5 สูตรเมนู ช็อกโกแลต สำหรับ Chocolate Lover ทำเองได้ที่บ้าน

เอาใจคนชอบโกโก้ หรือช็อกโกแลต ด้วยเมนูช็อกโกแลตที่ทำกินเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ถึงจะที่บ้านไม่มีเตาอบ หรือไม่มีฝีมือในการทำอาหารก็สามารถทำเองได้ ถูกใจ Chocolate Lover บทความนี้ได้รวบรวม 5 สูตรเมนูช็อกโกลตยอดฮิต จะมีเมนูไหนน่าสนใจและน่าลองทำบ้าง ไปดูกันเลย

เมนูที่ 1 ช็อกโกแลตเย็น

อากาศร้อน ๆ แบบนี้ จะขาดเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่แสนจะชื่นใจอย่างช็อกโกแลตเย็นไปไม่ได้ หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าช็อกโกแลตเย็นกับโกโก้เย็นต่างกันอย่างไร ต้องบอกเลยว่ารสชาติทั้งสองอย่างมีความใกล้เคียงกัน แต่ช็อกโกแลตเย็นจะหอมกลิ่นช็อกโกแลตมากกว่า และไม่เข้มเท่าโกโก้ วิธีทำก็คล้ายกัน แต่สัดส่วนของนมกับผงโกโก้จะต่างกันเล็กน้อย

สูตรช็อกโกแลตเย็น

ส่วนผสม (ขนาด 16 Oz)

• ผงช็อกโกแลตหรือผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำร้อน 50 มิลลิลิตร
• นมสด 100 มิลลิลิตร
• น้ำแข็ง

วิธีทำ

1. ใส่ผงช็อกโกแลตหรือผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะและน้ำร้อน 50 มิลลิลิตร ลงในแก้ว
2. คนให้ส่วนผสมทั้งสองละลายจนหมด
3. นำแก้วขนาด 16 ออนซ์ ใส่น้ำแข็งให้เต็มแก้ว เทส่วนผสมที่คนไว้ลงไป
4. เทนมสดลงในแก้ว เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ! จะบีบวิปครีมตกแต่งหรือใส่ไข่มุกเพิ่มความอร่อยก็ได้

เมนูที่ 2 มาชเมลโล่เคลือบช็อกโกแลต

มาชเมลโล่นุ่มหนึบหนับเคลือบช็อกโกแลต เมนูที่ทำง่าย ถูกใจทุกเพศทุกวัย หรือจะชวนลูกหลานมาทำเมนูนี้ เป็นกิจกรรมในครอบครัวสนุก ๆ ก็เข้าท่า แถมอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก็มีไม่เยอะอีกด้วย

สูตรมาชเมลโล่เคลือบช็อกโกแลต

ส่วนผสม

• มาชเมลโล่
• ช็อกโกแลตชิป 2 ช้อนโต๊ะ
• ไวท์ช็อกโกแลตชิป 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำช็อกโกแลตชิปและไวท์ช็อกโกแลตชิปมาผสมเข้าด้วยกัน
2. นำช็อกโกแลตที่ผสมแล้วเข้าในไมโครเวฟ อุ่นประมาณ 30 วินาที หรือจนกว่าช็อกโกแลตจะละลาย
3. คนช็อกโกแลตที่ละลายแล้วให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4. นำมาชเมลโล่มาจุ่มช็อกโกแลต หรือจะนำผลไม้อื่น ๆ อย่างสตรอว์เบอร์รี กีวี่ แอปเปิล มาชุบกับช็อกโกแลตก็อร่อยเหมือนกัน สามารถตกแต่งด้วยคุกกี้บด หรือเกล็ดน้ำตาลสี เพิ่มความน่ารับประทานก็ได้
5. นำเข้าตู้เย็นซักพักให้ช็อกโกแลตเซ็ตตัว จากนั้นก็นำมาจัดปาร์ตี้ที่บ้านได้เลย

เมนูที่ 3 บัวลอยไส้ช็อกโกแลต

ใครที่เบื่อบัวลอยแบบเดิม ๆ ลองเปลี่ยนมาทำเมนูขนมหวานแบบฟิวชั่นอย่างบัวลอยไส้ช็อกโกแลตดู แล้วเปลี่ยนจากกะทิเป็นนมสด แป้งบัวลอยเหนียวหนึบ ไส้ช็อกโกแลตเน้น ๆ บวกกับนมหวานมัน เหมาะสำหรับกินในวัน Cheat Day มาก ๆ จะกินแต่ตัวแป้งเปล่า ๆ กับไส้ช็อกโกแลต ก็ได้อารมณ์เหมือนขนมไดฟูกุของญี่ปุ่นเลย

สูตรบัวลอยไส้ช็อกโกแลต

ส่วนผสม

• แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
• นมสดรสจืด 225 มิลลิลิตร 2 กล่อง
• ผงโกโก้ 40 กรัม
• นมข้นหวาน 100 กรัม
• สีผสมอาหาร

วิธีทำ

1. เริ่มจากทำไส้ช็อกโกแลต โดยการแบ่งผงโกโก้เป็นสองส่วน อย่างละ 125 กรัม
2. อุ่นนมข้นหวานในไมโครเวฟ 30 วินาที จากนั้นร่อนผงโกโก้ในส่วนแรกผสมลงไป
3. คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นผสมโกโก้ส่วนที่เหลือลงไปทั้งหมด
4. คนจนส่วนผสมเข้ากันจนเป็นสีน้ำตาล และเริ่มเหนียวจนจับตัวเป็นก้อน จากนั้นใช้มือปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาด 9 – 10 กรัม พักไว้
5. จากนั้นทำตัวแป้งบัวลอย โดยการนำนม 1 กล่อง เทใส่ภาชนะ อุ่นในไมโครเวฟ 1 นาที พอให้นมอุ่น ๆ
6. ผสมนมที่อุ่นไว้กับแป้งข้าวเหนียว นวดจนแป้งเนียนและสามารถปั้นได้ ใส่สีผสมอาหารเพิ่มความสวยงามตามใจชอบ
7. ทำการรวมร่างระหว่างแป้งและตัวไส้ โดยการแผ่แป้งเป็นแผ่นกลม ๆ แล้ววางไส้ช็อกโกแลตที่ปั้นไว้ลงตรงกลาง
8. นำบัวลอยที่ปั้นเสร็จแล้วลงไปต้มในน้ำเดือดจนสุก และแป้งลอยขึ้นมา เมื่อแป้งสุกแล้วให้ตักขึ้นมา พักไว้ในน้ำเย็น
9. นำนมสดที่เหลืออีก 1 กล่อง มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทรายตามใจชอบ คนจนน้ำตาลละลาย และปิดไฟ
10. ตักแป้งบัวลอยใส้ช็อกโกแลตใส่ถ้วย และราดด้วยนมสด เท่านี้ก็อร่อยแล้ว

เมนูที่ 4 Nama chocolate

ขนมยอดฮิตต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ที่สาวกช็อกโกแลตต้องห้ามพลาด! เพราะทำจากส่วนผสมแค่ 3 อย่างเท่านั้น แถมเลือกความเข้มของช็อกโกแลตเองได้ตามใจชอบอีกด้วย ปกติแล้วจะเลือกความเข้มของช็อกโกแลตที่ 50-60% แต่ถ้าใครชอบเข้มกว่านั้นก็จัดไปเลย 70% ทำแล้วแช่ตู้เย็นเก็บไว้ อยากกินเมื่อไหร่ก็หยิบมากินได้เพลิน ๆ

สูตร Nama chocolate

ส่วนผสม

• ดาร์กช็อกโกแลต จำนวน 400 กรัม
• วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
• ผงโกโก้ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ใส่ดาร์กช็อกโกแลต 400 กรัม ลงไปผสมกับวิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร ในกะละมัง หรือภาชนะที่ทนความร้อน
2. ตั้งหม้อ ใส่น้ำ จนเดือด และนำภาชนะที่ผสมดาร์กช็อกโกแลตกับวิปปิ้งครีมวางลงไปข้างบน เพื่ออุ่นให้ส่วนผสมทั้งสองละลายเข้ากัน
3. ปิดไฟ นำส่วนผสมที่ละลายแล้วเทลงภาชนะ เกลี่ยให้เรียบ เคาะไล่ฟองอากาศเล็กน้อย และนำเข้าแช่ในตู้เย็น
4. เมื่อแช่จนช็อกโกแลตเซ็ตตัวแล้ว ให้นำออกมาตัดเป็นชิ้น 4 เหลี่ยมเล็ก ๆ
5. จากนั้นร่อนผงโกโก้ลงไปให้ทั่ว เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย!

เมนูที่ 5 Molten Chocolate Cake

สำหรับชาวช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ จะต้องอินกับเค้กช็อกโกแลตลาวา หรือ Molten Chocolate Cake กันอย่างแน่นอน มีหลาย ๆ ร้านที่ทำ Molten Chocolate Cake ออกมาขาย แต่สำหรับใครที่เดินทางลำบาก ไปซื้อทีไรไม่เคยทัน ของหมดก่อนตลอด ก็ทำกินเองไปเลย ส่วนผสมอาจจะดูเยอะ และต้องมีเตาอบในการทำ แต่สูตรนี้ทำตามได้ไม่ยากอย่างที่คิด

สูตร Molten Chocolate Cake

ส่วนผสม

• ดาร์กช็อกโกแลต 120 กรัม
• ครีมชีส 60 กรัม
• ไข่แดง 2 ฟอง
• แป้งเค้ก 2 ช้อนชา
• ไข่ขาว 2 ฟอง
• ผงโกโก้ 20 กรัม
• นมสด 250 กรัม
• น้ำตาลทราย 30 กรัม
• แป้งข้าวโพด 7 กรัม
• เนยเค็ม 15 กรัม

วิธีทำ

1. ใส่ช็อกโกแลต 80 กรัม และครีมชีส 60 กรัมลงไปผสมให้เข้ากัน
2. จากนั้นใส่ไข่แดง 2 ฟองลงไปผสมให้เข้ากัน
3. ใส่แป้งเค้ก 2 ช้อนชาลงไปผสมแล้วพักไว้
4. นำไข่ขาวมาเทลงภาชนะ ใช้เครื่องตีวิปครีม ตีจนกว่าไข่ขาวจะตั้งยอดอ่อน
5. นำไข่ขาวที่ตีไว้เทใส่ช็อกโกแลตที่ผสมไว้ก่อนหน้า แบ่งผสมทีละครึ่ง และตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนื้อเนียน
6. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในพิมพ์ เคาะถาดให้หน้าเรียบ จากนั้นนำพิมพ์มาวางในถาดที่ใส่น้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย
7. นำทั้งหมดเข้าเตาอบ อบด้วยไฟบนล่าง 160 องศา 15 นาที
8. เสร็จแล้วรอให้เซ็ตตัวซักพัก แล้วนำเค้กที่อบไว้วางพักบนตะแกรง
9. จากนั้นมาทำซอสช็อกโกแลตโดยการละลายแป้งข้าวโพด 7 กรัมกับนมสดเล็กน้อย คนจนแป้งข้าวโพดละลายหมด
10. ใส่นมสด 250 กรัม ผงโกโก้ 20 กรัม และน้ำตาลทราย 30 กรัม ลงไปในหม้อ คนส่วนผสมให้เข้ากันและเปิดไฟ
11. เมื่อส่วนผสมเดือด ใส่แป้งข้าวโพดที่ผสมนมไว้ลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเดือดอีกรอบ
12. ปิดเตาและใส่เนยเค็ม 15 กรัมลงไปผสม คนจนเข้ากัน
13. ใส่ดาร์กช็อกโกแลตอีก 30 กรัมลงไปผสม คนจนกว่าช็อกโกแลตจะละลายหมด
14. นำเค้กช็อกโกแลตที่พักไว้มาราดด้วยซอสช็อกโกแลต ตกแต่งด้วยผงโกโก้ด้านบน เพียงเท่านี้ก็ได้ Molten Chocolate Cake อร่อย ๆ แล้ว

เป็นอย่างไรบ้าง กับ 5 สูตรเมนูช็อกโกแลตง่าย ๆ ที่นำมาฝากในวันนี้ จะทำกินที่บ้านก็ได้ หรือจะทำขายก็เวิร์ค ถูกใจสาย Chocolate Lover สุด ๆ แถมสามารถปรับความหวานและความเข้นข้นได้ตามใจชอบอีกด้วย ในส่วนของวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ที่ Foodland Supermarket ชั้น B ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดาที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับทำช็อกโกแลตอย่างร้าน Miniso, ร้าน Moshi Moshi ชั้น 1 และร้าน Mr. DIY ชั้น 2 ที่มีให้ทุกคนได้เลือกซื้อได้อย่างครบถ้วนในที่เดียว