนักก็จะเอาชนะในสังเวียนนี้ได้ 

• กฏหมายเบื้องต้นที่ควรรู้ 

แม้การขายของออนไลน์จะเริ่มแพร่หลายมาไม่กี่ปี แต่กฎหมายและข้อควรรู้ก็มีอยู่มากที่ควรทำความเข้าใจก่อนเริ่มต้นขายของออนไลน์ ข้อแรกสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่มีลูกเล่นการขายแพรวพราวต้องระวังเผลอโฆษณาเกินจริง รวมถึงการฝากร้านที่ดูไม่มีพิษภัยก็ต้องขออนุญาตเจ้าของ account นั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน มิฉะนั้นอาจโดนฟ้องร้องข้อหาก่อกวนหรือสแปม สุดท้ายแม้การขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่กำไรที่ได้ต้องนำมาคิดคำนวณจ่ายเป็นภาษีให้กับรัฐบาลเสมอ 

ขายอะไรจึงจะรุ่ง 

ตลาดออนไลน์ต่างจากตลาดที่ต้องแวะเป็นประจำที่หน้าปากซอย พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่เมื่อเริ่มต้นขายของออนไลน์ควรสร้างสรรค์ปรับประยุกต์สินค้าและรูปแบบการขาย เพิ่มลูกเล่นทั้งการใส่วัตถุดิบชั้นสูง หีบห่อรักษ์โลก หรือโปรโมชั่น 2 แถม 1 เพื่อให้โดนใจลูกค้าในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของสินค้าอีกมากมายที่สามารถเลือกนำมาขายได้

• จับกระแสฮิตกับสินค้าอินเทรนด์ 

สินค้าอย่างแรก ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ที่เริ่มต้นขายของออนไลน์มักนึกถึงก็คือสินค้าอินเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเคสโทรศัพท์มือถือลายการ์ตูน เสื้อผ้าที่ดาราใส่ลงไอจี หรือสินค้าเอาใจคอคนรักสุขภาพ เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าสายโซเชียลที่รวดเร็วฉับไว ขยันอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ 

• เป็นตัวแทนทั้งง่ายและสะดวก 

ปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายหันมาจับตลาดออนไลน์มากขึ้น และพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นขายของออนไลน์ก็เป็นที่หมายปองเสียด้วย จึงไม่ยากหากจะติดต่อขอรับสินค้ามาขาย ทั้งนี้ก่อนเริ่มทำสัญญาต้องมั่นใจว่าสินค้าที่รับมานั้นอยู่ในความสนใจและความถนัดของเรา พร้อมวิเคราะห์ดูความมั่นคงของผู้ผลิตและความเสี่ยงที่อาจตามมา 

• ย้ายสายมาเป็นพรีออเดอร์ 

การพรีออเดอร์คือการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่ได้มีอยู่ในสต็อกที่ต้องสั่งทำตามจำนวน หรือรับเข้ามาจากต่างประเทศ หากอยากเริ่มต้นขายของออนไลน์ด้วยการหันมาเป็นสายพรีออเดอร์ควรตรวจดูคุณภาพของสินค้าที่จะสั่งมา มิฉะนั้นอาจจะเจอปัญหาสินค้าไม่ตรงปก และควรระวังเรื่องระยะเวลาในการขนส่งในกรณีที่รับพรีออเดอร์มาจากที่ไกล ๆ 

• เปลี่ยนเวลาว่างเป็นเครื่องทำเงิน 

หลายคนอาจชอบถักโครเชต์ บ้างก็เป็นเซียนเรื่องอัญมณี พอจะเริ่มต้นขายของออนไลน์ก็นำของเหล่านั้นมาขยายต่อเป็นธุรกิจให้เป็นตัวเป็นตน แต่ข้อพึงระวังคือต้องเข้าใจความซับซ้อนของตลาดที่อาจไม่ตรงตามจริตของเราเสมอไป เหล่าพ่อค้าแม่ค้าผู้มีแพชชั่นจึงควรปรับความชื่นชอบให้เหมาะสมกับการขายเสมอ 

ขั้นตอนการขายของออนไลน์ 

• ต้นทุนและกำไรต้องสมเหตุสมผล 

จะเริ่มขายของออนไลน์ได้ต้องคำนึงถึงต้นทุนและกำไร หาวิธีปรับลดต้นทุนเพื่อความยั่งยืน หากเป็นอาหารควรลดปริมาณวัตถุดิบที่ราคาแพง หรือหากเป็นสิ่งของก็ควรลดขนาดของวัสดุ ที่สำคัญไม่ควรปรับราคาให้แพงเกินไป เพราะอาจทำให้เสียเปรียบในตลาดออนไลน์ที่แข่งขันกันด้วยราคาย่อมเยาและคุณภาพ 

• รู้จักลูกค้าก่อนลงมือขาย 

ลูกค้าในโลกออนไลน์มีมากมายหลายช่วงอายุและมีรสนิยมที่แตกต่าง ก่อนจะเริ่มลงมือขายต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายและศึกษาลูกค้าของเราให้ดี พร้อมคิดแผนการขายที่สอดคล้องกับความสนใจ และหาช่องทางที่จะมัดใจพวกเขาได้อยู่หมัด 

• ซัพพลายเออร์คือกุญแจแห่งความสำเร็จ 

ซัพพลายเออร์ (supplier) หมายถึงผู้ที่จัดหาสินค้าและบริการให้กับธุรกิจอื่น สำหรับช่วงเริ่มต้นขายของออนไลน์ควรรู้ว่าซัพพลายเออร์เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จของธุรกิจ ต่อรองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ได้สินค้ามาขายตามเวลา เช่น ตกลงวิธีการชำระเงิน มูลค่าที่ต้องชำระ และรวมทั้งประเมินความเสี่ยง เช่น ข้อผิดพลาดในระหว่างจัดส่ง หรือได้รับสินค้าช้ากว่ากำหนด 

• สะดุดหูตั้งแต่ชื่อร้าน 

เริ่มหาไอเดียตั้งชื่อร้านให้แปลกและแหวกแนวชนิดที่ใคร ๆ ก็ต้องหยุดอ่าน นอกจากนี้ชื่อร้านที่ดีควรสะท้อนตัวตนของธุรกิจ สามารถเดาได้ว่าสินค้าและบริการจะเป็นแนวไหน และมั่นใจได้ทันทีว่าของที่ขายนั้นมีคุณภาพและรสนิยมตรงกับลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น 

• พบจุดขายยอดขายพุ่ง 

จุดขายของร้านนอกจากสินค้ายังรวมถึงกลยุทธ์ที่คาดไม่ถึง เมื่อเริ่มต้นขายของออนไลน์ให้หมั่นคอยส่องร้านข้าง ๆ หาความแตกต่างของเรากับคู่แข่ง เริ่มอ่านรีวิวหรือคอมเมนต์ที่ลูกค้ามองว่าจำเป็นแต่ธุรกิจเหล่านั้นยังไม่ตอบโจทย์ เพราะหากจะสร้างจุดขายก็ต้องมุ่งเน้นไปที่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้ให้มากที่สุด 

• ต่อยอดด้วยแผนการตลาดระยะยาว 

ความสำเร็จจากยอดขายถล่มทลายอาจไม่อยู่ค้ำฟ้า เริ่มสร้างแผนการตลาดให้เป็นกิจลักษณะ วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคในการทำธุรกิจ กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเป็นยอดขายต่อเดือนที่ควรได้ พร้อมจับตาดูสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุก ๆ วัน 

• ขายของออนไลน์ต้องแข่งกับเวลา 

เวลาคือปัจจัยชี้เป็นชี้ตายของธุรกิจออนไลน์ ลูกค้าล้วนต้องการคำตอบจากผู้ขายทันทีเมื่อพวกเขาสนใจ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียโอกาสควรเตรียมหาแอดมินที่ไว้ใจได้เพื่อตอบกลับคำถามที่เข้ามา นอกจากนี้ยังต้องคอยตรวจสอบเวลาในการจัดส่งสินค้าให้ดีเพื่อให้ทันภายในเวลาที่ตกลงกับลูกค้าหรือที่ได้โฆษณาไว้ 

ช่องทางการขายออนไลน์ 

• E-Commerce หรือ E-Market place 

ช่องทางแรกสำหรับการเริ่มต้นขายของออนไลน์คือการทำเว็บไซต์ E-Commerce ที่สามารถจัดการการสั่งซื้อได้ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่หากยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ลองหันมาหา E-Marketplace หรือแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีผู้พัฒนาไว้แล้ว ที่มีหลายเจ้าให้เราเลือกใช้กัน ทั้ง Shopee, Lazada, Line Shopping, Amazon หรือ eBay เป็นต้น 

• บุกตลาดใหม่บนโลกโซเชียล 

เพียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็มีแอปพลิเคชันที่คุ้นตาให้เลือกใช้เป็นช่องทางทำกินได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Twitter โดยแต่ละแอปพลิเคชันก็มี feature การใช้งานที่แตกต่างกัน 

• Facebook ใช้ให้ดีก็เป็นเศรษฐี 

Facebook เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ทั้งยังเหมาะกับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นขายของออนไลน์เพราะยกระดับการขายแบบมืออาชีพได้ง่าย ๆ ด้วย Facebook for Business ที่สามารถสร้าง Collection ของสินค้า คิดโปรแกรมการขายของเราเอง 

• ฉลาดใช้ Instagram เพื่อเพิ่มยอดขาย 

มาถึงแอปพลิเคชันที่คนดังชอบใช้อย่าง Instagram กันดูบ้าง ลองเปลี่ยนจากใส่ข้อมูลในแคปชั่นมาเป็นใส่รายละเอียดไว้ในรูปให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็นทันที ขยันใช้สตอรี่ให้คุ้มค่า ที่สำคัญลองใช้บริการ Instagram Shopping เพื่อแชร์ผลิตภัณฑ์เด่นผ่านโพสต์เพื่อให้ลูกค้าค้นพบผลิตภัณฑ์ของเราผ่าน feature อย่าง Instagram’s Search & Explore 

• เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเฉพาะกับ feature เด็ด ๆ ใน Twitter 

นอกจากสร้าง Hashtag ใน Twitter ให้คนติดตามกันได้ง่าย ๆ ยังมีตัวเลือกระหว่างการโปรโมตทวีตกับเรียกใช้โฆษณา Twitter เพื่อให้คนเห็นได้เยอะขึ้น นอกจากนี้การใช้ Twitter ยังช่วยให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มตลาด Niche หรือสินค้าที่มีผู้ชื่นชอบจำนวนน้อยเหมาะสำหรับพ่อค้าและแม่ค้าสายอินดี้ 

และสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่คนไหนที่เลือกช่องทางขายของออนไลน์ได้แล้ว แต่ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี เราขอแนะนำ Page365 ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร ตัวช่วยจัดการทุกขั้นตอนการขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการรวมแชท ทั้ง Facebook, Instagram, Line Official Account ไว้ในที่เดียว ให้พ่อค้าแม่ค้าตอบแชทลูกค้าได้สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องสลัปแอปฯ ตลอดจนรับออเดอร์, ระบบบิลออนไลน์, การจัดส่ง และจัดการสต๊อก ที่สำคัญ ฟรีทุกขั้นตอน เพื่อให้มือใหม่จัดการทุกอย่างได้ ง่าย ในระบบเดียว 

ช่องทางการชำระเงิน 

ยิ่งมีตัวเลือกการชำระเงินมากก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น ที่สำคัญผู้ที่เริ่มต้นขายของออนไลน์ต้องมั่นใจว่าจะสามารถคุมช่องทางการชำระเงินได้ทั้งหมด และตรวจสอบเงินเข้าเงินออกได้ในทันที 

• โอนผ่านธนาคาร 

การโอนเงินเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมาก เพราะเพียงเข้าไปในแอปพลิเคชันของธนาคารก็สามารถกดโอนเงินได้ในไม่กี่วินาที สำหรับพ่อค้าแม่ค้าอย่าลืมกดสมัครรับบริการแจ้งเตือนเมื่อมีลูกค้าโอนเงินเข้า และแจ้งลูกค้าให้ส่งสลิปการโอนอิเล็กทรอนิกส์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในการซื้อขาย 

• ชำระผ่าน Payment Gateway  

ผู้ขายอาจหันมาใช้บริการ Payment Gateway โดยมี 2 ปรเภท คือ ระบบที่เชื่อมต่อกับธนาคารโดยตรง เช่น K-Payment Gateway และ ระบบที่มีผู้ให้บริการตัวกลางชำระเงิน เช่น Omise, PayPal, Shopee pay หรือ Rabbit Line pay ที่ทุกวันนี้ก็ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย 

• ชำระผ่านบัตรเครดิต 

การรับชำระผ่านบัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าที่กำลังสะสมแต้มบัตรเครดิต หรือได้ส่วนลดจากการใช้จ่ายบนบัตร อีกทั้งบัตรเครดิตยังเหมาะมาก ๆ สำหรับการจับจ่ายหนัก ๆ ที่จะช่วยทำให้กิจการของเราคึกคักขึ้นได้ดีไม่น้อย 

• เก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery 

การเก็บเงินปลายทางเหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากใช้เงินสดมากกว่าออนไลน์ หรืออาจจะสั่งซื้อของให้ผู้อื่น และต้องการให้บุคคลนั้นเป็นผู้ชำระเงินเองที่ปลายทาง วิธีนี้แม้จะดูง่ายสำหรับลูกค้าแต่สำหรับผู้ขายต้องตกลงกับผู้จัดส่งให้ดีถึงค่าธรรมเนียมที่อาจตามมาทีหลัง 

เสริมทัพด้วยบริการคุณภาพ 

• บริการก่อนการขาย 

ในช่วงเริ่มต้นขายของออนไลน์ที่ร้านยังไม่เป็นที่รู้จักมาก กลเม็ดเด็ดที่ช่วยเพิ่มยอดขายคือการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา คอยรอรับคำถามจำนวนมาก รวมถึงให้คำปรึกษาเพื่อการตัดสินใจซื้อที่ถูกต้อง 

• บริการระหว่างการขาย 

เมื่อลูกค้าเริ่มสนใจพ่อค้าแม่ค้าไม่ควรยัดเยียดหรือพยายามขายสินค้าอื่นจนดูน่าเกลียด หรือเพิ่มแพคเก็จที่อยู่นอกเหนือไปจากความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญควรให้บริการตามลำดับก่อนและหลัง ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะหากลูกค้ารู้เข้าก็คงไม่ปลื้มแน่ ๆ 

• บริการหลังการขาย 

ลูกค้าในวันนี้อาจจะกลับมาใหม่ในวันต่อไป ดังนั้นอย่าลืมแอบใส่ของขวัญหรือการ์ดขอบคุณไปพร้อมกับสินค้า คอยติดตามสอบถามความพึงพอใจอยู่เป็นระยะ หากทำได้ครบก็อาจได้ฐานลูกค้าประจำที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับอาณาจักรออนไลน์ของเราต่อไป 

แม่ค้าออนไลน์ส่งของยังไง 

หลายคนคงสงสัยว่าในการเริ่มต้นขายของออนไลน์ แม่ค้าออนไลน์ส่งของกันยังไง วันนี้เราก็มีวิธีที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ทุกคน 

• ตรวจสอบค่าขนส่งตามระยะทาง 

ยิ่งไกลยิ่งแพงอาจฟังดูสมเหตุสมผล แต่เราสามารถสอบถามบริษัทขนส่งและลองเปรียบเทียบราคาหลายเจ้าเพื่อความคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าได้แจ้งลูกค้าชัดเจนเกี่ยวกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มในกรณีหากลูกค้าอยู่ไกลจากร้านของเรา 

• วัดขนาดและน้ำหนักสินค้าก่อนส่งทุกครั้ง 

ก่อนส่งทุกครั้งควรตรวจสอบตารางน้ำหนักและราคาให้ดี ที่สำคัญการเลือกใช้กล่องพัสดุที่เหมาะสมกับขนาดของสินค้าก็จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้มาก เพราะหลายครั้งบริษัทขนส่งจะคิดราคาเพิ่มตามความกว้างและความยาวของกล่องที่มากขึ้น 

• เลือกวิธีการขนส่งที่ใช่ 

หน้าร้านดี สินค้าเลิศ บริการประทับใจ แต่ของไปไม่ถึงที่หมาย หรือสภาพบุบบี้ สิ่งที่ทุ่มเทปั้นกันมาก็สูญเปล่าได้ เราจึงควรเลือกบริการขนส่งที่ดีที่จะช่วยนำสินค้าของเราไปถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย 

• ส่งทั่วทุกเขตในเมืองไทย 

หากนึกถึงการขนส่งพัสดุในประเทศคงหนีไม่พ้นไปรษณีย์ไทยที่อยู่คู่คนไทยมาเป็นศตวรรษ นอกจากนี้ยังมีบริการจากน้องใหม่หลายเจ้า เช่น Kerry Express, Flash Express, J&T Express และ SCG Express ที่ต่างแห่ทัพกันมารับประกันความเร็วและโปรโมชั่นเอาใจพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อยู่เสมอ 

• ส่งของไปต่างประเทศ 

รู้หรือไม่ทุกวันนี้ไปรษณีย์ไทยก็ช่วยให้แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ส่งของไกลไปต่างประเทศได้แล้วด้วย EMS World หรืออาจลองใช้บริการของบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง DHL ที่เช็คค่าบริการได้ล่วงหน้า นัดหมายให้เจ้าหน้าที่มารับพัสดุได้ถึงหน้าร้าน หรือหากเน้นส่งเร็วส่งด่วนก็สามารถวางใจได้ด้วยบริการของ FedEx ที่ส่งของถึงลูกค้าได้เร็วภายใน 1 – 3 วันเท่านั้น 

ก่อนจากกันวันนี้หากพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่คนไหนที่พร้อมเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์แล้ว อย่าลืมแวะมาที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา โลจิสติกส์ ฮับ ใหญ่ใจกลางเมืองกรุงฯ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะที่เดอะ สตรีท เราครบครันในเรื่องการขนส่งทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังสะดวกรวดเร็ว บริการประทับใจ สามารถฝากส่งสินค้าได้ทุกรูปแบบที่ศูนย์การค้าฯ แห่งนี้ที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า SMEs และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ตรวจสอบโลจิสติกส์ให้บริการที่เดอะ สตรีท รัชดาได้ที่ The Street Ratchada Logistic Hub